ไมโครซอฟท์ (Microsoft) กลายเป็นบริษัทสัญชาติสหรัฐฯ ลำดับที่ 3 ที่มีมูลค่าบริษัทสูงถึง 1 ล้านล้านเหรียญ หรือประมาณ 32 ล้านล้านบาทเป็นที่เรียบร้อย เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 25 เมษายนที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ หลังราคาหุ้นของบริษัทปรับตัวสูงขึ้น เปิดที่ 130 เหรียญต่อจุด เพิ่มขึ้นจากวันก่อนถึง 4%
สาเหตุสำคัญที่ทำให้ราคาหุ้นของไมโครซอฟท์ดีดตัวขึ้น เป็นผลมาจากการที่บริษัทสามารถทำผลงานในช่วงไตรมาส 3 ของปีงบประมาณการเงิน 2019 (มกราคมถึงมีนาคม) ที่ผ่านมาได้น่าประทับใจ มีรายรับรวมที่ 30,571 ล้านเหรียญ เพิ่มขึ้น 14% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ส่วนรายได้จากค่าดำเนินการอยู่ที่ 10,341 ล้านเหรียญ เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว 25% เช่นกัน
เมื่อจำแนกข้อมูลรายรับผลิตภัณฑ์ของไมโครซอฟท์ที่มีสัดส่วนการเติบโตสูงสุดใน 3 ลำดับแรกจะพบว่า แพลตฟอร์มคลาวด์ Microsoft Azure มีอัตราการเติบโตแบบปีต่อปีสูงสุดเป็นอันดับแรกที่ 73% ซึ่งทางไมโครซอฟท์เองก็ให้ความสำคัญกับการพัฒนาแพลตฟอร์มคลาวด์ในปีที่ผ่านมาอย่างหนัก เพื่อไล่กวดเจ้าตลาดอย่าง Amazon Web Services ตามมาด้วยระบบจัดการธุรกิจ Microsoft Dynamics 365 ที่ 43% และซอฟต์แวร์ Office 365 ที่ 30%
ก่อนหน้านี้ในเดือนสิงหาคมและกันยายน 2018 Apple และ Amazon ได้ทำสถิติเป็นบริษัทสหรัฐฯ แห่งแรกและแห่งที่สองตามลำดับ ที่มีมูลค่าบริษัทแตะหลักล้านล้านเหรียญได้ โดยปัจจุบันเชื่อกันว่าไมโครซอฟท์มีมูลค่าบริษัทสูงแซงคู่แข่งในอุตสาหกรรมอย่าง Google (Alphabet) ไปแล้ว
ขณะที่บริษัทที่สร้างสถิติมีมูลค่าทะลุหลัก 1 ล้านล้านเหรียญแห่งแรกของโลกคือ PetroChina จากประเทศจีน ที่เคยทำสถิติดังกล่าวได้ในช่วงเปิดตลาดซื้อขายหุ้นวันแรกหลัง IPO ได้เพียงแค่วันเดียว แต่เชื่อกันว่าสาเหตุดังกล่าวมาจากสถานการณ์ฟองสบู่ตลาดหุ้นจีนในช่วงปี 2007 มากกว่า
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง:
- www.theverge.com/2019/4/25/18515623/microsoft-worth-1-trillion-dollars-stock-price-value
- fortune.com/2019/04/25/microsoft-stock-trillion-market-cap/?utm_source=twitter.com&utm_campaign=fortunemagazine&utm_medium=social&xid=soc_socialflow_twitter_FORTUNE
- www.microsoft.com/en-us/Investor/earnings/FY-2019-Q3