บนโลกภาพยนตร์แนวแอ็กชันสายลับ น้อยเรื่องเหลือเกินที่ ‘สายลับหญิง’ จะถูกสร้างขึ้นมาพร้อมคาแรกเตอร์สุดโดดเด่น แต่เชื่อเถอะว่าระหว่างนั่งดู Atomic Blonde บลอนด์ สวยกระจุย คุณจะทั้งกรี๊ด ทั้งตามเชียร์ไปพร้อมสบถภาษาห่ามๆ อยู่ในใจว่า คุณแม่ชาร์ลิซ เธอรอน (Charlize Theron – ที่ตอนนี้เธอถูกยกให้เป็น จอห์น วิค (John Wick) ฉบับผู้หญิงไปแล้ว) นี่สุดแซ่บจนลืมดื่มน้ำตามไปเลย!

     ความจริงโปรเจกต์สายลับหญิงลอร์เรน บรอดตัน (Lorraine Broughton) มันปัง! ตั้งแต่มีข่าวว่าชาร์ลิซจะมาสวมคาแรกเตอร์แล้ว เพราะสิ่งที่เธอทำไว้ในหนังอย่าง Mad Max: Fury Road ที่ถึงแม้จะหั่นผมหรือทาหน้าจนดำ ก็ยังทำลายเสน่ห์และงานแสดงคุณภาพของเธอไปไม่ได้ สำคัญที่สุดเพราะคาแรกเตอร์บู๊ๆ เพี้ยนๆ ของ ฟูริโอซา (Furiosa) นี่แหละที่ทำให้เราเชื่ออย่างสุดจิตสุดใจว่า ความทรงเสน่ห์ของ ชาร์ลิซจะทำให้สายลับหญิงใน Atomic Blonde สวย แกร่ง แซ่บ และแพงแสนแพงอย่างแน่นอน  

     มาว่ากันที่ ‘เนื้อหนัง’ กันบ้าง เมื่อสายลับสาวลอร์เรน บรอดตัน มีภารกิจสำคัญ โดยมีฉากหลังเป็นยุคสงครามเย็น ปลายปี 1989 ซึ่งเป็นช่วงที่กำแพงเบอร์ลินกำลังจะถูกทุบ ซึ่งตรงนั้นความจริงก็ลืมๆ ไปเถอะ เพราะความมันและความแซ่บที่ควรโฟกัสมีอยู่สองอย่าง หนึ่งคือฉากแอ็กชั่นที่มันทุกหยด ต่อยหนักทุกหมัด เตะเน้นทุกช็อต หยิบอะไรได้เสียบ จับอะไรได้แทง โดยเฉพาะฉาก Long Take ที่เชื่อเถอะว่าต่อไปจะกลายเป็นตำนาน

     แต่ประเด็นสำคัญสุดๆ มันไม่ได้อยู่ตรงนั้น เพราะที่เราอยากจะพูดคือ คอสตูมของสายลับคนนี้มันเกินเรื่องไปมาก โดดเด่นสะดุดตาทุกชุด แน่ล่ะ! มันเลยทำให้เราอดที่จะหยิบมาพูดถึงไม่ได้

     เปิดฉากกับ ‘ชุดแรก’ ที่เรื่องราวเกิดขึ้นในช่วงสงครามเย็นของสองประเทศ สายลับหน้าสวยเก๋เลือกหยิบเสื้อเชิ้ตขาวเข้ารูป ทับด้วยเสื้อกั๊กสีดำลายทาง แมตช์กับรองเท้าแองเกิลบู๊ต ตกแต่งหมุดและอะไหล่เท่ๆ คลุมด้วยเทรนช์โค้ตสีขาวหนังแก้ว สวมแว่นดาดำใหญ่ปกปิดรอยช้ำบนใบหน้าแบบเก๋ๆ เนียนๆ เดี๋ยวก่อน! มันยังไม่จบ ก่อนออกไปลุยกับโลกโหดๆ คุณแม่ยังสะพายกระเป๋าหนังสีขาวดำที่พอดีกับปืนพก คำถามเกิดขึ้นเมื่อลุคนี้ปรากฏขึ้นบนจอ นางแวะไปดูแฟชั่นวีกมาเหรอ… ทำไมถึงได้แต่งตัวเริ่ดตั้งแต่หัวจรดเท้า จนลืมภาพลักษณ์ประเภทว่าสายลับต้องพรางตัว ฉันต้องไม่เด่นไปในบัดดล

     หรือแท้จริงแล้วการแต่งตัวแบบนี้คือการสร้างเรื่องว่าฉันโดดเด่นเหมือนคนแฟชั่นทั่วไป ไม่ได้เป็นสายลับที่จะต้องปกปิดตัวตนอะไร

     ลุคสองที่อยากให้ติดตามคือ ฉากที่ลอร์เรนนั่งเครื่องบินไปลงที่เยอรมนี เดี๋ยวนะ การใส่เสื้อเชิ้ตทับด้วยเกาะอกลายทางเข้าชุดกับกางเกง รองเท้าส้นสูงหัวแหลมสีแดงสด สไตลิ่งนี้มันมีมาตั้งแต่ 1989 แล้วเหรอ… แต่ถึงอย่างนั้นก็อยากจะบอกว่า ‘มันดี’ และ ‘มันเก๋’ มากๆ สำหรับคนในยุคนั้น

     ถ้าคนอ่านกำลังเพลิน มาต่อกันที่ฉากที่ดูเหมือนเรียบง่าย แต่แน่ล่ะเธอก็ยังโดดเด่นด้วยโอเวอร์โค้ตสีดำยาว ผ้าพันคอยาว กับบู๊ตหนังสูงเลยเข่า ฟังดูเหมือนเรื่องธรรมดาๆ แต่ผมสีซิลเวอร์บลอนด์ของเธอที่ดูโดดเด้งไปกับแอตติจูดการเดินแบบไม่เกรงกลัวในย่านที่ดูมอมแมม นี่สินะที่เขาเรียกว่า Simply Bold

     มาต่อด้วยฉากที่ไม่คิดว่าจะมีอะไร… แต่เธอก็เลือกที่จะแมตช์เทรนช์โค้ตสีขาว กับกระโปรงสอบสั้น รองเท้าบู๊ตหนังสูงเลยเข่าส้นแบนที่สไตลิ่งเข้ากับถุงน่องและตัวหนีบเพิ่มความเย้ายวน แต่ความพีกคือ เสื้อคอเต่าลายกราฟิกขาวดำได้สร้างช็อตประทับใจคือ การดึงคอเต่ามาปิดหน้าก่อนที่จะตามมาด้วยฉากบู๊ที่ดูเหมือนไม่ได้เตรียมตัวมา แต่ก็เพราะแบบนี้แหละที่พิสูจน์กับใจเราตอนนั่งอยู่กลางโรงภาพยนตร์ว่า ฉันจะไม่ลืมแม่บลอนด์ดี้ สวยกระจุย! เมื่อเดินออกจากโรงภาพยนตร์    

     จริงๆ แล้วในภาพยนตร์ยังมีอีกหลายชุดที่น่าสนใจ ทั้งชุดออกไปยั่วท้าล่าข่าว ชุดรับศพ หรือไอเท็มแรงๆ ในฉากปิด แต่ถ้าบอกหมดก็อดตื่นเต้นสิ ใครอยากเห็นความมันในงานแอ็กชันและความปังในคอสตูมแฟชั่นล่ะก็ บอกเลยว่าหนังเรื่องนี้ไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่ๆ มันหยดตั้งแต่แรกจนจบเลย เป็นหนังดีที่คุณไม่ควรพลาด