วิธีสร้างวัฒนธรรมองค์กรให้เป็นและใช้ได้จริง โดยเพจ HR - The Next Gen

‘วัฒนธรรมองค์กร’ หัวใจสำคัญในการพาองค์กรไปถึงเป้าหมายหรือผ่านอุปสรรคมากมาย แต่จะทำอย่างไรให้วัฒนธรรมองค์กรเป็นสิ่งที่พนักงานทุกคนพร้อมใจทำตามได้จริง ไม่ได้เป็นแค่ป้ายที่ติดอยู่หน้าลิฟต์ ให้พนักงานยืนอ่านและผ่านไป

เคน นครินทร์ คุยกับ บี-อภิชาติ ขันธวิธิ (Managing Director – QGEN Consultant) เจ้าของเพจ HR -The Next Gen เรื่องการสร้างวัฒนธรรมองค์กร ในรายการ The Secret Sauce

วัฒนธรรมองค์กรสำคัญอย่างไร

วัฒนธรรมองค์กร ตัวช่วยสำคัญในการทำให้พนักงานทุกคนมีพฤติกรรมเหมือนกัน คิดคล้ายกัน ไปสู่เป้าหมายเดียวกัน ถึงแม้บางบริษัทอาจไม่ได้มีรูปแบบของวัฒนธรรมที่แน่ชัด พนักงานมีวิธีคิดในการทำงานที่แตกต่างกัน แต่หากทุกคนยอมรับซึ่งกันและกัน นั่นก็เป็นรูปแบบหนึ่งของวัฒนธรรมองค์กรอยู่ดี เพียงแค่อาจไม่มีชื่อเรียกที่แน่ชัดเท่านั้น

ถามว่าจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าไม่มีวัฒนธรรมองค์กร บริษัทอาจไปสู่เป้าหมายช้าลงกว่าเดิม เพราะเมื่อไรที่มีคนใหม่เข้ามาในองค์กร ผู้นำทำได้เพียงบอกว่า เป้าหมายคืออะไร แต่ไม่ได้มีกรอบวัฒนธรรมช่วยชี้นำว่า เขาต้องเดินไปทางไหน หรือถ้าเป็นคนอื่นจะทำอย่างไร คนคนนั้นก็อาจเสียเวลาในการหาทางอยู่ไม่น้อย

ดังนั้น การทำธุรกิจในทุกวันนี้ ทุกคนต้องการความรวดเร็ว อยากเติบโตอย่างก้าวกระโดด เพียงแค่กระบวนการอาจไม่มากพอในการพัฒนาไปให้ถึงจุดหมาย การมีวัฒนธรรมองค์กร จึงเป็นตัวกำหนดวิธีการคิดของคนทำงาน เพราะบางองค์กรเริ่มสร้างกลยุทธ์จากวัฒนธรรมองค์กรด้วยซ้ำ

วิธีคิดในการสร้างวัฒนธรรมองค์กร

การเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กรเป็นเรื่องที่ยากที่สุดในงานพัฒนาบุคคล บางครั้งใช้เวลายาวนาน บางเรื่องแทบจะเปลี่ยนแปลงไม่ได้ โจทย์ใหญ่ที่มักเจออยู่บ่อยๆ เวลาโดนถามว่า วัฒนธรรมที่ดีขององค์กรควรเป็นเช่นไร ต้องวนกลับไปถามก่อนว่า ธุรกิจขององค์กรต้องการอะไร แล้ววัฒนธรรมองค์กรค่อยมาสนับสนุนเป้าหมายนั้น

เพราะบางครั้งวัฒนธรรมองค์กรไม่ได้เกิดจากการกำหนดขึ้นมาอย่างเดียว แต่มันเป็นตัวตนของคนในบริษัทที่ถ่ายทอดกันมาด้วยเวลายาวนาน ทำให้เรื่องไหนที่เป็นข้อดีก็ควรเก็บไว้ และต้องนำมาวิเคราะห์ต่อให้ได้ว่ามีพฤติกรรมไหนที่ช่วยสนับสนุนความสำเร็จขององค์กร

ถ้าวันนี้คุณเป็นเซล คุณจะขายบริษัทว่าอย่างไร อะไรคือพฤติกรรมในบริษัทที่น่าภาคภูมิใจ ลองกลับไปถามพนักงาน ใช้คำง่ายๆ เขียนออกมา ให้เห็นภาพสะท้อนขององค์กร

บางองค์กรสร้างวัฒนธรรมจากระดับผู้บริหารช่วยกันคิดวิเคราะห์ว่า พฤติกรรมที่ดีต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้เท่านั้น ต้องเหมือนบริษัทชั้นนำของโลกที่ประสบความสำเร็จ แต่กลับไม่ใกล้เคียงกับสิ่งที่พนักงานเป็น กว่าจะเปลี่ยนพนักงานได้ ใช้เวลานานกว่าการพาเป้าหมายไปให้ถึงความสำเร็จที่ตั้งไว้เสียอีก

การหา Right Man ทำอย่างไร

ในการหาคนเข้ามาทำงานยุคนี้ นอกจากทักษะและองค์ความรู้ เราต้องดูด้วยว่า แพสชันและตัวตนของเขาเหมาะสมกับองค์กรหรือเปล่า ถ้าเขาเหมาะสม ตัวเขาจะมีพลังที่ดี และพร้อมสู้ไปกับทุกปัญหาขององค์กร

ขั้นตอนการสร้างวัฒนธรรม

วัฒนธรรมองค์กรยิ่งน้อยยิ่งดี แต่ต้องผ่านการคิดมาอย่างละเอียดถี่ถ้วน อย่างที่บอกไปว่า วัฒนธรรมองค์กรเริ่มจากพฤติกรรมที่เป็นตัวตนของพนักงานจริงๆ จากนั้นผู้บริหารต้องเลือกว่า เรื่องไหนจะเหมาะสมกับองค์กรที่สุด สมมติถ้าผู้บริหารกำหนดว่า องค์กรจะผ่านไปได้ ทุกคนต้องมีความเชื่อ ‘ความเชื่อ’ แค่คำเดียวก็ตีความต่อออกมาให้ชัดเจน และแจกแจงให้ได้ว่าความเชื่อมีอะไรบ้าง

หลังจากนั้นทำให้พนักงานตระหนักให้ได้ว่า บริษัทกำลังทำอะไร สื่อสารอะไร ทุกคนต้องจดจำและสื่อสารออกมาเป็นเรื่องเดียวกัน จากนั้นต้องมีกลุ่มผู้นำที่เป็นตัวอย่างทำสิ่งนี้ออกมาให้คนอื่นเห็น ทำอย่างสม่ำเสมอในทุกกิจกรรม และระบุให้ได้ว่า พฤติกรรมไหนทำได้ พฤติกรรมไหนไม่ควร

ทำอย่างไรให้วัฒนธรรมองค์กรอยู่ได้อย่างยั่งยืน

ถ้าต้องการให้พนักงานแสดงพฤติกรรมออกมาอย่างสม่ำเสมอ เราอาจต้องใช้คะแนนจิตพิสัยเหมือนสมัยเรียน นั่นคือการลองเอาวัฒนธรรมองค์กรมาเป็นส่วนหนึ่งในการประเมินผล ทำให้พวกเขาเชื่อว่า การมีพฤติกรรมที่ตรงกับวัฒนธรรมองค์กรเป็นเรื่องที่วิน-วินกับทั้งตัวเองและบริษัท สุดท้ายจะเกิดเป็นนิสัยที่ทุกคนทำไปเรื่อยๆ ด้วยตัวเอง

เช่นเดียวกัน หากบริษัทต้องการโปรโมตใครสักคนขึ้นมาเป็นผู้นำ อย่ามองแค่ Performance เพียงอย่างเดียว แต่ต้องมองไปถึงพฤติกรรมที่เขาทำด้วย ถ้าเขาเก่งเพียงอย่างเดียว แต่พฤติกรรมไม่ตรงกับวัฒนธรรม ก็อาจไม่ใช่ทางเลือกที่ดีมากนัก เพราะเมื่อพนักงานมองไปที่เขา ก็อาจไม่สะท้อนถึงพฤติกรรมที่ควรเป็นเลย

วัฒนธรรมองค์กรที่ดีในยุคนี้ควรเป็นอย่างไร

1. Vision

ทำให้พนักงานรู้ว่า เป้าหมายของบริษัทคืออะไร และทุกคนมีวิชันของตัวเองรวมกันมาจนเป็นวิชันขององค์กร

2. Collaboration

พนักงานต้องร่วมงานกันได้เป็นอย่างดี อย่ามองว่า เมื่อไรที่มีใครได้ อีกคนต้องเสีย บริษัทต้องช่วยบรรเทาความขัดแย้งที่มีโอกาสเกิดขึ้น และหาทางแก้ที่ดีที่สุดให้กับทุกคน

3. Improvement

การพัฒนาตัวเองเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด อย่าคิดว่าตัวเองจะทำให้ดีขึ้นกว่านี้ไม่ได้ ทุกคนต้องพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ เพื่อเติบโตไปพร้อมกับองค์กร

สามารถฟังพอดแคสต์ The Secret Sauce
ผ่านแอปพลิเคชันต่างๆ ที่คุณสะดวกหรือใช้อยู่แล้วได้เลย