การเมืองออสเตรียดูท่าจะระส่ำไม่น้อย หลังจากที่บรรดารัฐมนตรีจากพรรคขวาจัดอย่าง Freedom Party (FPÖ) ประกาศลาออกทั้งหมด ภายหลังจากที่มีคลิป ‘กรณีทุจริตอื้อฉาวอิบิซา’ ถูกเผยแพร่ในสื่อของเยอรมนี ส่งผลให้ ไฮนซ์ คริสเตียน ชตราเคอ รองนายกรัฐมนตรีออสเตรีย และผู้นำพรรค FPÖ พรรคร่วมรัฐบาลพรรคสำคัญ ประกาศลาออก เพื่อแสดงความรับผิดชอบ
เซบาสเตียน คูร์ซ นายกรัฐมนตรีออสเตรีย ที่ก้าวขึ้นสู่อำนาจในวัยที่อายุน้อยที่สุดในโลก เมื่อปลายปี 2017 ระบุว่า เขาต้องการให้ เฮอร์เบิร์ต คิกล์ รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย และเลขาธิการพรรค FPÖ แสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่สร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียงให้กับประเทศในครั้งนี้ด้วย
โดยบรรดารัฐมนตรีทั้งหลายจากพรรค FPÖ ยื่นคำขาด หากมีการไล่ เฮอร์เบิร์ต คิกล์ พ้นจากตำแหน่ง พวกเขาทั้งหมดจะประกาศลาออกในทันที ซึ่งสร้างแรงกระเพื่อมและความไม่มีเสถียรภาพให้กับรัฐบาลออสเตรียอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยพรรค FPÖ เข้ามามีส่วนสำคัญในการจัดตั้งรัฐบาลของนายคูร์ซ และมีโอกาสนั่งเก้าอี้สำคัญในกระทรวงหลัก ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงกลาโหม กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงคมนาคม และกระทรวงกิจการสังคม
คลิปกรณีทุจริตอื้อฉาวอิบิซา เป็นภาพบันทึกเหตุการณ์ขณะที่ผู้แทนพรรค FPÖ เจรจาผลประโยชน์กับหลานสาวของบริษัทนักลงทุนยักษ์ใหญ่ชาวรัสเซียที่เกาะอิบิซาของสเปน โดยเธอมีแผนจะเข้าซื้อหุ้นบริษัทสื่อยักษ์ใหญ่ของออสเตรียกว่า 50% อย่าง Kronen Zeitung พร้อมโยกย้ายบรรณาธิการคนใหม่ที่สนับสนุนพรรค FPÖ ก้าวขึ้นมาบริหารองค์กร
โดยนายชตราเคอกล่าวว่า “หากคุณสามารถเทกโอเวอร์กิจการของ Kronen Zeitung ได้ภายใน 3 สัปดาห์ก่อนการเลือกตั้งจะมาถึง และทำให้เราได้ที่ 1 เราก็สามารถพูดคุยกันได้ทุกเรื่อง” โดยมีการยื่นสัมปทานบริษัทรับเหมาเป็นการแลกเปลี่ยน
กรณีอื้อฉาวที่เกิดขึ้น ส่งผลให้นายกรัฐมนตรีออสเตรียประกาศจัดการเลือกตั้งใหม่ ภายในเดือนกันยายนปีนี้ เพื่อพยายามรักษาเสถียรภาพไว้ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ภาพ: Dominika Zarzycka / NurPhoto / Getty Images
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง:
