“เชื้อโรคร้ายตามธรรมชาติเป็นฆาตกรต่อเนื่องที่เก่งที่สุด” พวกเน่า ผีเดินได้ อันเดด (Undead) หรือซอมบี้ จากภาพยนตร์หรือซีรีส์กระตุกขวัญเหล่านี้ ได้อยู่คู่กับพวกเรามาตั้งแต่จำความได้ และยิ่งเวลาผ่านไป พล็อตเรื่องอันนำพามาซึ่ง ‘สาเหตุ’ และเอกลักษณ์ทางกายภาพ ความร้ายกาจ ไปจนถึงจุดอ่อนของซอมบี้ก็ยิ่งซับซ้อน มีแง่มุมแตกต่างกันออกไป
ที่น่าสนใจคือ ทีมเขียนบทภาพยนตร์และซีรีส์หลายต่อหลายเรื่องเลือกที่จะพัฒนาพล็อตและวิวัฒนาการของ ‘ซอมบี้’ โดยการเชื่อมโยงกับหลักการทางวิทยาศาสตร์ และชีววิทยา ฯลฯ ซึ่งล้วนแต่เป็นเรื่องใกล้ตัวชนิดที่ผู้ชมรู้สึกคล้อยตามได้ “ไม่แน่ว่าสักวันซอมบี้อาจจะเกิดขึ้นจริงก็ได้นะ” ว่าแล้วก็ลองมาแยกแยะ ชำแหละความน่ากลัวของซอมบี้แต่ละเรื่องกันหน่อยว่า ที่มาและที่ไปจากแต่ละเรื่องนั้นเกิดขึ้นจากสาเหตุใดบ้าง ที่สำคัญคือวิธีการรับมือกับซอมบี้แต่ละสายพันธุ์นั้นต้องทำอย่างไรถึงจะรอดชีวิตจากพวกมันได้
Resident Evil (2002-2016)
ภาพยนตร์ที่สร้างจากเกมดัง Biohazard (ชื่อเวอร์ชันญี่ปุ่น และชื่อ Resident Evil ในเวอร์ชันต่างประเทศ) โดยมีการสร้างภาคต่อออกมาทั้งหมด 6 ภาค ตลอด 14 ปี ปฐมบทเริ่มต้นขึ้นจากความผิดพลาดของ Umbrella Corporation องค์กรลึกลับและทรงอิทธิพลทางด้านวิศวพันธุกรรม ที่ปล่อยให้ T-Virus เชื้อร้ายที่ถูกพัฒนาขึ้นจากศูนย์วิจัยทางพันธุกรรม ซึ่งตั้งอยู่ลึกลงไปใต้เมือง Raccoon City จนเชื้อร้ายได้แพร่กระจายลุกลามไปทั่วทุกพื้นที่ของโลก จุดนี้เองที่ทำให้ ‘อลิซ’ หัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยต้องเข้ามาทำหน้าที่สกัดการแพร่เชื้อ… ก่อนที่เรื่องราวใน Resident Evil ภาตต่อๆ มาจะยิ่งขยายขอบเขตการต่อสู้ของอลิซกับองค์กรลับอย่าง Umbrella Corporation ในเวลาต่อมา
Dawn of the Dead (1978)
เมื่อประชากรทั่วทั้งโลกถูกจู่โจมโดยโรคระบาดร้ายแรงที่ทำให้คนตายหิวกระหายในเนื้อสดๆ โดยการไล่ล่ามนุษย์ทุกชีวิตไปทุกหนแห่ง และแล้ว ‘ซูเปอร์มาเก็ต’ แห่งหนึ่งก็กลายเป็นจุดศูนย์รวมของมนุษย์กลุ่มหนึ่งที่หนีรอดจากฝูงซอมบี้โดยมิได้นัดหมาย
Dawn of the Dead เป็นทั้งตำนานและเป็นภาพยนตร์ซอมบี้ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดเรื่องหนึ่งของ จอร์จ แอนดรูว์ โรเมโร ผู้กำกับชาวอเมริกัน-แคนาดา ที่ถูกขนานนามว่าเป็น ‘Grandfather of the Zombie’ ผู้สร้างภาพยนตร์ปฐมบทของซอมบี้อย่าง Night of the Living Dead ขึ้นในปี 1968
Quarantine (2008)
ลองคิดดูว่าถ้าคุณต้องหนีเอาชีวิตรอดจากฝูงซอมบี้ในตึกที่ปิดตาย รับรองได้ว่ามันจะต้องเป็นการเผชิญวิกฤตที่นำพามาซึ่งความลุ้นระทึกชนิดแทบลืมหายใจ ขณะเดียวกันหนังก็ค่อยๆ พาคนดูคลายปมว่ามนุษย์พากันทยอยเป็นซอมบี้ได้อย่างไร และทำไมเหตุการณ์ทั้งหมดจึงเกิดขึ้น ณ ที่แห่งนี้ ในตึกปิดตาย สิ่งนี้แหละที่ทำให้ Quarantine กลายเป็นหนึ่งในหนังซอมบี้ที่หลายคนบอกต่อว่าต้องดู หากคุณเป็นคอหนังซอมบี้ตัวจริง
I Am Legend (2007)
ชายผู้คิดว่าตนเองคือ ‘มนุษย์’ ที่เหลือรอดอยู่เพียงคนเดียวบนโลกพร้อมกับสุนัขคู่ยากอีกหนึ่งตัว ที่มาที่ไปเกิดขึ้นจากเชื้อไวรัสที่กลายพันธุ์ในกระบวนการรักษาโรคมะเร็งทางการแพทย์ และหลังจากฉีด ‘เชื้อเจ้าปัญหา’ ให้กับคนไข้กว่าหมื่นคน สามปีต่อมาเชื้อก็ได้แพร่กระจายไปยังสิ่งมีชีวิตเลือดอุ่นทุกเผ่าพันธุ์บนโลก กระทั่งกลายเป็น ‘ดาร์กซีกเกอร์’ พวกมันไม่ใช่ซอมบี้แบบเดิมๆ ที่เคยเดินลากขาเชื่องช้าอีกต่อไป แต่พวกมันคือซอมบี้ที่รู้จักคิดพลิกแพลงและดุร้ายเหมือนหมาบ้า!
Zombieland (2009)
แม้จะมีต้นเหตุของเรื่องที่ดูตลกไปนิดจากการกินแฮมเบอร์เกอร์เนื้อวัวบ้าแล้วกลายเป็นซอมบี้ แต่เพียงแค่เปิดเรื่องด้วยฉากเอาชีวิตรอดจากซอมบี้ก็เล่นเอาหยุดขำไม่ได้เลย พูดง่ายๆ ว่าโดยรวมแล้ว Zombieland เป็นหนังประเภทดูเอามัน แต่ในความสนุก เรียกเสียงฮา มันก็เป็นหนังตลกจิกกัดที่ทำออกมาได้อย่างชาญฉลาดด้วยเช่นกัน
The Walking Dead (2010)
ซีรีส์ซอมบี้เรื่องดังที่ชอบทำร้ายหัวใจคนดูโดยการพรากชีวิต ‘ตัวละคร’ ที่รักให้ต้องดับดิ้นไปในทุกๆ ซีซัน ขณะเดียวกันเรื่องราวในซีรีส์ก็ซับซ้อนเกินกว่าจะคาดเดา แต่เสน่ห์ที่ทำให้ The Walking Dead มีแฟนๆ คอยติดตามไปทั่วโลก คือการนำเสนอฉากเอาชีวิตรอดจากฝูงซอมบี้ไปพร้อมๆ กับเปิดเผยแง่มุมต่างๆ ของแต่ละตัวละครที่สะท้อนความเป็นมนุษย์ที่ต่างคนล้วนแต่มีด้านขาวและดำ มีความรัก ความโลภ ความดี ชั่วร้าย ต่ำทราม และนั่นเองที่ทำให้แฟนหนังได้รับอะไรที่ลึกไปกว่าการเอาใจช่วยให้ตัวละครที่รักและให้มีชีวิตรอดจากซอมบี้และมนุษย์ด้วยกันเอง (ซึ่งสุดท้ายคนดูก็มักจะใจสลายอย่างที่บอกไปเมื่อตอนต้นนั่นแหละ)
World War Z (2013)
หนึ่งในภาพยนตร์ ‘ซอมบี้’ ยุคใหม่ที่สร้างออกมาได้ยอดเยี่ยมที่สุด เรื่องราวในหนังค่อยๆ พาคนดูแกะรอยที่มาของฝูงซอมบี้ที่เปลี่ยนเช้าธรรมดาๆ อย่างที่ควรเป็นของมวลมนุษยชาติให้กลายเป็นฝันร้าย ที่สุดแล้วเราได้ทราบว่าธรรมชาติได้เริ่มต้นเชื้อ ‘ซอมบี้’ ขึ้นจากผู้ที่มีอาการติดเชื้ออีโบลา ซึ่งมีลักษณะอาการคล้ายกับพิษสุนัขบ้า และแพร่ไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว ส่วนวิธีการรักษานั้นเหรอ… ความจริงการรับมือกับสิ่งเลวร้ายบางทีมันก็เป็นอะไรที่ใกล้ตัวจนเรามองข้ามมันไปก็เท่านั้นเอง…
Warm Bodies (2013)
หนังซอมบี้ที่มาพร้อมพล็อตโรแมนติก แหวกแนว หนังเล่าถึงการรักษาอาการดุร้ายและกระหายเนื้อสดของซอมบี้ได้ด้วยความรัก เมื่อซอมบี้หนุ่มไปตกหลุมรัก ‘จูลี่’ มนุษย์สาวสวย ตั้งแต่แรกเห็น และเมื่อยิ่งได้รู้จัก ความสัมพันธ์ทางความรู้สึกระหว่างมนุษย์และซอมบี้คู่หนึ่ง ได้พัฒนาไปเป็น ‘ความรัก’ และจุดนั้นเองที่ส่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเป็นลูกโซ่ต่อซอมบี้ตัวอื่นๆ จนสุดท้ายเมืองที่มืดหม่นก็กลับมามีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้ง
Train to Busan (2016)
พ่อของลูกนั้นคือคำจำกัดความของ ‘กงยู’ ในเรื่องนี้ เพราะด้วยบทบาทที่ดูรักและห่วงลูก เขาพยายามหาทุกวิถีทางเพื่อให้ลูกรอดพ้นซอมบี้ที่มีต้นเหตุจากสารเคมีของโรงงานไบโอเทครั่วซึม และมีผู้ติดเชื้อคนหนึ่งเล็ดลอดเข้าไปในขบวนรถไฟสายด่วนสู่ปูซาน ตลอดเรื่องราวลุ้นระทึก กดดัน และอบอุ่นในคราวเดียวกัน ส่วนคาแรกเตอร์ซอมบี้ที่สร้างมาก็ถือว่าน่ากลัวและดูเป็นไปได้จริงทีเดียว ภาพยนตร์กำกับโดย ยอนซังโฮ โดยเรื่องนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเหตุการณ์ไวรัสเมอร์สแพร่ระบาดอย่างหนักในเกาหลีระหว่างเดือนมิถุนายน 2558
The Cured (2017)
พล็อตแหวกขนบหนังซอมบี้ที่เคยมีมา จนคว้ารางวัลหนังสยองขวัญยอดเยี่ยมในเทศกาล Fantastic Fest หนังว่าด้วยเรื่องของผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัส Maze และกลายเป็นซอมบี้ แต่สุดท้ายได้รับการรักษาจนกลับเป็นคนปกติดังเดิม เรื่องราวที่เหมือนจะคลี่คลายและดูดี กลับเล่าต่อกับผู้ชมว่านั่นไม่ใช่การหายขาดอย่างสมบูรณ์ เมื่อไรก็ตามที่ผู้ติดเชื้อเกิดอาการหวาดระแวงหรือกดดัน พวกเขาก็มีสิทธิ์ที่จะกลับกลายเป็นซอมบี้ได้อีกครั้งอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว!
ภาพประกอบ: Peakoonnang B.
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า