ความเคลื่อนไหวการจัดตั้งรัฐบาลในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์วันนี้ (23 พ.ค.) แม้พรรคประชาธิปัตย์นัดประชุมกรรมการบริหารพรรคและ ส.ส. พรรค แต่เป็นการนัดประชุมแยกห้องกันชัดเจน ไม่ได้ประชุมร่วมกันเพื่อลงมติตัดสินใจร่วมรัฐบาลพลังประชารัฐหรือไม่
ชวน หลีกภัย ส.ส. บัญชีรายชื่อและประธานสภาที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมเพื่อตัดสินใจร่วมรัฐบาลหรือเป็นฝ่ายค้านว่า การจะร่วมหรือไม่ร่วมรัฐบาลเป็นมติของกรรมการบริหารและ ส.ส. ซึ่งในอดีตมีทั้งร่วมและไม่ร่วม หรือเคยร่วมแล้วมีปัญหาก็แยกออกมา เพราะพรรคต้องรักษาชื่อเสียงเกียรติภูมิของพรรคด้วยว่าถ้าไปร่วมรัฐบาลแล้วรัฐบาลโกงกิน พรรคจะไปสนับสนุนก็ไม่ได้ นั่นคือแนวปฏิบัติที่ผ่านมา
แต่หลังจากนี้ก็แล้วแต่กรรมการบริหารและ ส.ส. ว่ามีความคิดเห็นอย่างไร ซึ่งโดยทั่วไปนั้นจะเห็นด้วยหรือไม่ก็ต้องเคารพมติพรรค พรรคจึงอยู่มาได้ 73 ปี ถ้าต่างคนต่างตีรวนกันก็ไปไม่รอด
ส่วนกระแสเสนอชื่อตนเป็นประธานสภาฯ นั้น
ชวนไม่ทราบว่ามาอย่างไร แต่พรรคเคยพูดเรื่องประธานสภาฯ กันว่าถ้าประชาธิปัตย์มีส่วนได้เลือกประธานสภาฯ คนที่เหมาะที่สุดในพรรคคือ บัญญัติ บรรทัดฐาน
โดยในพรรคไม่ได้พูดถึงตนเลย เพราะเคยเป็นมาแล้ว และตนอยากอยู่ในพรรคเพื่อช่วยน้องๆ ที่สอบตก
อย่างไรก็ตาม นี่คือการพูดภายใน ซึ่งในพรรคมีหลายคนที่ทำหน้าที่ได้ดี รวมถึงอดีตหัวหน้าพรรค อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็เหมาะสม แต่ท่านอาจจะไม่สนใจ
นักข่าวถามว่าสมมติถ้าพรรคแกนนำเสนอชื่อท่านเป็นประธานสภาฯ จะรับหรือไม่
ชวนไม่ตอบตรงๆ และขอให้รอมติพรรคในวันนี้
ส่วนกระแสข่าวที่มีชื่อชวนเกี่ยวข้องกับการตั้งรัฐบาลตลอดเวลานั้น
ชวนยืนยันว่าไม่เคยโทรศัพท์คุยกับ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แต่ยอมรับว่ามีคนใกล้ชิด พลเอก ประวิตร มาคุยส่วนตัว เช่น มาอวยพรปีใหม่ ทั้งนี้ยอมรับว่ามีคนพยายามทาบทาม แต่ได้บอกไปว่าตนเป็นแค่หนึ่งเสียงภายในพรรค และต้องรอมติกรรมการบริหารพรรค
ชวนกล่าวถึงการประชุมวันนี้ด้วยว่าอาจจะมีมติมอบภารกิจการเจรจาร่วมรัฐบาลหรือไม่ไปให้ใครคนใดคนหนึ่ง ถ้า ส.ส. ทั้ง 52 คนไว้ใจมอบภารกิจนี้ไปให้หัวหน้าพรรคโดยไม่ต้องกลับมาขอมติที่ประชุมก็ทำได้ ซึ่งในอดีตก็เคยมีกรณีแบบนี้ในสมัยอดีตหัวหน้าพรรค พิชัย รัตตกุล
ด้าน บัญญัติ บรรทัดฐาน ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวสั้นๆ ปฏิเสธที่จะรับหน้าที่ประธานสภาฯ โดยย้ำว่าตนได้ยืนยันเรื่องนี้ไปนานแล้ว
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์