อาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ แถลงผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 2 ของปี 2562 มีรายได้จำนวนกว่า 3.6 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนใหญ่เป็นผลจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง กำไรจากการดำเนินงานที่ปรับตัวดีขึ้น ทำให้มีกำไรสุทธิเกือบ 1.1 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.9% จากไตรมาสก่อน แต่ลดลง 1.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยครึ่งปีแรกของปีนี้ ธนาคารมีกำไรสุทธิจำนวนกว่า 2 หมื่นล้านบาท
รายได้ดอกเบี้ยสุทธิของธนาคารไทยพาณิชย์ประมาณ 2.55 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน การเติบโตอย่างต่อเนื่องของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเป็นผลจากการปรับพอร์ตสินเชื่อของธนาคาร ด้วยการเพิ่มสัดส่วนของสินเชื่อที่ให้ผลตอบแทนสูง ขณะที่สินเชื่อโดยรวมขยายตัวประมาณ 3% จากปีก่อน ส่วนรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยประมาณ 1 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยของธนาคารเพิ่มขึ้น 6.6% จากการฟื้นตัวของรายได้หลักจากค่าธรรมเนียมสุทธิ การเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าธรรมเนียมจากธุรกรรมเพื่อค้าและปริวรรตเงินตราต่างประเทศ กำไรจากเงินลงทุนในไตรมาสที่ 2 รวมทั้งค่าใช้จ่ายที่เติบโตชะลอตัวลง โดยไม่มีผลกระทบของกฎหมายแรงงานใหม่เรื่องตั้งสำรองแต่อย่างใด โดยอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ปรับตัวจาก 51.6% ในไตรมาส 1 เป็น 46.2% ในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา
อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2562 ทรงตัวที่ 2.77% และในไตรมาส 2 ของปี 2562 ธนาคารได้ตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญรวม 5.9 พันล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราส่วนค่าใช้จ่ายหนี้สูญต่อสินเชื่อที่ 1.10% ส่งผลให้อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพอยู่ในระดับที่ 153% ในขณะที่เงินกองทุนตามกฎหมายของธนาคารยังอยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 17.1%
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล