ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวานนี้ (21 พ.ค.) มีการสรุปสาระสำคัญอยู่หลายประเด็น โดยหนึ่งในประเด็นที่น่าสนใจคือการผ่านร่างกฎ ก.พ. ให้ข้าราชการที่มีอายุครบ 60 ปีสามารถรับราชการต่อไป เพื่อบรรเทาปัญหาความขาดแคลนบุคลากรในสาขาที่เป็นภารกิจสำคัญของรัฐ รวมถึงรองรับปัญหาการเข้าสู่สังคมสูงวัย
เมื่อวานนี้ (21 พ.ค.) หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี โดยมี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี ได้มีการอนุมัติหลักการร่างกฎ ก.พ. ว่าด้วยการให้ข้าราชการพลเรือนสามัญซึ่งมีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์รับราชการต่อไป (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอ เพื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาใช้บังคับต่อไป
โดยมีสาระสำคัญอยู่ที่ร่างกฎ ก.พ. ว่าด้วยการให้ข้าราชการพลเรือนสามัญซึ่งมีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์รับราชการต่อไป (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ยังคงหลักการเดิมตามกฎ ก.พ. ว่าด้วยการให้ข้าราชการพลเรือนสามัญซึ่งมีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์รับราชการต่อไป พ.ศ. 2552
ซึ่งออกโดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 108 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ที่กำหนดให้การรับราชการต่อไปเมื่อสิ้นปีงบประมาณที่อายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ ผู้นั้นต้องเป็นผู้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับเชี่ยวชาญ หรือระดับทรงคุณวุฒิ หรือตำแหน่งประเภททั่วไป ระดับอาวุโส หรือระดับทักษะพิเศษ แต่ให้สามารถนำระยะเวลาที่เคยดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับเชี่ยวชาญ หรือระดับทรงคุณวุฒิ หรือตำแหน่งประเภททั่วไประดับอาวุโส หรือระดับทักษะพิเศษ แล้วแต่กรณี ซึ่งต่อเนื่องกันมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปีมาใช้เป็นคุณสมบัติในการพิจารณาให้รับราชการต่อไปได้
โดยตำแหน่งที่จะให้รับราชการต่อไปนั้นไม่จำเป็นต้องเป็นตำแหน่งที่ผู้นั้นครองอยู่เดิม แต่ต้องไม่เป็นการกำหนดตำแหน่งเพิ่มใหม่ เพื่อบรรเทาปัญหาความขาดแคลนบุคลากรในสาขาที่เป็นภารกิจสำคัญของรัฐ และเพื่อรองรับปัญหาการเข้าสู่สังคมสูงวัย จึงได้เสนอร่างกฎ ก.พ. ซึ่งได้มีการแก้ไขเพิ่มเติมในประเด็นดังกล่าว
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง: