ทันทีที่ได้เห็น 3 สาว ใบเตย-สุวพิชญ์ ไตรพรวรกิจ, ฝน-ศนันธฉัตร ธนพัฒน์พิศาล และ เมโกะ-ชนนิกานต์ เนตรจุ้ย รับบทบาทเป็น ‘เพื่อนสนิท’ ในซีรีส์ Bangkok รัก Stories ตอน Please จากตัวละครที่นิสัยแตกต่างกันสุดขั้ว แต่กลับรู้สึกได้ว่าพวกเธอมีเคมีที่เข้ากันอย่างที่แทบไม่อยากเชื่อว่านี่คือการร่วมงานกันเป็นครั้งแรก
ถ้าอย่างนั้นก็ต้องนัดพวกเธอมานั่งล้อมวงคุยกันถึงเรื่อง ‘เพื่อน’ และ ‘ความรัก’ สองเรื่องที่น่าจะเป็นสิ่งที่สำคัญอันดับต้นๆ ในชีวิตหญิงสาวดูเสียหน่อยว่าตัวจริงของพวกเธอจะเคมีเข้ากันขนาดไหน …และผลที่ได้กลับมาคือบทสนทนาที่ถึงจะแตกต่างทางความคิด แต่มันก็เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะตลอดเวลาเกือบหนึ่งชั่วโมง สำคัญที่สุด! THE STANDARD เชื่อว่าเสน่ห์ทางความคิดของพวกเธอนั้นจะโดนใจหนุ่มๆ ไม่แพ้หน้าตาของพวกเธอของแน่นอน
ในซีรีส์ ตัวละครของพวกคุณให้ความสำคัญกับเพื่อนมาก ในชีวิตจริง เพื่อนมีความสำคัญกับทั้ง 3 คนอย่างไรบ้าง
เมโกะ: สำคัญนะ แต่จะอินกับตัวเองมากกว่า เมมีเพื่อนแค่ 2 คนเองมั้งที่สามารถเล่าให้ฟังได้ทุกอย่าง แล้วเอาคำพูดของมันมาใช้ในชีวิตประจำวัน แต่ถามว่าเชื่อทุกอย่างที่เพื่อนพูดไหม ก็ไม่นะ เมเชื่อความรู้สึกตัวเองมากกว่า โดยเฉพาะเรื่องความรัก เมเลยถูกหลอกอยู่บ่อยๆ แล้วค่อนข้างเอาแต่ใจกับเพื่อน ชอบให้ทุกอย่างเป็นไปอย่างที่เราต้องการ (หัวเราะ)
ฝน: ฝนก็ฟังตัวเองเป็นส่วนใหญ่ แต่ข้อเสียคือเป็นคนโอเพ่น ไว้ใจคนง่ายมาก สมมติเอาเพื่อนมาตั้งเรียงตรงหน้า ทุกคนรู้เรื่องของฝนหมด (หัวเราะ) คือเราชอบฟังความเห็นของคนอื่น แล้วก็กล้าเล่าเรื่องของตัวเอง ซึ่งบางคนรู้จักกันไม่นาน อาจจะยังไม่น่าไว้ใจขนาดนั้น แต่เหมือนเอาใจแลกใจ แล้วมีความคาดหวังว่าเขาก็จะเป็นแบบนั้นกับเราเหมือนกัน มันก็จะมีเปอร์เซ็นต์ที่พลาดบ้าง
ฝนจะมีเกณฑ์การคบเพื่อนอยู่ในใจว่า เพื่อนจริงๆ จะไม่มานั่งถามว่าวันนี้เป็นยังไง ทำงานเหนื่อยไหม สู้ๆ นะ รู้สึกว่ามันจะมีช่องว่างเกิดขึ้น ฝนจะบอกเลยว่าถ้าเป็นเพื่อนกัน ไม่ต้องสนใจว่าเราเป็นใคร เราเป็นแค่เพื่อนแกแค่นั้นพอ ไม่ต้องคิดว่าเราเป็นดารา ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องงาน ขอให้เป็นเพื่อนกินข้าวด้วยกัน มีอะไรก็คุยกัน เปิดใจให้กันทุกอย่าง แค่นั้นก็พอแล้ว
ใบเตย: สำหรับเตย ไม่ว่าจะเพื่อนสนิทสมัยมัธยมหรือมหาวิทยาลัย สิ่งที่เหมือนกันคือเวลาเจอกัน แค่มองหน้าก็รู้แล้วว่าคิดอะไรอยู่ รู้ว่าเราเป็นยังไง เกิดอะไรขึ้นบ้างในช่วงนั้น ไม่ต้องพูดอะไรกันมาก แต่ด้วยความเตยเป็นคนดื้อมาตั้งแต่เด็ก โตมากับความคิดของตัวเอง ต่อให้เรื่องนั้นผิด เราก็จะโตมาพร้อมกับผิดของเรา เป็นคนที่ค่อนข้างเชื่อมั่นในการตัดสินใจของตัวเอง ไม่ค่อยปรึกษาเพื่อนเท่าไร ถ้าปรึกษาจะมีแค่ เฮ้ย วันนี้แต่งตัวยังไงดีวะ ทำนองนั้นมากกว่า
ตัดสินใจได้ไหม ถ้าต้องเลือกระหว่างเพื่อนกับแฟน
เมโกะ: ของเมง่ายมาก เพราะเพื่อนที่ดีจะรอเรา จะเข้าใจว่าโมเมนต์ที่เราอยู่กับแฟนก็ต้องอยู่กับแฟน เพื่อนที่ดีต้องเข้าใจเรื่องนี้ได้ (หัวเราะ)
ฝน: ยากจังเลย (คิดนาน) มันคงแล้วแต่สถานการณ์ด้วย แต่คิดว่าน่าจะเลือกเพื่อนมากกว่า อย่างเช่น ถ้าเป็นนัดกับเพื่อนที่รวมตัวกันยากมากก็จะเลือกไปกับเพื่อน
ใบเตย: ตอบยากมากนะ แต่คงคล้ายๆ กับคนอื่น คือเราน่าจะไปกับเพื่อนมากกว่า แต่ถ้าให้ดีที่สุดคือไปด้วยกันทั้งหมดเลย
ถ้าสมมติว่าเพื่อนไม่ชอบใจผู้ชายคนนั้น แล้วขอร้องว่าอย่าคบกับคนนั้นเลย
ฝน: ฝนเชื่อเพื่อนนะ ถ้าเพื่อนสแกนแล้วไม่ผ่าน
เมโกะ: เมเคยมีเหตุการณ์แบบนั้นด้วย เพราะเลือกแฟนมากกว่า แล้วสุดท้ายเพื่อนก็กลับมาย่ำยี กูเตือนแล้วใช่ไหม (หัวเราะ) แต่ถึงจะโกรธยังไง เพื่อนก็ไม่เคยหายไปไหน แล้วครั้งหน้าโดนเตือนอีกก็ไม่ฟังเหมือนเดิม เขาน่ารักนะมึง อยู่กับเขาแล้วรู้สึกดี บลาๆๆๆ ยังอินกับตัวเองและเลือกแฟนเหมือนเดิม และรอให้เพื่อนซ้ำเติม เพราะคิดว่าแฟนหายไปได้ แต่เพื่อนไม่มีวันหายไปไหนแน่นอน
ใบเตย: โอ้โห เคสแบบนี้ใจร้ายมากเลยนะ เตยเคยผ่านเหตุการณ์ประมาณนี้ แต่ไม่ได้ร้ายแรงมาก เตยคิดว่ามันคือการให้เกียรติเพื่อนอย่างหนึ่ง ไม่ว่าผู้ชายคนนั้นจะชั่ว จะเลวแค่ไหนยังไง เตยมองว่ามันเป็นเป็นสิ่งที่เราต้องเผชิญเอง คุณไม่ได้มาเผชิญเรื่องนี้กับเรา ไม่มีทางรู้หรอกว่ามันเป็นยังไง เพราะฉะนั้นเหตุการณ์แบบนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นกับเตย
ฝน: พี่เตยพูดแบบนี้ต้องขอแก้ตัวก่อน (หัวเราะ) สิ่งที่ฝนพูดหมายถึง ถ้ามีเพื่อนมาเมาท์ว่าผู้ชายคนนี้ 1 2 3 4 นะ เราก็จะฟัง ฟังเยอะด้วย แต่จะมีความคิดหนึ่งค้านขึ้นมาว่า ในอดีตตัวเราเองอาจเคยทำอะไรให้ถูกพูดถึงว่าเป็นคนไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ แต่ตอนนี้มีการเปลี่ยนแปลงจนเราไม่ใช่คนเดิมอีกแล้ว เพราะฉะนั้นก็อยากเรียนรู้ว่าเป็นยังไง ลองพิสูจน์ด้วยตัวเอง เพราะไม่อยากตัดโอกาสทั้งตัวเขาและตัวเราด้วย แล้วให้เพื่อนช่วยวิเคราะห์ ช่วยสแกนอีกที ถ้าไม่เวิร์กจริงๆ ก็เชื่อเพื่อน แต่จะไม่ได้เชื่อตั้งแต่ทีแรกแบบนั้น
ในเวลานี้ให้ความสำคัญกับความรักมากขนาดไหน
เมโกะ: มีผลกับชีวิตประจำวันของเมมากนะ เพราะชอบเอาความรู้สึกของคนที่เรารักมาเป็นใหญ่ ถ้าวันไหนทะเลาะกันก็จะพานไปรู้สึกแย่กับเรื่องอื่นๆ ด้วย แต่ไม่ใช่กับการทำงานนะ ถ้าเวลาทำงานเมจะเป็นผีบ้าอีกคนไปเลย แต่พอดีตอนนี้ยังไม่มีแฟนค่ะ ก็เลยยังไม่รู้ (หัวเราะ)
ฝน: ยังสำคัญ แต่น่าจะมีมุมมองความรักที่เปลี่ยนไป เหมือนถอยออกมาจากความรักอีกนิดหนึ่ง เคยเป็นเหมือนเมโกะที่ถ้ามีปัญหาอะไรก็นอยด์ บางทีก็เอาตัวเองไปจมกับสิ่งนั้นเกินไป ตอนนี้สิ่งที่คิดคือต้องใช้ชีวิตกับตัวเองให้คุ้มที่สุด ความรักเป็นออปชันเสริม เป็นกำไร ไม่เอามายึดเป็นแกนสำคัญ แค่ทำทุกอย่างให้ดีที่สุด เพื่อจะได้ไปมีพลังให้กับเขาด้วย ไม่ใช่ว่าบางทีเหนื่อยมากแล้วอยากเป็นฝ่ายรับอย่างเดียว บางทีเขาเหนื่อย เขาก็อยากเป็นฝ่ายได้รับกำลังใจบ้าง การที่มีแต่คนอยากได้มันไม่มีอะไรดี ทุกวันนี้ไม่เคยคาดหวังว่าแฟนต้องมาทำอะไรให้นะ ฝนจะเติมความรู้สึกด้วยตัวเอง เพราะอย่างงานหรืออะไรทุกอย่าง เราเป็นคนเลือกที่จะทำเอง ต้องรับผิดชอบความรู้สึกให้ได้
ก่อนหน้านี้ฝนเคยคิดว่าความรักมาเป็นอันดับหนึ่ง แต่พอเรียนจบ ชีวิตเป็นของเรามากขึ้น ต้องดูแลตัวเองทุกอย่าง ถ้าต้องเริ่มต้นความสัมพันธ์ จะบอกเลยว่าสิ่งเดียวที่ฝนต้องการคือความรักนะ เราดูแลตัวเองได้ เลี้ยงที่บ้านได้ สิ่งเดียวที่คุณต้องให้เราคือความรู้สึก ดังนั้นถ้าคุณดูแลความรู้สึกของเราไม่ดี ความสัมพันธ์มันจบแน่นอน
ใบเตย: ความรักมีอิทธิพลกับเตยมาตั้งแต่เด็กจนถึงทุกวันนี้ เตยให้ค่ากับความรักมาก ถ้ารักใครก็จะแคร์คนนั้นมากๆ ทุกวันนี้ก็ยังแคร์อยู่ แต่พอทำงาน โตขึ้น มีประสบการณ์มากขึ้น ทุกวันนี้ก็ให้ค่ามากเหมือนเดิม สิ่งที่เปลี่ยนไปคือมีสติมากขึ้น จะบอกว่าจัดการความรู้สึกได้ดีขึ้นก็ไม่ใช่ เพราะความรู้สึกมันเป็นสิ่งที่จัดการได้ยาก แค่ต้องให้ทุกอย่างในชีวิตดำเนินไปพร้อมๆ กัน เรื่องความรักไม่มีตรรกะตายตัว ไม่มีสูตรสำเร็จว่าต้องเอาสิ่งโน้นมาบวกกับสิ่งนี้แล้วจะได้เป็นสิ่งนั้น ทุกวันมันคือการเรียนรู้ซึ่งกันและกัน มันคือการให้อภัย การยอมรับ การยินดี ซึ่งเรารู้สึกว่าทำมันได้ดีขึ้นเรื่อยๆ
ในวัยอย่างตอนนี้ คิดว่าตัวเองสามารถอยู่เป็นโสดไปตลอดชีวิตได้ไหม
เมโกะ: ไม่ได้ค่ะ (ตอบทันที) ที่สุดของชีวิต ณ โมเมนต์สุดท้ายที่เราจะมีความสุขได้ก็คือมีคนที่อยู่ข้างๆ เรา เข้าใจเราแล้วอยู่ข้างๆ กันไปตลอด ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีนะคะ ฝากเบอร์ค่ะ 06369xxxx (หัวเราะ)
ฝน: ฝนไม่รู้ว่าอนาคตเป็นยังไง แต่ความคาดหวังก็อยากมีคนข้างๆ สักคน มีคนที่ฝนรู้จักคนหนึ่ง เขาไม่ได้มีความรัก สิ่งที่เขาทำคือเก็บเงินเพื่อให้ได้ไปอยู่บ้านพักคนชราดีๆ ในบั้นปลายสุดท้ายของชีวิต เขาวางแผนไว้ตั้งแต่ตอนนี้เลย ซึ่งสำหรับฝน ตอนนี้มันยังเป็นเรื่องที่ฟังแล้วหดหู่เกินไปนะ คิดว่ามันไม่น่าจะปลอดภัย อย่างน้อยก็ในความรู้สึกที่ต้องอยู่คนเดียว ถ้าถามก็คงยังไม่พร้อมสำหรับซีนแบบนี้ ยังอยากมีคนอยู่ข้างๆ มากกว่า
ใบเตย: ถ้าต้องอยู่คนเดียวไปตลอดชีวิตก็คิดว่าไม่น่าจะได้เหมือนกัน แต่ถามว่าวางแผนอะไรเพื่อให้ไปถึงจุดนั้นไหม ก็ไม่ได้วางแผนขนาดนั้น แค่ทำตอนนี้ให้ดียังยากเลย ไม่อยากวางแผนอะไรไกลๆ ทุกอย่างมันเปลี่ยนตลอดเวลาอยู่แล้ว ทำตอนนี้ให้ดีก่อน
คิดว่าอะไรคือข้อดีและข้อเสียในตัวของทั้ง 3 คน เวลามีความรัก
เมโกะ: เมเป็นคนที่ซื่อสัตย์กับความรักมาก เลยโดนหลอกอยู่บ่อยๆ แต่เชื่อเถอะว่าเห็นแบบนี้ เมเป็นคนดีและซื่อสัตย์จริงๆ (หัวเราะ)
ส่วนข้อเสียคือเราดีเกินไปมั้ง (หัวเราะ) ดูเหมือนพูดเล่น แต่เมเชื่อแบบนั้นจริงๆ เหมือนคำพูดที่ว่า เราไม่สามารถเอาความดีไปแลกความรักได้ อันนี้โคตรจริงกับเมมาก โอเค เราอาจจะงี่เง่าบ้างเป็นเรื่องธรรมดา แต่ทุกครั้งที่ความรักจบลงจะรู้สึกว่าเราดีเกินไปจนเขาเบื่อ ผู้ชายคงชอบอะไรที่ตื่นเต้นมากกว่า
ฝน: การเป็นตัวของตัวเองเป็นทั้งข้อดีและข้อเสีย ฝนบอกเสมอว่าถ้าคุณเคยใช้ชีวิตมายังไง อยู่กับเราคุณจะได้ใช้ชีวิตเหมือนเดิม เช่น คุณออกไปปาร์ตี้กับเพื่อน หรือมีเวลาในชีวิตให้กับสิ่งไหน อะไรก็ตามที่หมุนรอบตัวคุณ เราจะให้คุณเหมือนเดิม ซึ่งเราเองก็จะเป็นแบบนั้นเหมือนกัน แต่พอความเป็นตัวเองของทั้งสองคนมันใกล้กันมากๆ พอถึงจุดหนึ่งมันเกิดทิฐิหรือความไม่ยอมเปลี่ยนบางอย่าง เพราะเราดันบอกไว้แต่แรกว่าเราจะเป็นเรา และเขาจะเป็นเขาเต็มที่ ซึ่งในความรักมันต้องมีการปรับตัวเข้าหากันเป็นเรื่องปกติ แต่พอเราเอ็นจอยและภูมิใจกับความเป็นตัวเองมากๆ บางทีเราก็ไม่พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองเหมือนกัน
ซึ่งปกติฝนจะดื้อกว่า และฝนก็ต้องเป็นฝ่ายชนะ (หัวเราะ) แล้วอีกอย่างคือเห็นแบบนี้ แต่ฝนไม่ใช่คนขี้อ้อนเลย เธอกินน้ำไหม กินข้าวหรือยังนี่ไม่มีแน่นอน จะเป็นแบบ ทำงานอยู่ ไม่ว่าง ยังไม่คุย พอกลับถึงบ้านก็จะเหนื่อย นอนแล้วนะ (หัวเราะ)
ใบเตย: ข้อดีน่าจะเรื่องเตยเป็นคนตามใจแฟน ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่ามันเป็นข้อดีจริงๆ หรือเปล่า แต่ข้อเสียที่ชัดมากๆ คือเตยชอบคิดแทน คิดว่าสิ่งที่เราคิดให้เขามันดี เขาควรทำตามแบบที่เราคิด พอเขาไม่ทำเราก็ทุกข์ เขาก็ไม่มีความสุข แต่เตยพยายามอยู่นะ พอรู้ว่าเราเริ่มคิดแทน เริ่มมีประโยคที่หนึ่งออกไป พอประโยคที่สองตามมาเริ่มคิดว่า เฮ้ย ไม่ได้ อย่าไปพยายามคิดแทนเขา เปลี่ยนไปคิดเรื่องอื่นแทนดีกว่า จะได้ไม่ต้องหงุดหงิดด้วยกันทั้งคู่
นิสัยอะไรของผู้ชายที่คุณอยากทำความเข้าใจมากที่สุด และมีนิสัยของผู้หญิงเรื่องไหนบ้างไหมที่อยากให้ผู้ชายเข้าใจพวกคุณเหมือนกัน
เมโกะ: เสมอต้นเสมอปลายตลอดไปไม่ได้เหรอ คือเมเข้าใจนะ ด้วยโครงสร้างความเป็นผู้ชายน่าจะเบื่อง่าย และมีความอดทนในเรื่องความรู้สึกน้อยกว่าผู้หญิง แต่ก็ไม่ได้คาดหวังคำตอบอะไรนะ เพราะคิดไว้อยู่แล้วแหละว่ามันคงเป็นสิ่งที่อาจจะไม่มีทางเปลี่ยนได้
ส่วนเรื่องที่อยากให้เข้าใจ ผู้หญิงแต่ละคนคงไม่เหมือนกัน แต่สำหรับเมคงอยากบอกว่าเราไม่ได้เอาแต่ใจเว้ย เพราะคนชอบคิดว่าเมเอาแต่ใจ ในเรื่องความสัมพันธ์ เมเป็นคนตามใจด้วยซ้ำ ไม่มีผู้หญิงคนไหนอยากเยอะหรอก อยากให้เข้าใจว่าที่คุณว่าเราเยอะ เรานอยด์ เป็นโน่นเป็นนี่บ้าบอ มันเป็นเพราะคุณเปลี่ยนไปต่างหาก ไม่ใช่เพราะเราต้องการมากขึ้นเลย
ฝน: อธิบายเป็นเรื่องไม่ได้ ขอยกจากเคสของตัวเองแล้วกัน ฝนเป็นคนที่ไม่เอาพวกวันเกิด วันครบรอบอะไรพวกนี้เลย เราดีกันทุกวันดีกว่าไหม ฝนเป็นคนใช้ชีวิตรายวัน เลยกลายเป็นคนลืมใส่ใจรายละเอียดที่ต้องเตรียมการล่วงหน้า บางทีก็โผงผางเหมือนผู้ชาย แล้วบางทีเขาจะเอาเราไปเปรียบเทียบกับคนอื่นว่าผู้หญิงต้องเป็นแบบนี้สิ แต่อย่างที่บอกว่าตัวตนของเรามันไม่ใช่แบบนั้น ไม่รู้จะอธิบายสิ่งนี้เหล่านี้ว่ายังไงเหมือนกันนะ แต่คิดว่าน่าจะต้องมีคนที่คิดแบบนี้บ้างแหละ
ใบเตย: สำหรับเตยไม่มีเลย แปลกไหม (หัวเราะ) ไม่ใช่อะไรเลยนะ เตยแค่มองว่าต่อให้แยกเป็นสองเพศ ผู้หญิงกับผู้ชาย แต่เรื่องความรู้สึกและพฤติกรรม ทั้งสองเพศสามารถเป็นกันได้หมดเลย เพราะฉะนั้นไม่มีเรื่องอะไรของเพศไหนที่เข้าใจไม่ได้หรอก แค่เรื่องไหนที่เรารับได้ เราก็ยอมรับ ส่วนเรื่องไหนที่ยอมรับไม่ได้จริงๆ ก็มานั่งคุยกันตรงๆ แล้วให้จบแค่นั้นก็พอ
- เมโกะเป็นคนที่ดูเหมือนร่าเริง ไม่ค่อยคิดอะไรมาก แต่จริงๆ แล้วเมเป็นคนที่เซ้นสิทีฟในเรื่องความรู้สึกมากพอสมควร
- ถ้าดูจากภายนอกจะเห็นว่าฝนเป็นผู้หญิงเรียบร้อย ฟรุ้งฟริ้ง แต่จริงๆ แล้วมีนิสัยหลายอย่างที่แมนกว่าผู้ชายบางคนเสียอีก
- ใบเตยเป็นคนที่โตที่สุดในกลุ่ม เวลาฝนกับเมโกะอยู่ด้วยกัน เราจะรู้สึกว่าใบเตยเป็นแม่ของสองคนนี้ที่ต้องเบรกความซนของทั้งคู่อยู่ตลอดเวลา
- ถึงจะร่วมงานกันแค่ 3 เดือน แต่ทั้ง 3 คนสนิทกันในระดับเล่าให้กันฟังให้ทุกเรื่อง โดยเฉพาะฝนกับเมโกะที่มักจะโทรคุยและชวนกันไปร้องคาราโอเกะ ในขณะที่ใบเตยเคยลองชวนทั้งคู่ไปนั่งวิปัสสนา
- ในวันว่าง เมโกะจะตื่นสิบโมง ตามข่าวในโลกโซเชียล กินทุเรียน กินข้าว และออกไปขี่ม้าในช่วงบ่าย หาอะไรกินก่อนกลับบ้าน ฝ่ารถติด และกลับบ้านมานอน
- ฝนใช้เวลาไปกับการพักผ่อน อ่านหนังสือ เรียนทำขนม เข้าฟิตเนส และเช็กฟีดแบ็กกับผลงานที่เพิ่งออนแอร์ไป
- ใบเตยเป็นแม่บ้านเต็มขั้น เธอการใช้เวลาว่างเกือบทั้งหมดไปฟิตเนสและทำงานบ้าน
- ฝนและเมโกะมีอินสตาแกรมส่วนตัวเพื่อเอาไว้โพสต์รูปและพูดคุยกับเพื่อนสนิทโดยเฉพาะ แต่ใบเตยไม่มี เพราะว่าเป็นคนขี้ลืม และกลัวว่าจะจำรหัสผ่านหลายๆ แอ็กเคานต์ไม่ได้
- เมโกะยืนยันกับเราตลอดการสนทนาว่าตอนนี้เธอโสดร้อยเปอร์เซ็นต์ และยังขอให้เราเขียนย้ำให้อีกครั้งว่าเธอโสดจริงๆ
- ติดตามความน่ารักและฝีมือการแสดงของสามสาวในซีรีส์ Bangkok รัก Stories ตอน Please ได้ทุกวันเสาร์เวลา 17.00 น. ทาง gmm 25 และ 19.00 น. ทาง LINE TV