×

On The Horizon No.1

25.02.2019
  • LOADING...
on-the-horizon-no-1

ที่ชั้นดาดฟ้าของโครงการ แมกโนเลียส์ ราชดำริ บูเลอวาร์ด ถนนราชดำริ เรามองเห็นตึกใบหยกสองตั้งตระหง่านตัดเป็นมุมฉากกับเส้นขอบฟ้า แสงแดดยามบ่ายส่องสว่างและขับเน้นความเขียวชอุ่มของสนามในราชกรีฑาสโมสรให้สวยกว่ามุมมองที่คนทั่วไปรู้จัก ปกติพื้นที่ส่วนนี้จะไม่ใช่ส่วนที่ลูกบ้านหรือบุคคลภายนอกขึ้นมาได้เลย และบริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ MQDC พา THE STANDARD ขึ้นมาเยี่ยมชมเป็นกรณีพิเศษสำหรับ ‘On The Horizon’ ชุดแรกที่จะพาไปดูจุดสูงสุดของอาคารที่เป็นไอคอนของกรุงเทพมหานคร และวงการอสังหาริมทรัพย์

 

มูลค่าโครงการแห่งนี้สูงถึง 1.1 หมื่นล้านบาท แบ่งออกเป็นโครงการเรสซิเดนซ์สำหรับพักอาศัย 6 พันล้านบาท อีกส่วนคือโรงแรม วอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพ และสำนักงานมูลค่า 5 พันล้านบาท บนพื้นที่กว่า 6 ไร่ของถนนราชดำริ อีกที่สุดของใจกลางเมืองแห่งสยามประเทศ MQDC ตีโจทย์โครงการนี้เป็นโครงการหรูภายใต้แนวคิดมิกซ์ยูส โรงแรมและคอนโดในรั้วเดียวกัน ส่วนเรสซิเดนซ์ที่เราเข้าชมนี้เป็นอาคารสูง 60 ชั้น รวมห้องชุด 316 ยูนิต ในพื้นที่กว่า 5.5 หมื่นตารางเมตร จากการสอบถามกับทางทีมของ MQDC ราคาเฉลี่ยของคอนโดแห่งนี้อยู่ที่ 2.6 แสนบาทต่อตารางเมตร

 

on-the-horizon-no-1

on-the-horizon-no-1

on-the-horizon-no-1

 

เมื่อเปิดห้องเพนต์เฮาส์ขนาดพื้นที่กว่า 300 ตารางเมตรเข้าไป วิวจากกระจกโค้งของห้องเปิดมุมมองเกือบ 180 องศาให้เราเห็นห้องฟ้า แสงไฟ ยอดตึก และต้นไม้ที่มีน้อยไปหน่อยสำหรับกรุงเทพฯ ทั้งชั้นจะมีห้องประเภทนี้เพียง 2 ห้องเท่านั้น ราคาขายขณะนี้ประมาณ 100 ล้านบาท ส่วนยอดขายทั้งหมดของโครงการขณะนี้อยู่ที่ 80% แล้ว

 

แม้พื้นที่ล็อบบี้จะค่อนข้างเล็ก และพื้นที่ส่วนกลางบริเวณชั้น 4 สำหรับลูกบ้านอาจจะไม่กว้างขวางมากเมื่อเทียบกับคอนโดหรูระดับบนสุดทั่วไป แต่โครงการก็ยังเชื่อว่าด้วยทำเลบนถนนราชดำริที่ทรงพลัง และการตั้งอยู่ในพื้นที่เดียวกับโรงแรม วอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพ จะช่วยเติมเต็มบางคำถามได้ด้วยการสะท้อนภาพลักษณ์และสถานะทางสังคมของลูกบ้านผู้อยู่อาศัย ส่วนงานขายจัดการโดย CBRE ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการอสังหาริมทรัพย์ระดับโลก และสำนักงานนิติบุคคลบริหารจัดการโดย CBM Thailand ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง CBM ประเทศสิงคโปร์ Angel Real Estate Consultancy และกลุ่มแสงฟ้าก่อสร้าง ซึ่งบริษัทนี้บริหารพื้นที่ให้กับอาคารเอ็กซ์เชนจ์ ทาวเวอร์ ไฮด์ สุขุมวิท 11 และ เอ็ม-ลาดพร้าว คอนโดมิเนียม เป็นต้น

 

on-the-horizon-no-1

on-the-horizon-no-1

on-the-horizon-no-1

on-the-horizon-no-1

 

โอภาส ถิรปัญญาเลิศ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Prop2Morrow ผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์ชี้ว่า โครงการนี้เหมาะสำหรับกลุ่ม Real Demand ที่มีความต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง ทั้งลูกค้าเศรษฐีชาวไทยที่ต้องการที่พักใจกลางเมือง หรือซื้อให้ลูกหลานเพื่อความสะดวกในการเดินทางไปสถานศึกษาที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง หรือชาวต่างชาติกำลังซื้อสูงที่ต้องการคอนโดหรูสำหรับการพักผ่อนเมื่อเดินทางมาประเทศไทย แต่เมื่อพิจารณาในมุมของการลงทุนเพื่อขายต่อหรือทำประโยชน์ในอนาคตอาจไม่ตอบโจทย์เท่าไรนัก เนื่องจากเป็นโครงการที่มีมูลค่าสูง และประเด็นที่สำคัญคือการเป็นที่อยู่แบบลีสต์โฮลด์อาจไม่ตรงกับความต้องการของนักลงทุนเท่าใดนัก ขณะนี้ภาคเอกชนบางส่วนก็พยายามผลักดันเรื่องระยะเวลาของลีสต์โฮลด์ให้ยาวถึง 99 ปี หากเรื่องนี้เกิดได้จริง ที่อยู่ประเภทนี้ก็จะเป็นที่น่าจับตาและทำตลาดอย่างร้อนแรง แต่ในเมื่อปัจจุบันยังไม่มีความชัดเจนเรื่องดังกล่าว การลงทุนในที่อยู่อาศัยแบบลีสต์โฮลด์จึงยังไม่ใช่ทางเลือกแรก

 

on-the-horizon-no-1

on-the-horizon-no-1

on-the-horizon-no-1

 

อย่างไรก็ตาม โอภาสยอมรับว่าที่อยู่อาศัยแบบลีสต์โฮลด์จะมีเพิ่มขึ้นในอนาคตอย่างแน่นอน เนื่องจากราคาที่ดินพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง การเปลี่ยนมือของบรรดาแลนด์ลอร์ดมีต้นทุนและไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ขณะที่ความต้องการใช้ชีวิตอยู่ในพื้นที่ใจกลางเมืองยังมีต่อเนื่อง การพัฒนาโครงการรูปแบบสัญญาเช่าระยะยาวจึงถือเป็นทางออกที่มีบทบาทมากขึ้นในวงการอสังหาริมทรัพย์ จุดเด่นคือทำเลและราคาขายที่ต่ำกว่าโครงการแบบฟรีโฮลด์ในพื้นที่เดียวกัน

 

การใช้ชีวิตและการครอบครอง บางทีก็เป็นคนละเรื่อง เป็นโจทย์ที่มีคำตอบได้หลากหลาย จุดวัดสำคัญคือความคุ้มค่าในใจของผู้ซื้อนั่นเอง

 

 

ขอบคุณ: บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X