จากกรณีของ เจือง ซุย เญิต หนึ่งในผู้ร่วมจัดรายการของสำนักข่าว Radio Free Asia ที่หายตัวไปตั้งแต่วันที่ 26 มกราคมที่ผ่านมา หลังจากเขาเดินทางมายื่นคำขอที่ลี้ภัยกับสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ที่กรุงเทพฯ
โดยแหล่งข่าวอิสระของแอมเนสตี้ระบุว่า นายเจือง ซุย เญิต ถูกจับตัวไประหว่างเดินซื้อของอยู่ในห้างสรรพสินค้าฟิวเจอร์พาร์ค โดยกลุ่มชายไม่ทราบชื่อ และไม่มีใครพบเห็นหรือสามารถติดต่อเขาได้อีกเลย
สำนักเลขาธิการใหญ่แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร จึงออกแถลงเรียกร้องทางการไทยสอบสวนเกี่ยวกับการลักพาตัวนักข่าวชาวเวียดนามรายนี้ โดย มินาร์ พิมเพิล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายปฏิบัติการระดับโลกของแอมเนสตี้สากล กล่าวว่า
“การหายตัวไปของ เจือง ซุย เญิต เป็นเรื่องที่น่าตระหนก เขาเคยเป็นนักโทษทางความคิด และตกเป็นเป้าหมายของทางการเวียดนามหลายครั้ง เราทราบจากหลายแหล่งข่าวว่าเขาเดินทางมากรุงเทพฯ เพื่อขอลี้ภัย แต่หลังจากวันที่ 26 มกราคมเป็นต้นมา ไม่มีใครพบเห็นเขาอีกเลย
“จากรายงานข่าวที่น่าเชื่อถือหลายชิ้น ทางการไทยต้องสอบสวนเกี่ยวกับการลักพาตัวชาวเวียดนามจากชุมชนของผู้ลี้ภัย ซึ่งตามรายงานข่าวและจากการรวบรวมหลักฐานจากเพื่อนร่วมงานของ เจือง ซุย เญิต ที่ Radio Free Asia พบว่า เวียดนามถึงขั้นเคยเข้ามาลักพาตัวผู้หลบหนีและผู้ขอลี้ภัยที่อยู่ในประเทศไทยและประเทศอื่นๆ เจือง ซุย เญิต มีความเสี่ยงอย่างชัดเจนที่จะถูกทรมานและปฏิบัติอย่างโหดร้าย หากข่าวการลักพาตัวเป็นเรื่องจริง
“ทางการเวียดนามยังไม่ได้แถลงเกี่ยวกับการหายตัวไปของ เจือง ซุย เญิต ทางการต้องออกมาชี้แจ้งข้อมูลที่เกี่ยวกับชะตากรรมเขา และให้การประกันว่า เขาจะได้รับความปลอดภัยและมีเสรีภาพในการเดินทาง”
เจือง ซุย เญิต นักข่าวชาวเวียดนาม เคยถูกจำคุกจากข้อหา ‘โฆษณาชวนเชื่อเพื่อต่อต้านรัฐ’ เมื่อปี 2013-2015 ที่ผ่านมา หลังได้รับการปล่อยตัว เขาทำงานเป็นนักข่าวอิสระ จนกระทั่งเดือนธันวาคม ปี 2018 เขาได้ข่าวว่าตัวเองมีความเสี่ยงว่าจะถูกจับกุมอีกครั้ง และเริ่มสังเกตเห็นการเพิ่มกำลังตำรวจใกล้บ้านพักของตนเอง จึงตัดสินใจเดินทางมายังประเทศไทย เมื่อต้นเดือนมกราคม ปี 2019 ก่อนที่จะหายตัวไป
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง: