ดื่มด่ำกับบรรยากาศแบบบ้านไร่สไตล์ฝรั่งเศสใจกลางสุขุมวิทที่ Love Me Tender à la Plancha (เลิฟ มี เทนเดอร์ อา ลา พลันชา) สาขาน้องใหม่ของร้าน Love Me Tender à la Plancha ย่านนางลิ้นจี่
The Vibe
หากเคยได้ยินชื่อโครงการ L’Esprit de Provence Khao Yai ที่ปรับโฉมพื้นที่บริเวณเขาใหญ่ให้กลายเป็นหมู่บ้านตากอากาศสไตล์โพรวองซ์ก็คงจะพอจินตนาการถึงหน้าตาของโครงการน้องสาวในซอยสุขุมวิท 39 นี้ได้ไม่ยาก เดินพ้นออกมาจากเขตตลาดปลาสไตล์ไต้หวันอย่าง Shinsen Fish Market แค่นิดเดียว ออร่าความยุโรปก็พุ่งเข้ามาจากร้านทางฝั่งขวาอย่าง ‘Love Me Tender à la Plancha’
ที่หน้าร้านทักว่า Bonjour ผ่านทางลุคบ้านหลังเล็กสีครีม มาเป็นชุดกับหลังคาสีส้ม กรอบประตูอิฐ และหน้าต่างตีกรอบแบบฝรั่งเศสจ๋า ด้านในก็ให้อารมณ์บ้านหลังเล็กของครอบครัวน่ารักๆ ที่ตกแต่งบ้านด้วยกรอบรูปเล็กใหญ่และสารพัดไอเท็มจุกจิก คุมโทนด้วยสีครีมสบายตา จะเลือกนั่งโซฟาให้สบายไปอีกก็ยังได้
ที่เซอร์ไพรส์เราคือ บ้านหลังนี้มีสวนหลังบ้าน ที่บวกอารมณ์ให้ยุโรปเข้าไปอีก ทั้งต้นไม้เล็กใหญ่ ลานหิน แท่นน้ำพุ กลางวันอาจไม่ค่อยเหมาะ แต่ถ้ารอให้แดดร่มลมตกหน่อย หลายคนคงเลือกกินมื้อเย็นพร้อมบรรยากาศดีๆ ในสวนมากกว่าห้องแอร์แน่นอน
The Dishes
ปูทางมาอย่างฝรั่งเศสขนาดนี้ แน่นอนว่าเมนูก็เต็มไปด้วยอาหารสบายๆ
สไตล์บิสโทรตามท้องเรื่อง ทั้ง ซุปเห็ด (220 บาท) ที่ปรุงด้วยกลิ่นน้ำมันทรัฟเฟิลให้พอแตะจมูก หรืออาหารจากแถบโพรวองซ์อย่าง สลัดนิซัวส์ (Nicoise Salad, 290 บาท) ครบเครื่องทั้งถั่วฝักยาวฝรั่งเศส มะเขือเทศ ปลาแอนโชวี ทูน่า และไข่ต้ม พร้อมน้ำส้มสายชูบัลซามิกรสดี และจานคุ้นหูอย่าง ราตาตูย (Ratatouille 190 บาท) หรือสตูว์ผัก ก็เสิร์ฟมาในรูปแบบของทาร์ตที่มีชีสโรยด้านบนเพิ่มรสชาติและเนื้อสัมผัส ให้หนึ่งคำมีทั้งความนุ่ม กรอบ และหนึบหนับไปด้วยกัน
ส่วนทีเด็ดที่ร้านยกขึ้นหิ้งคือจานเนื้อ ด้วยเพราะร้านเกิดจากความร่วมมือกับบริษัทจำหน่ายเครื่องซูวี (Sous Vide) รายใหญ่จากอเมริกาอย่าง Cuisine Solutions เทคนิคการปรุงเนื้อแบบซูวี* จึงเป็นเรื่องถนัดของร้านนี้ที่ได้ เชฟ ฌอง ปิแอร์ โกญาร์ด (Jean-Pierre Guillaud) จากบริษัทแม่มาดูแลเมนูด้วย เทคนิคการปรุงนี้ทำให้เนื้อส่วนหนักๆ อย่าง ซี่โครง (เริ่มต้นที่ 960 บาท สำหรับ 200 กรัม) กลายเป็นเนื้อนุ่มกินง่าย และยังคงความฉ่ำของเนื้อ นอกจากนี้ทางร้านก็ยังมีแกะและหมูที่ปรุงด้วยเทคนิคเดียวกัน
ใครที่ไม่ใช่สายเนื้อ ลองสั่ง ซุปบุยยาเบส (Bouillabaisse 750 บาท) ที่ขนซีฟู้ดมาอย่างจัดเต็ม ทั้งกุ้ง ปลาหมึก และหอยแมลงภู่ เสิร์ฟคู่กับขนมปังปาดซอสรูย (rouille) ให้รสชาติเผ็ดนิดๆ ปิดท้ายด้วยขนมหวานคลาสสิกอย่าง แอปเปิ้ลทาร์ต (260 บาท) เสิร์ฟอุ่นๆ คู่กับไอศกรีมวานิลลา
The Drinks
มาถึงจุดนี้ ใครดื่มด่ำกับบรรยากาศเต็มที่จนอยากเปิดไวน์ ทางร้านก็มีให้เลือกทั้ง ไวน์ขาวและไวน์แดง (เริ่มที่แก้วละ 220 บาท) หรือถ้าอยากดื่มน้ำผลไม้ใสๆ ให้สดชื่น ก็ลองสั่งม็อกเทลอย่าง Virgin Mixed Berries (125 บาท) ที่ดัดแปลงมาจากค็อกเทลคลาสสิกอย่าง Mojito ได้ทั้งความเย็นสดชื่นของมินต์และความเปรี้ยวหวานของเบอร์รี่หลากชนิดในคราวเดียว
Open: เปิดให้บริการวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 11.00-14.30 น. และ 17.30-22.30 น.
Address: 163/1 สุขุมวิท 39 เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร
Budget: 500-1,000 บาท
Page: www.facebook.com/LMTalaplancha
Contact: 09 7067 6350
Map:
- Sous Vide คือกรรมวิธีปรุงอาหารด้วยการซีลในถุงสุญญากาศ แล้วนำไปทำให้สุกในน้ำที่อุณหภูมิต่ำ เป็นระยะเวลานานกว่าการปรุงด้วยไฟปกติ เพื่อให้อาหารสุกทั่วถึงกันทั้งชิ้นโดยที่ส่วนนอกไม่สุกเกินไป และยังคงรักษาน้ำในอาหารไว้