- โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทวีตข้อความเผยการสนทนากับ สีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ระบุ ผลการหารือทางโทรศัพท์เป็นไปด้วยดี และจะมีการเจรจากันต่อไปในการพบกันวันที่ 28-29 มิถุนายนนี้ ระหว่างการประชุม G20 หลังสงครามการค้าส่งสัญญาณทวีความรุนแรงขึ้นในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา จากความล้มเหลวในการที่จะบรรลุข้อตกลงทางการค้าระหว่างกันได้
- เฟซบุ๊กประกาศออกคริปโตเคอร์เรนซี ‘ลิบรา’ (เงินดิจิทัล) มีกำหนดการเปิดตัวครั้งแรกไม่เกินไตรมาส 2 ปี 2020 โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อทำให้เฟซบุ๊กกลายเป็นซูเปอร์แอปพลิเคชัน สามารถทำธุรกรรมได้รอบด้าน ชำระค่าสินค้า โอนเงินด้วยค่าธรรมเนียมที่ต่ำ ผ่านแพลตฟอร์มแชตอย่าง Messenger และ WhatsApp
- ทรัมป์ส่งสัญญาณเตือน FED เล็งปลด เจอโรม พาเวลล์ อีกครั้ง หลังกล่าวว่า เป็นผู้ที่ทำให้สหรัฐฯ เสียเปรียบในสงครามการค้า และทำให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ไม่ดีเท่าที่ควร จากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องในช่วงเวลาที่ผ่านมา ขณะที่ฝั่งนักวิเคราะห์มองว่า เป็นการส่งสัญญาณกดดันไปยัง FED ให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยโดยไว เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และช่วยให้สกุลเงินดอลลาร์ไม่แข็งค่าจนเกินไป เนื่องจากทำให้มูลค่าดุลการค้าไม่พัฒนาขึ้นเท่าที่ควร อย่างไรก็ตาม แลร์รี คุดโลว์ หัวหน้าทีมที่ปรึกษาเศรษฐกิจ แจ้งว่า ทรัมป์ไม่ได้มีแผนพิจารณาปลดประธาน FED คนปัจจุบัน และกล่าวเพียงว่า มันเป็นเรื่องเมื่อ 6 เดือนก่อนหน้านี้ ซึ่งไม่ได้เป็นปัญหาในปัจจุบัน
- มาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) แถลงการณ์ พร้อมใช้นโยบายการเงินกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้น หลังเศรษฐกิจยุโรปยังไม่ฟื้นตัว และอัตราเงินเฟ้ออยู่ต่ำกว่าระดับเป้าหมาย จากความไม่แน่นอนทางการเมือง สงครามการค้า และความเปราะบางของตลาดเกิดใหม่ ส่งผลให้ ECB อาจนำมาตรการปรับลดอัตราดอกเบี้ย การเข้าซื้อพันธบัตร และปรับ Forward Guidance มาใช้อีกครั้ง พร้อมตอบโต้ทวีตของ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่กล่าวหาว่า ECB จงใจออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่ออ่อนค่าเงินยูโรลง เพื่อให้ได้เปรียบทางการค้าระหว่างประเทศ โดยระบุว่า เป้าหมายของ ECB คือการรักษาเสถียรภาพ ดูแลอัตราเงินเฟ้อให้ใกล้เคียง 2% และย้ำว่า พร้อมที่จะใช้ทุกมาตรการ เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายดังกล่าว โดยมิได้มีจุดมุ่งหมายไปที่อัตราแลกเปลี่ยนแต่อย่างใด
- บอริส จอห์นสัน ผ่านการลงมติท่วมท้น 40% หลัง เทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ และหัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยม (Conservative Party) ประกาศลาออกอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 6 มิถุนายนที่ผ่านมา ส่งผลให้ต้องมีการเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ เพื่อดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไป โดย บอริส จอห์นสัน ผู้สมัครเข้าชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยม (Conservative Party) ซึ่งมีจุดยืนด้านการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปชัดเจนภายในวันที่ 31 ตุลาคม ได้รับคะแนนเสียงนำมาเป็นลำดับที่ 1 ด้วยคะแนน 40% ของการลงมติ ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่า หากคะแนนนิยมของ บอริส จอห์นสัน ยังท่วมท้นต่อไป อาจส่งผลให้การแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปมีความชัดเจนมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อทิศทางเศรษฐกิจสหราชอาณาจักร และยุโรปเองมากกว่าที่จะต้องติดตามท่าทีการเจรจาอย่างต่อเนื่องไปถึงสิ้นปี
สภาวะตลาดวานนี้
- ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นมากกว่า 4% ขานรับความหวังของตลาด ถึงแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในภายภาคหน้า จากประเด็นสหรัฐฯ-จีนจะกลับมาเจรจากันอีกครั้ง และการกลับมากระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารกลางสหรัฐฯ
- ตลาดหุ้นทั่วโลกทะยานขึ้นขานรับ หลังทรัมป์ทวีตข้อความว่า สหรัฐฯ-จีนจะกลับมาเจรจากันในสัปดาห์ถัดไปหลังการประชุม G20 พร้อมกับความคาดหวังของนักลงทุนที่คาดว่า FED จะลดดอกเบี้ยในปีนี้
- ตลาดหุ้นไทยผ่านแนวต้านสำคัญ 1,680 ตามทิศทางตลาดหุ้นยุโรป ก่อนปิดที่ระดับ 1,683 พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่ระดับ 61,976.88 ล้านบาท ได้รับแรงหนุนจากนักลงทุนต่างชาติที่มีปริมาณการซื้อขายสูงสุดเมื่อวานนี้ โดยซื้อสุทธิที่ 4,121.08 ล้านบาท
ยุโรป
- STOXX600 ปิดที่ 378.46 ลดลง 0.45 (-0.09%)
- DAX ปิดที่ 12,331.75 เพิ่มขึ้น 245.93 (+2.03%)
- FTSE 100 ปิดที่ 7,443.04 เพิ่มขึ้น 85.73 (+1.17%)
- FTSE MIB ปิดที่ 21,133.78 เพิ่มขึ้น 507.36 (+2.46%)
เอเชีย
- S&P/ASX 200 ปิดที่ 6,570.00 เพิ่มขึ้น 39.10 (+0.60%)
- KOSPI ปิดที่ 2,098.71 เพิ่มขึ้น 7.98 (+0.38%)
- Shanghai ปิดที่ 2,890.16 เพิ่มขึ้น 5.67 (+0.09%)
- Hang Seng ปิดที่ 27,227.16 เพิ่มขึ้น 108.81 (+0.40%)
- BSE Sensex ปิดที่ 39,046.34 เพิ่มขึ้น 85.55 (+0.22%)
- Nikkei ปิดที่ 20,972.71 ลดลง 151.29 (-0.72%)
- SET ปิดที่ 1,683.60 เพิ่มขึ้น 16.37 (+0.98%)
อเมริกา
- DOW30 ปิดที่ 26,465.54 จุด เพิ่มขึ้น 353.01 (+1.35%)
- S&P500 ปิดที่ 2,917.75 จุด เพิ่มขึ้น 28.08 (+0.97%)
- NAQDAQ ปิดที่ 7,953.88 จุด เพิ่มขึ้น 108.86 (+1.39%)
Commodities
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนกรกฎาคม พุ่งขึ้น 1.97 ดอลลาร์ หรือ 3.8% ปิดที่ 53.90 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน
- สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 1.20 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 62.14 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์
- สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 7.8 ดอลลาร์ หรือ 0.58% ปิดที่ 1,350.7 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดในรอบ 14 เดือน
ติดตามข่าวสารการลงทุนเพิ่มเติมได้ที่ finno.me/dailyupdate
อ้างอิง: Infoquest, Bloomberg, Investing
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล