หลังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติให้มีการนับคะแนนใหม่ทั้งเขตของเขตเลือกตั้งที่ 1 จังหวัดนครปฐม กระทั่งแล้วเสร็จเมื่อวานนี้ ต่อมา นายฉัตรไชย จันทร์พรายศรี กกต. ที่มาสังเกตการณ์การนับคะแนนได้เปิดเผยผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการของเขต 1 นครปฐม โดยผลนับคะแนนใหม่ปรากฏว่าพรรคอนาคตใหม่ชนะพรรคประชาธิปัตย์ 62 คะแนน ขณะที่ก่อน กกต. แถลง นายสาธิต ปิตุเตชะ รักษาการรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งได้ไปสังเกตการณ์การนับคะแนน ได้นำผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคแถลงต่อสื่อมวลชนว่าสามารถมีชัยชนะเหนือคู่แข่ง 4 คะแนน ทั้งสองเหตุการณ์นำมาซึ่งความสับสนต่อประชาชนที่ติดตามการนับคะแนนใหม่
ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. วันนี้ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์, นายสาธิต ปิตุเตชะ รักษาการรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนาวาตรีสุธรรม ระหงษ์ ผู้อำนวยการพรรคประชาธิปัตย์ ได้ร่วมกันแถลงข่าว โดยนายจุรินทร์ยืนยันว่าพรรคได้ตั้งตัวแทนเข้าไปร่วมสังเกตการณ์ในกระดานนับทั้งหมด 61 กระดาน 245 หน่วย รวมทั้งตนเองและทีมงานได้ไปสังเกตการณ์ตั้งแต่ต้น และมีข้อมูลยืนยันว่า พันโท สินธพ แก้วพิจิตร ผู้สมัคร ส.ส. นครปฐม พรรคประชาธิปัตย์ ชนะการเลือกตั้งโดยได้คะแนนรวม 35,711 คะแนน และนางสาวสาวิกา ลิมปะสุวัณณะ ผู้สมัคร ส.ส. นครปฐม พรรคอนาคตใหม่ ได้ 35,707 คะแนน มีคะแนนห่างกัน 4 คะแนน ซึ่งทั้งหมดนี้สำนักงานเลขาธิการพรรคได้รวบรวมข้อมูลและหลักฐานเป็นภาพถ่ายและมีลายเซ็นกำกับ ดังนั้นจึงขอเรียกร้องให้ กกต. เร่งประกาศผลอย่างเป็นทางการ
ขณะที่นายสาธิตได้เรียกร้องไปยัง กกต. ให้ประกาศรับรองโดยเร็วเพื่อป้องกันความสับสน เพราะจากหลักฐานที่รวบรวมมามีลายเซ็นกำกับจากแต่ละกระดาน เมื่อนำมารวมกันและได้มีการทบทวนถึง 4 ครั้ง พบว่าผู้สมัครของพรรคชนะการเลือกตั้ง 4 คะแนน รวมทั้งผู้สมัครพรรคอนาคตใหม่ได้โพสต์เฟซบุ๊กในเวลา 20.12 น. ยอมรับผลรวมคะแนนที่ตรงกัน แต่อาจจะเกิดความผิดพลาดต่อการให้สัมภาษณ์ของ กกต. บางคนซึ่งระบุว่าผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์แพ้ 62 คะแนน ดังนั้นพรรคจึงขอเรียกร้องให้ กกต. ประกาศรับรองผลโดยเร็ว หากยังยืนยันตามที่ กกต. ให้สัมภาษณ์จะต้องมีคนรับผิดชอบในเรื่องนี้
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์