เจอร์เกน คล็อปป์ กุนซือลิเวอร์พูล ให้สัมภาษณ์กับ The Guardian เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 11 พฤษภาคมที่ผ่านมา ถึงช่วงเวลาที่เขาก้าวเข้ามาคุมสโมสรแห่งนี้ตั้งแต่ปี 2015
โดยคล็อปป์ยอมรับว่า ความสำเร็จที่เกิดขึ้นตลอดหลายปีที่ผ่านมา ไปไกลกว่าความคาดหวังของตัวเขาเอง ทั้งที่เขาเป็นคนมองโลกในแง่ดีตลอดมา
“ผมไม่อยากจะเชื่อ แต่ปกติผมไม่ใช่คนที่มองโลกในแง่ร้าย ผมคงไม่คิดไม่ฝันว่าเราจะผ่านเข้าชิงฟุตบอลยุโรปถึง 3 ครั้ง และเป็นการเข้าชิงยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกถึง 2 ครั้งติดต่อกัน นั่นเป็นสิ่งที่ไม่มีใครคาดหวังเมื่อ 4 ปีก่อน ซึ่งเป็นเรื่องท่ีวิเศษมาก”
เจอร์เกน คล็อปป์ ยอมรับว่า ช่วงแรกเขามีความกดดันจากทั้งในและนอกสนามสูง ถึงความต้องการแชมป์ในระยะสั้น ซึ่งอาจเป็นปัญหาสำหรับความสำเร็จระยะยาว
“ในช่วงเวลานั้นผมคิดว่า ความกดดันในสโมสรและนอกสโมสรมากกว่าความเป็นจริง ทุกคนทำให้ผมรู้สึกแบบนั้น ว่าผมต้องคว้าแชมป์ และไม่มีใครสนใจถึงการพัฒนาฟุตบอลและพัฒนารูปแบบการเล่น
“นั่นทำให้งานช่วงแรกของผมเป็นช่วงเวลาที่ยาก เพราะผมต้องการเวลาในการพัฒนาหลายอย่าง”
คล็อปป์ได้ยกตัวอย่างความสำเร็จหลังจากเวลาผ่านไปพร้อมกับแผนการพัฒนา ทำให้ลิเวอร์พูลได้เสริมทัพนักเตะที่ถูกจุดอย่าง อลิสสัน เบ็คเกอร์ ผู้รักษาประตูชาวบราซิล ค่าตัว 67 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นค่าตัวสถิติโลกของผู้รักษาประตู ก่อนที่เชลซีจะคว้าตัว เกปา อาร์ริซาบาลากา
“เราต้องจ่ายเงินมหาศาลเพื่อผู้รักษาประตู เช่นเดียวกับเชลซีที่ราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ แต่เราก็เห็นแล้วว่า อลิสสันเป็นผู้รักษาประตูที่ยอดเยี่ยม โดยเฉพาะการทำสิ่งที่ดูพิเศษให้กลายเป็นเรื่องธรรมดา”
กุนซือชาวเยอรมันก้าวเข้ามาคุมสโมสรลิเวอร์พูลในวันที่พวกเขาอยู่อันดับที่ 10 ของตาราง หลังจากที่เขาก้าวเข้ามาเมื่อเดือนตุลาคมปี 2015 ก็พาโมสรเข้าชิงยูโรปาลีกหนึ่งครั้ง ร่วมถึงผลงานล่าสุดที่เอาชนะบาร์เซโลนาไป 4-0 และผ่านเข้าชิงยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกเป็นฤดูกาลที่ 2 ติดต่อกัน
รวมถึงสถานการณ์ในพรีเมียร์ลีกก่อนเกมนัดสุดท้าย ลิเวอร์พูลเป็นรองแมนเชสเตอร์ ซิตี้เพียงแค่ 1 คะแนน และหากพวกเขาเก็บชัยชนะได้ และแมนเชสเตอร์ ซิตี้แพ้ เขาจะนำสโมสรสู่แชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษเป็นครั้งแรกในรอบ 29 ปี แต่ถ้าทั้งสองทีมชนะ ลิเวอร์พูลจะกลายเป็นรองแชมป์ที่มีแต้มสูงถึง 97 คะแนน
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง: