×

10 ปี Girls’ Generation กับเส้นทางความฝันที่ผ่านมา

05.08.2017
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

5 mins read
  • วันที่ 5 สิงหาคม 2007 คือวันที่โซวอน (SONE หมายถึงชื่อเรียกกลุ่มแฟนคลับของ Girls’ Generation) ได้รู้จักกับสาวๆ 9 คนในนาม Girls’ Generation ผ่านเดบิวต์สเตจของรายการ Inkigayo (ช่อง SBS) เป็นครั้งแรก
  • 3 ปีแรกของ Girls’ Generation คือช่วงเวลาที่กราฟชีวิตของพวกเธอค่อนข้างตกต่ำ แต่หลังปล่อยมินิอัลบั้ม Gee ออกมาในปี 2009 นับจากนั้นกราฟชีวิตของพวกเธอก็ค่อยๆ ขึ้นไปสู่จุดสูงของวงการเพลง
  • สิงหาคม 2017 คือการคัมแบ็กกลับมาในรอบ 2 ปีของ Girls’ Generation กับอัลบั้มเต็มชุดที่ 6 ‘Holiday Night’

     วันเสาร์ที่ 5 สิงหาคม 2007 อาจจะเป็นวันธรรมดาของใครหลายๆ คน แต่สำหรับเหล่าโซวอน (SONE) ทั่วเอเชียและทั่วโลก มันคือวันที่พวกเขาได้รู้จักกับสาวๆ Girls’ Generation ผ่านเดบิวต์สเตจของรายการ Inkigayo (ช่อง SBS) เป็นครั้งแรก และมันคือจุดเริ่มต้นของหนึ่งใน ‘เกิร์ลกรุ๊ป’ ที่โด่งดังที่สุดของเกาหลี ซึ่งได้สร้างโมเมนต์หลายฉากหลายตอนเอาในความทรงจำของแฟนๆ มาครบ 10 ปีแล้ว ส่วนจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง เราจะพาย้อนไปอุ่นเครื่องก่อนร่วมเฉลิมฉลองกับผลงานอัลบั้มใหม่ของพวกเธอ (Holiday Night) ที่จะเปิดตัวในเดือนสิงหาคมนี้

 

โปรเจกต์รวมดาว ‘Yeoja Danchae’

     ย้อนกลับไปในปี 2005 ที่ SM Entertainment ได้เริ่มต้นโปรเจกต์ Yeoja Danchae (ยอจา ดันแซ) โปรเจกต์สำหรับเกิร์ลกรุ๊ปวงใหม่ของค่าย โดยคัดเลือกเด็กฝึกหัดหญิงที่มีความสามารถทั้งการร้องและเต้นมากที่สุดในค่ายมารวมตัวกันถึง 11 คน ก่อนที่จะจัดโชว์เคสให้สาวๆ ยอจา ดันแซ ทั้ง 11 คน แต่น่าเสียดายที่หลังจากเปิดตัว พวกเธอกลับไม่ได้รับความนิยมมากนัก นั่นทำให้โปรเจกต์นี้มีเริ่มมีการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง

     ตั้งแต่ปี 2005-2007 โปรเจกต์ยอจา ดันแซ ถูกปรับจำนวนสมาชิกอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ 11 คน 6 คน 12 คน 10 คน และในที่สุดวงก็ได้จำนวนสมาชิกที่แน่นอนและลงตัวที่ 9 คนในปี 2007 คือ

     อิมยุนอา (Im Yoon-A), ฮวัง มิยอง (Hwang Mi-Young) หรือทิฟฟานี่ (Tiffany), ควอนยูริ (Kwon Yu-Ri), คิมฮโยยอน (Kim Hyo-Yeon), ชเวซูยอง (Choi Soo-Young), ซอจูฮยอน (Seo Joo-Hyun) หรือซอฮยอน, คิมแทยอน (Kim Tae-Yeon), จองซูยอน (Jung Soo-Yeon) หรือเจสสิก้า (Jessica) และลีซุนคยู (Lee Soon-Kyu) หรือซันนี่ (Sunny) พร้อมกับชื่อวงว่า Girls’ Generation ที่ถูกตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการ

 

เรียงจากซ้ายไปขวา: (แถวบน) ซันนี่, ยูริ, ทิฟฟานี่, ซูยอง และซอฮยอน (แถวล่าง) แทยอน, ยุนอา, เจสสิก้า และฮโยยอน

 

กำเนิด Girls’ Generation

     เพลงเดบิวต์ของวง Girls’ Generation คือเพลง Into the New World ถูกปล่อยออกมาในวันที่ 3 สิงหาคม ปี 2007 จากซิงเกิลอัลบั้ม Girls’ Generation

     สองวันต่อมาพวกเธอขึ้นแสดงเดบิวต์สเตจผ่านรายการ Inkigayo (ช่อง SBS) ซึ่งสาวๆ ทั้ง 9 คนก็ได้รับกระแสตอบรับที่ดี การันตีด้วยรางวัลมากมาย อาทิ Rookie of The Month (จาก CyWorld Digital Music Award), New Female Singer Award (จากงาน the 14th Korea Entertainment Awards) และเพลง  Into the New World สามารถคว้าอันดับที่ 1 จากรายการ M! Countdown (ช่อง Mnet) ภายในเวลา 2 เดือน

     แน่นอนว่าเมื่อเส้นทางของพวกเธอเริ่มต้นได้ดี SM Entertainment ก็ยิ่งเดินหน้าผลักดันอย่างต่อเนื่องด้วยการส่งอัลบั้มเต็มที่มีชื่อว่า Girls’ Generation ออกมาในวันที่ 11 พฤศจิกายนปีเดียวกัน (หลังจากเดบิวต์ได้เพียงแค่ 3 เดือนเท่านั้น) โดยมีมิวสิกวิดีโอเพลงใหม่ที่สาวกเคป๊อปในยุคนั้นต่างต้องคุ้นหู หรือเคยฟังกันออกมาอย่างเพลง Girls’ Generation, Kissing You และ Baby Baby

 

มิวสิกวิดีโอเพลง Kissing You ที่มีสมาชิกวง Super Junior อย่าง อีทงเฮ (Lee Dong-Hae) มาเป็นพระเอกมิวสิกวิดีโอ

 

10 นาทีแห่งความมืดมิด

     แต่หลังจากเริ่มต้นดีได้ไม่นาน ในปีถัดมา (2008) พวกเธอก็ต้องเผชิญกับกระแสบอยคอตต์จากแฟนคลับอย่างหนักบนเวที 2008 Dream Concert

     โดยกลุ่มแฟนๆ ที่เข้าชมคอนเสิร์ตในวันนั้นพร้อมใจกันดับแท่งไฟนานกว่า 10 นาทีระหว่างที่ Girls’ Generation ขึ้นแสดง โดยมีเพียงแค่กลุ่มแฟนคลับของพวกเธอจำนวนหนึ่งเท่านั้นที่ยังโบกแท่งไฟสีชมพูอย่างต่อเนื่องระหว่างที่พวกเธอทำการแสดงอยู่

     หากใครได้ย้อนดูคลิปเหตุการณ์ในวันนั้นจะรู้เลยว่า สาวๆ Girls’ Generation ทำการแสดงโดยที่เสียงร้องของพวกเธอนั้นสั่นตลอดทั้งเพลง เรียกว่าเป็นฝันร้ายของพวกเธอไปเลยก็น่าจะได้

 

 

     และเหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัด เพราะเหตุการณ์ทำนองนี้ยังลามไปถึงคอนเสิร์ต SMTOWN ในประเทศจีนที่แฟนๆ ใช้แท่งไฟในการทำสัญลักษณ์รูปกากบาท (X) ระหว่างที่พวกเธอกำลังการแสดงบนเวทีอีกด้วย

     อ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนอาจจะสังสัยว่าพวกเธอไปทำอะไร เหตุใดจึงโดนบอยคอตต์? …แต่จนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่ได้มีการยืนยันข้อมูลอย่างแน่ชัดว่าสาเหตุของเหตุการณ์ในครั้งนั้นเกิดจากอะไร แต่เชื่อกันว่าน่าจะเป็นการเข้าใจผิดกันระหว่างกลุ่มแฟนคลับ รวมถึงเรื่องความสนิทสนมของพวกเธอกับบอยแบนด์รุ่นพี่ร่วมค่าย

     ย้อนกลับไปในปี 2014 สาวๆ Girls’ Generation เคยเล่าในรายการ Healing Camp (ช่อง SBS) ว่าการบอยคอตต์ในครั้งนั้นทำให้พวกเธอต้องทำการแสดงในความมืดกว่า 10 นาที

     ‘ยุนอา’ เล่าถึงเหตุการณ์ในวันนั้นว่า “มันเป็น 10 นาทีที่ไม่มีเสียงใดๆ เลยแม้กระทั่งเสียงปรบมือ ซึ่งพวกเราต้องเริ่มโชว์จากความเงียบนั้น”

     เช่นเดียวกันกับ ‘แทยอน’ ที่เล่าถึงเหตุการณ์ในคอนเสิร์ต SMTOWN ในประเทศจีนว่า “ระหว่างการแสดงในคอนเสิร์ต ผู้ชมต่างยกแท่งไฟสีแดงมาทำเป็นสัญลักษณ์กากบาท (X)”

 

ยุคทองของ Girls’ Generation  

 

https://www.youtube.com/watch?v=5VsSR2gf400

มิวสิกวิดีโอเพลง Gee ที่มีสมาชิกวง SHINee อย่าง ชเวมินโฮ (Choi Min-Ho) มาเป็นพระเอกมิวสิกวิดีโอ

 

     ถึงแม้จะเจอกับกระแสการบอยคอตต์ที่รุนแรง แต่พวกเธอไม่ยอมแพ้และยังคงเดินหน้าผลิตผลงานออกมาอย่างต่อเนื่อง และฟ้าหลังผ่านพายุมักจะสวยงามเสมอ

     เพราะปีต่อมาหลังจากปล่อยมินิอัลบั้ม Gee ในวันที่ 7 มกราคม ปี 2009 เพลงโปรโมตอย่างเพลง Gee ก็ส่งให้ Girls’ Generation ดังเป็นพลุแตก!

     การันตีอีกครั้งด้วยรางวัลมากมายชนิดร่ายยาวเป็นหางว่าว เช่น พวกเธอสามารถกวาด 6 รางวัล (Singer of the Year Award, Song of the Year Award, Top 10, Award Mobile Music Award, Smart Radio Award และ Odyssey Award) จากงาน 2009 Melon Music Awards และรางวัล Popular Music of the Year Award จาก The National Assembly of the Republic of Korea เป็นต้น

     นอกจากนี้พวกเธอยังกลายเป็นศิลปินหญิงกลุ่มแรกในรอบ 6 ปีที่มียอดจำหน่ายอัลบั้มกว่า 100,000 อัลบั้มได้อีกด้วย

     และจากความสำเร็จในช่วงต้นปี ทำให้วันที่ 29 มิถุนายน 2009 Girls’ Generation คัมแบ็กกลับมาอีกครั้งในมินิอัลบั้มที่ 2 Genie ซึ่งแน่นอนว่าการกลับมาครั้งนี้ก็ได้รับการตอบรับจากแฟนๆ อย่างดีเช่นเดิม

 

 

     หากจะบอกว่าในปี 2009 เป็นยุคทองของ Girls’ Generation ก็คงไม่ผิดนัก เพราะหลังจากที่ปล่อยเพลง Gee และ Genie ออกมากวาดรางวัลได้มากมายแล้ว พวกเธอก็ยังมีผลงานโฆษณากับโทรศัพท์มือถือ LG รุ่น Chocolate ผ่านมิวสิกวิดีโอเพลง Chocolate Love และต่อเนื่องกับมิวสิกวิดีโอเพลง SEOUL สำหรับการโปรโมตกรุงโซลของ Seoul Metropolitan Government โดยภายในมิวสิกวิดีโอจะปรากฏสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญต่างๆ ของกรุงโซล เช่นโซลทาวเวอร์ และจัตุรัสกวางฮวามุน เป็นต้น

 

มิวสิกวิดีโอเพลง SEOUL ที่นำแสดงโดยสมาชิกวง Super Junior และ Girls’ Generation

 

เดินหน้าบุกตลาดญี่ปุ่นและเอเชียอย่างเป็นทางการ

     ต้นปี 2010 Girls’ Generation คัมแบ็กในอัลบั้มเต็มชุดที่ 2 Oh! และอีกสองเดือนต่อมากับอัลบั้มรีแพ็กเกจ Run Devil Run ซึ่งทั้งสองอัลบั้มถือเป็นการปรับลุคให้สาวๆ Girls’ Generation ดูเปรี้ยวซ่ามากยิ่งขึ้น

 

Photo: @GirlsGeneration/Twitter

ภาพจากคอนเสิร์ตในญี่ปุ่นครั้งที่ 3 ‘Girls’ Generation Love & Peace’ ในปี 2014

 

     หลังจากที่สาวๆ Girls’ Generation คัมแบ็กในช่วงต้นปีที่ประเทศเกาหลีกันอย่างจุใจแล้ว ในเดือนสิงหาคมปีเดียวกัน (2010) Girls’ Generation ก็เริ่มต้นบุกตลาดญี่ปุ่นด้วยการเดบิวต์อย่างเป็นทางการ โดยเริ่มต้นจากโชว์เคสที่มีจำนวนผู้ชมกว่า 22,000 คน

     นอกจากนี้ ซิงเกิลอัลบั้มแรก Genie ก็ยังคว้ารางวัล The Golden Disc (จาก The Recording Industry Association of Japan (RIAJ) อีกด้วย)

     การบุกตลาดญี่ปุ่นในครั้งนี้ ทำให้ Girls’ Generation ได้รับความนิยมในวงกว้างนอกเหนือจากในเกาหลีใต้ ซึ่งสิ่งที่การันตีความนิยมของพวกเธอก็คือ การจัดคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรกใน Taipei Arena ประเทศไต้หวัน ในวันที่ 15-16 ตุลาคม ซึ่งสร้างสถิติการเป็นศิลปินกลุ่มผู้หญิงชาวต่างชาติที่มีจำนวนผู้เข้าชมสูงที่สุด

 

ก้าวสู่การเป็นเกิร์ลกรุ๊ปแถวหน้าของเกาหลีใต้

     ตั้งแต่ปี 2011-2013 ไม่ว่าพวกเธอจะปล่อยเพลงอะไรออกมาก็ได้รับความสนใจและเป็นที่จับตามองอยู่เสมอ ตั้งแต่อัลบั้มเต็มชุดที่ 3 The Boys, ดิจิทัลซิงเกิล Dancing Queen, อัลบั้มเต็มชุดที่ 4 I Got A Boy และมินิอัลบั้ม Mr. Mr.

 

Photo: @GirlsGeneration/Twitter

 

 

การเปลี่ยนแปลงตลอดกาลของ Girls’ Generation

     จนกระทั่งในปี 2014 ที่สาวๆ วง Girls’ Generation ต้องเจอกับจุดเปลี่ยนสำคัญ ซึ่งจะทำให้ Girls’ Generation ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

     ‘นั่นก็คือการออกจากวงของเจสสิก้า’

     ข่าวนี้สร้างความฮือฮาอย่างมาก ซึ่งตัวเจสสิก้าเองก็ดูเหมือนไม่ได้เต็มใจจะให้เหตุการณ์สุดช็อกนี้เกิดขึ้น เพราะหลังจากที่มีข่าวถูกเผยแพร่ออกไปเพียง 2 วัน เธอก็ส่งจดหมายถึงสื่อมวลชนโดยมีใจความว่า เธอตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเธอไม่เคยคิดที่จะออกจากวง Girls’ Generation เลย

 

Photo: @GirlsGeneration/Twitter

 

     ความจริงตอนนั้นเป็นช่วงที่ Girls’ Generation เตรียมคัมแบ็ก J-Pop ซิงเกิล Catch Me If You Can พอดิบพอดี ซึ่งในความเป็นจริงมิวสิกวิดีโอเพลง Catch Me If You Can ถ่ายทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่ทว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทำให้มิวสิกวิดีโอเพลง Catch Me If You Can ต้องถ่ายทำใหม่ทั้งหมด ทำให้เป็นครั้งแรกที่เราเห็นสาวๆ Girls’ Generation เพียง 8 คนเท่านั้น

 

 

     ถึงแม้ว่าเจสสิก้าจะไม่ได้ร่วมทำกิจกรรมกับวง Girls’ Generation แล้ว แต่ทว่าด้วยสัญญากับทาง SM Entertainment ทำให้เธอยังคงสังกัดอยู่ภายใต้ SM Entertainment จนกระทั่งหมดสัญญา ก่อนที่เธอจะย้ายมาอยู่ค่าย Coridel Entertainment (สังกัดปัจจุบัน)

 

Photo: @GirlsGeneration/Twitter

 

Party Time! ช่วงเวลาหลังการเปลี่ยนแปลง

     หลังจากที่ Girls’ Generation ผ่านการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวไปได้สักพัก ในปีถัดมา (2015) พวกเธอกลับมากับอัลบั้มชุดที่ 5 Lion Heart ในวันที่ 19 สิงหาคม โดยมีเพลงฮิตติดหูอย่าง Party, Lion Heart และ You Think ที่ถึงแม้ว่าจะรู้สึกแปลกหูแปลกตาไปบ้าง แต่เหล่าโซวอนเองก็พร้อมที่จะสนับสนุนทุกย่างก้าวของพวกเธอต่อไป

 

 

 

Photo: @GirlsGeneration/Twitter

เรียงจากซ้ายไปขวา:

(แถวบน) ยุนอา, ฮโยยอน, ยูริ และทิฟฟานี่

(แถวล่าง) ซูยอง, ซอฮยอน, แทยอน, และซันนี่

 

Holiday Night! การคัมแบ็กในรอบ 2 ปี

     ต้องบอกว่าหลังจากที่ปล่อยอัลบั้มเต็มชุดที่ 5 อย่าง Lion Heart ไปในปี 2015 สาวๆ วง Girls’ Generation ต่างก็หันมาโฟกัสกับงานเดี่ยวที่ตนเองถนัด ไม่ว่าจะเป็นการออกผลงานเดี่ยวของแทยอน (เพลง Rain, Starlight, Why และ 11.11), ทิฟฟานี่ (เพลง I Just Wanna Dance และ Heartbreak Hotel), ฮโยยอน (เพลง Mystery) การรับงานแสดงของยูริ (ซีรีส์เรื่อง Local Hero), ซูยอง (ซีรีส์เรื่อง Squad 38) และยุนอา (ซีรีส์เรื่อง The K2) เป็นต้น

     เป็นสาเหตุให้ในปี 2016 Girls’ Generation ไม่มีผลงานเพลงร่วมกันออกมาให้เราได้เห็น

     แต่ตอนนี้ (2017) พวกเธอกลับมาแล้ว! พร้อมกับอัลบั้มเต็มชุดที่ 5 Holiday Night ที่เปิดจำหน่ายดิจิทัลอัลบั้มในวันที่ 4 สิงหาคม และวางแผงซีดีอัลบั้มในวันที่ 7 สิงหาคม โดยในอัลบั้มมีทั้งหมด 10 เพลงคือ All Night, Holiday, Girls Are Back, FAN, Only One, Sweet Talk, It’s You, One Last Time, Love is Bitter และ Light Up the Sky และสำหรับโซวอนที่รอคัมแบ็กสเตจของพวกเธอนั้นขอให้อดใจรออีกนิด เพราะพวกเธอเตรียมที่จะคัมแบ็กสเตจในวันที่ 10 สิงหาคมนี้ ผ่านรายการ M! Countdown (ช่อง Mnet)

 

 

     ซึ่งการเดินทางเข้าสู่ปีที่ 10 ของ Girls’ Generation นั้น คิมยุนฮา นักวิจารณ์เพลงป๊อปกล่าวว่า “Girls’ Generation ถือเป็นวงเคป๊อปที่หาได้ยาก เพราะโดยปกติแล้วเกิร์ลกรุ๊ปจะมีอายุของวงมากที่สุดอยู่ที่ 7 ปี (ตามระยะเวลาของสัญญาที่เซ็นเอาไว้กับทางต้นสังกัด) เท่านั้น”

     ในขณะที่ อีแดฮวา นักวิจารณ์เพลงป๊อปกล่าวเสริมว่า “การที่ Girls’ Generation สามารถดำรงตำแหน่งเกิร์ลกรุ๊ปแถวหน้าของวงการมาได้ถึง 10 ปีด้วยเพลงเต้นนั้นถือว่าเป็นอะไรที่สุดยอดมากๆ เพราะเทรนด์ของเพลงนั้นเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และต้องยอมรับว่า Girls’ Generation เองก็ไม่ได้ยอดเยี่ยมในทุกครั้ง แต่เพลงและคอนเซปต์ของวงนั้นค่อนข้างออกมาดี”

 

อ้างอิง:

 

 

 

FYI
  • โซวอน (SONE) คือชื่อเรียกกลุ่มแฟนคลับของ Girls’ Generation
  • ในปี 2007 เกิร์ลกรุ๊ปที่เดบิวต์ในปีเดียวกันคือวง Wonder Girls และ Kara (แต่ปัจจุบันทั้งสองวงได้ประกาศยุบวงอย่างเป็นทางการไปเรียบร้อยแล้ว)
  • การประท้วงขับไล่ประธานาธิบดีปาร์กกึนเฮของเกาหลีใต้เมื่อปี 2016 นักศึกษามหาวิทยาลัยทั่วประเทศเลือกใช้เพลง Into the New World ของ Girls’ Generation ในการรณรงค์ต่อต้าน ซึ่งสาเหตุที่เลือกใช้เพลงนี้ก็เพราะเนื้อหาของเพลงสื่อถึงการละทิ้งความโศกเศร้าและต่อสู้กับอุปสรรคต่างๆ เพื่อก้าวสู่โลกใบใหม่ที่มีความหวัง
  • ภาพยนตร์เรื่องแรกของยุนอาคือ Confidential Assignment คู่จารชน คนอึนมึน (เข้าฉายในไทยเมื่อวันที่ 13 เมษายน 2017) ประกบคู่กับนักแสดงแถวหน้าของเกาหลีอย่าง ฮยอนบิน (Hyun Bin) และยูเฮจิน (Yoo Hae-Jin) ซึ่งยุนอาสามารถคว้ารางวัล Most Popular Actress จากงาน 2017 (53rd) BaekSang Arts Awards ไปครองได้จากการแสดงภาพยนตร์เรื่องแรก
  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X