กรมธนารักษ์เริ่มเปิดโครงการให้บริการรับแลกคืนเหรียญกษาปณ์เคลื่อนที่ (Mobile Coin Unit) โดยนำร่อง 14 จังหวัด พร้อมจุดประสงค์เพื่อกระตุ้นให้เหรียญกษาปณ์เกิดการหมุนเวียนเพิ่มขึ้น
เมื่อวานนี้ (14 ม.ค.) นายอำนวย ปรีมนวงศ์ อธิบดีกรมธนารักษ์ รับหน้าที่เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการการให้บริการรับแลกคืนเหรียญกษาปณ์เคลื่อนที่ (Mobile Coin Unit) เผยว่ากรมธนารักษ์เป็นหน่วยงานเพียงแห่งเดียวของประเทศที่มีหน้าที่ผลิตเหรียญกษาปณ์หมุนเวียนเพื่อใช้เป็นสื่อกลางในการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าในท้องตลาด มี 6 ชนิดราคา ประกอบไปด้วย เหรียญ 25 สตางค์, 50 สตางค์, 1 บาท, 2 บาท, 5 บาท และ 10 บาท
โดยในแต่ละปี กรมธนารักษ์จำเป็นต้องผลิตเหรียญให้ได้ปริมาณเพียงพอต่อความต้องการของประชาชนเพื่อให้สอดคล้องและสามารถรองรับระบบเศรษฐกิจในภาพรวมทั้งประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาโลหะที่ใช้ในการผลิตเหรียญมีการปรับราคาสูงขึ้น
นั่นจึงส่งผลให้ต้นทุนในการผลิตสูงกว่ามูลค่าราคาหน้าเหรียญ เพื่อเป็นการลดต้นทุนในการผลิตเหรียญกษาปณ์ และเพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการได้มากขึ้น กรมธนารักษ์จึงได้เพิ่มช่องทางการให้บริการรับแลกคืนเหรียญกษาปณ์แบบเคลื่อนที่
โดยโครงการดังกล่าวเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะกระตุ้นให้ประชาชนที่เก็บเหรียญไว้ในกระปุกออมสินหรือตามที่ต่างๆ นำออกมาแลกคืนเพื่อให้เกิดการหมุนเวียนเพิ่มขึ้น โดยรถรับแลกคืนเหรียญกษาปณ์เคลื่อนที่จะออกให้บริการในจังหวัดปริมณฑลและจังหวัดใกล้เคียงที่ไม่มีศูนย์บริหารจัดการเหรียญกษาปณ์รวม 14 จังหวัด
สำหรับการออกให้บริการครั้งแรกจะมีในพื้นที่จังหวัดปทุมธานีและพระนครศรีอยุธยา ในช่วงเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ 2562 หลังจากนั้นจะขยายพื้นที่ให้บริการไปจังหวัดปริมณฑล รวมถึงจังหวัดใกล้เคียงอีก 12 จังหวัด ได้แก่ นนทบุรี, สมุทรสาคร, สมุทรปราการ, สมุทรสงคราม, นครปฐม, อ่างทอง, สิงห์บุรี, สุพรรณบุรี, ชลบุรี, ฉะเชิงเทรา, นครนายก และสระบุรี พร้อมเป้าหมายการรับแลกคืนเหรียญกษาปณ์หมุนเวียนทุกชนิดราคาเดือนละ 5 ล้านเหรียญ (ราวๆ 60 ล้านเหรียญต่อปี)
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง:
