เทคนิคบอกลาสิวในผู้ใหญ่ที่ทำได้จริงในชีวิตประจำวัน

เป็นผู้ใหญ่ก็เหนื่อยใจเพราะ ‘สิว’ ได้เหมือนกัน
เป็นผู้ใหญ่วัยทำงานที่ต้องวิ่งวุ่นหาเงินว่าเหนื่อยแล้ว แต่หน้าพัง ไม่มั่นใจเพราะ ‘สิว’ ในวัยผู้ใหญ่มันเหนื่อยยิ่งกว่า การเป็นสิวช่วงวัยรุ่นนั้นเรายังปลอบตัวเองได้ว่าเป็นเพราะฮอร์โมนหนุ่มสาว พันธุกรรม และการผลิตน้ำมันที่มากขึ้น ซึ่งไม่นานก็จะหาย และรอยแผลเป็นก็จะจางไป ทว่าสิวในวัยผู้ใหญ่มันซับซ้อนยิ่งกว่านั้น โดยสาเหตุหลักๆ มาจากหลายปัจจัย และมักฝากรอยแผลเป็นไว้นานกว่าผิวหนังจะกลับคืนสภาพเดิมได้

ทั้งนี้จากงานวิจัยพบว่าสิวทั่วไปจะเห่ออย่างที่สุดในช่วงอายุ 10-20 ปี แต่ก็สามารถเป็นอย่างต่อเนื่องไปจนถึงอายุ 50 ปี หรือแม้แต่คนที่ไม่เคยเป็นสิว หรือเคยหน้าใสมาตลอดในช่วงวัยรุ่นก็อาจจะกลับมาเป็นสิวในวัยผู้ใหญ่ได้อีกครั้ง และในกรณีที่น่ากังวลที่สุดคือสิวจะตามคุณไปจนถึงช่วงวัยหมดประจำเดือน แต่ก็ไม่ใช่ว่าเรื่องสิวในผู้ใหญ่จะป้องกันแก้ไขไม่ได้เลยเสียทีเดียว ต่อไปนี้คือเทคนิคบอกลาสิวผู้ใหญ่ที่ประมวลจากประสบการณ์เป็นสิวจริง เจ็บจริง และหน้าพังจริง

ลาก่อนเครื่องสำอางที่รัก

การแต่งหน้ากับสาวๆ โดยเฉพาะในวัยทำงานเป็นของคู่กัน แต่นั่นก็เป็นสาเหตุอันดับต้นๆ ของการเกิดสิวในวัยผู้ใหญ่ด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเมกอัพเบสที่มีน้ำมันซึ่งทำให้เกิดการอุดตันของผิวได้ง่าย ส่วนผสมของน้ำหอมในเครื่องสำอางที่ไม่ถูกกับคนที่ผิวแพ้ง่าย นิสัยไม่ค่อยล้างเครื่องสำอาง หรือการใช้ผลิตภัณฑ์ล้างเครื่องสำอางที่ไม่ได้คุณภาพ ล้างออกไม่หมด ซึ่งเป็นเรื่องเล็กที่หลายคนมองข้าม แต่นั่นคือจุดรวมฝุ่นและมลภาวะที่เราได้เผชิญมาตลอดทั้งวัน

ที่ร้ายที่สุดคือการแต่งหน้าแน่นพร้อมเข้าฟิตเนสหลังเลิกงาน โดยลืมไปว่าขณะออกกำลังกายนั้นเหงื่อจะระบายออกทางรูขุมขน แต่การแต่งหน้าแน่นจะทำให้เหงื่อไม่ระบาย กระตุ้นให้เกิดสิว หรือในรายที่เป็นสิวอยู่แล้วก็จะยิ่งลุกลามกลายเป็นสิวอักเสบได้ แน่นอนว่าวัยผู้ใหญ่ไม่ว่าชายหรือหญิงก็ล้วนแต่ต้องสร้างความมั่นใจด้วยเครื่องสำอาง ทว่าการใส่ใจในรายละเอียดตั้งแต่เลือกเครื่องสำอางให้เหมาะกับสภาพผิวไปจนถึงขั้นตอนการทำความสะอาดจึงเป็นพื้นฐานการรักษาสิวผู้ใหญ่ที่ผู้ใหญ่ควรหันมาจริงจังได้แล้ว

คุณสะอาดมากเกินไปหรือเปล่า

เมื่อรู้ว่าความสะอาดคือยาหลักในการรักษาสิว โดยเฉพาะในช่วงที่กรุงเทพฯ ปกคลุมด้วยมลภาวะทางอากาศเช่นนี้ หลายคนจึงหมั่นทำความสะอาดมือ รวมทั้งโทรศัพท์ที่จะสัมผัสใบหน้าโดยตรง ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ดี แต่หลายคนเพิ่มฟังก์ชันด้วยการหมั่นล้างทำความสะอาดใบหน้าวันละหลายครั้ง แต่รู้ไหมว่าการทำความสะอาดใบหน้าบ่อยเกินไปกลับกระตุ้นการสร้างไขมันที่เกินความจำเป็นคือสาเหตุหนึ่งของการอุดตันและก่อให้เกิดสิว ตรงกันข้าม การล้างทำความสะอาดใบหน้าเพียงวันละ 2 ครั้งด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีคุณภาพนั้นสามารถลดสาเหตุการเกิดสิวในผู้ใหญ่ได้อีกทาง

งานจ๋า เราห่างกันบ้างนะ

ปฏิเสธไม่ได้ว่าความเครียดจากการงานคือตัวการบั่นทอนร่างกาย ทั้งนอนไม่หลับ ฮอร์โมนแปรปรวน ขาดสมดุลชีวิต สังเกตไหมว่าเมื่อชีวิตการงานมันเครียดจนถึงขีดสุด ไม่นานสิวที่ไม่อยากรักก็จะเห่อขึ้นมาเหมือนเป็นเพื่อนซี้ ทั้งคาง คอ หรือแม้แต่แผ่นหลัง ซึ่งจากการวิจัยพบว่าสาเหตุหลักที่ทำให้ความเครียดเป็นที่มาของสิวก็ด้วยเซลล์ที่สร้างเอ็นไซม์ย่อยน้ำมัน หรือ Sebum ในตุ่มสิวมีความเซนสิทีฟกับฮอร์โมนความเครียด เมื่อร่างกายเครียด Sebum ก็จะยิ่งไปกระตุ้นการสร้างน้ำมันที่มากเกินจำเป็น ทำให้แบคทีเรียเจริญเติบโตได้ดี กระตุ้นให้เกิดการอักเสบของสิวตามมา ดังนั้นถ้าทำงานเต็มที่แล้วก็ต้องไม่ลืมที่จะพักผ่อนและดูแลตัวเองให้เต็มที่ด้วยเช่นกัน หรือถ้าไม่สามารถลาพักร้อนหรือพักจากงานอันหนักหน่วงได้จริงๆ ก็ให้หาช่วงเบรกสั้นๆ ระหว่างวัน ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายหลังเลิกงาน หรือแม้แต่การถอยออกมาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์แล้วหายใจเข้าออกลึกๆ ช้าๆ สัก 5 นาที เท่านี้ก็เป็นการเบรกความเครียดระหว่างวันได้แล้ว

เป็นผู้ใหญ่ไม่ได้แปลว่านอนน้อยได้

อย่าเข้าใจผิดว่าเด็กหรือวัยรุ่นเท่านั้นที่ต้องนอนอย่างเต็มอิ่ม เพราะผู้ใหญ่เองก็ต้องนอนหลับให้สนิทเพื่อให้ร่างกายได้ปรับสมดุลด้วยเช่นกัน ต้องไม่ลืมว่าอายุที่มากขึ้นจะมีผลโดยตรงต่อกระบวนการผลัดเซลล์ผิวที่อาจจะทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพนัก ทำให้เกิดการสะสมของผิวหนังที่ตายแล้ว กลายเป็นสิวอุดตัน รวมทั้งกำแพงผิวหรือสารเมลาโทนิน (Melatonin) ก็ลดลง ทำให้ผิวแพ้ง่าย อักเสบ เป็นสิว ไม่นับรวมฮอร์โมนที่ผิดปกติเพราะร่างกายไม่ได้พักผ่อนหรือในภาวะมีประจำเดือน แต่ทั้งหมดสามารถช่วยได้ด้วยการนอนอย่างเต็มอิ่ม

กระทรวงสาธารณสุขได้ระบุว่า วัยผู้ใหญ่หรือวัยทำงานที่อายุระหว่าง 18-64 ปี ควรนอน 7-9 ชั่วโมง แต่แน่นอนว่ายิ่งโตขึ้น ยิ่งต้องทำงานหนัก และยิ่งหาเวลานอนแทบไม่ได้ ทางแก้ที่ดีที่สุดคือควรทำสมองให้โล่ง ปลอดโปร่ง จิตใจผ่อนคลาย เพื่อให้ร่างกายเข้าสู่การหลับลึกทันทีที่หัวถึงหมอน เพราะมีการวิจัยจากหลายสำนักออกมายืนยันแน่ชัดแล้วว่าการนอนหลับสนิทเพียง 4-5 ชั่วโมงจะทำให้ร่างกายได้ความสดชื่นใกล้เคียงกับการนอน 8 ชั่วโมง ทั้งยังทำให้ฮอร์โมนสเตียรอยด์ตามธรรมชาติในร่างกายกลับมาสู่ภาวะสมดุลอีกครั้ง ซึ่งถ้าร่างกายสามารถเยียวยาตัวเองได้ก็ไม่จำเป็นต้องพบแพทย์เพื่อกินยาช่วยปรับฮอร์โมนที่แปรปรวนจนทำให้เกิดสิวแต่อย่างใด

แต่กรณีที่ยังมีปัญหาสิวอยู่บนใบหน้า แนะนำให้ดูแลทั้งเรื่องความสะอาดและรู้จักเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ป้องกันและบรรเทาสิว เช่น Tomei Anti-Acne Cream เป็นครีมแต้มสิวที่รวมประโยชน์ 7 ประการ ทั้งยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อสิว P.Acnes ที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิว ช่วยลดอาการบวมแดง ลดการอักเสบ ลดความมัน ลดการอุดตัน และช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น ไม่แห้งลอก และกระชับรูขุมขน