หลังจากที่รัฐบาลฟิลิปปินส์ได้ทำการสู้รบกับกลุ่มมุสลิมแบ่งแยกดินแดน โดยเฉพาะกลุ่มแนวร่วมปลดปล่อยอิสลามโมโร (Moro Islamic Liberation Front: MILF) มาอย่างยาวนานหลายทศวรรษ และเคยได้ทำข้อตกลงร่วมแลกเปลี่ยนผลประโยชน์และสันติภาพระหว่างกันในสมัยประธานาธิบดีเบนิกโน อากีโน (Benigno Aquino) ในปี 2012 ก่อนที่รัฐสภาของฟิลิปปินส์จะมีมติไม่ผ่านร่างกฎหมายปกครองตนเอง ซึ่งเป็นสาระสำคัญในข้อตกลงร่วมดังกล่าว
เมื่อวานนี้ตามเวลาในท้องถิ่น (17 กรกฎาคม) ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตร์เต (Rodrigo Duterte) ของฟิลิปปินส์ได้ยื่น ‘ร่างกฎหมายพื้นฐานบังซาโมโร (The Bangsamoro Basic Law: BBL)’ แก่ฝ่ายนิติบัญญัติ เพื่อเร่งให้สิทธิในการปกครองตนเองแก่ชาวมุสลิม โดยเฉพาะพื้นที่ทางตอนใต้ของประเทศ รวมทั้งแก้ไขปัญหาการแบ่งแยกดินแดนในระยะยาวและสร้างสันติภาพให้เกิดขึ้นในฟิลิปปินส์
โดยกฎหมายนี้จะให้สิทธิแก่กลุ่มแนวร่วมปลดปล่อยอิสลามโมโรและชาวมุสลิมสามารถจัดตั้งเขตปกครองตนเองบนเกาะมินดาเนาได้ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ประชากรส่วนใหญ่ในแถบนั้นนับถือศาสนาอิสลาม ซึ่งแตกต่างจากประชากรส่วนใหญ่ของฟิลิปปินส์ที่นับถือศาสนาคริสต์ นิกายโรมันคาทอลิก ทั้งยังให้สิทธิในการปกครองแก่ผู้นำในท้องถิ่น ออกกฎหมาย บริหารจัดการเรื่องต่างๆ โดยเฉพาะด้านการเงินและการจัดเก็บภาษีภายในพื้นที่เขตปกครองนี้ได้อีกด้วย
โดยประธานาธิบดีดูเตร์เตได้ให้คำมั่นว่า เขาจะเร่งผลักดันร่างกฎหมายฉบับนี้โดยเร็วที่สุด และหวังว่าชาวฟิลิปปินส์ทุกคน ไม่เพียงแต่ชาวมุสลิมจะได้รับประโยชน์จากร่างกฎหมายนี้ รวมถึงสันติภาพที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ด้วย
ตลอดปีครึ่งที่ผ่านมานับว่า เป็นภารกิจที่ค่อนข้างยากลำบากของผู้นำประเทศ อดีตผู้ว่าการเมืองมินดาเนาถึง 22 ปีคนนี้เหลือเกิน ด้วยสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและการที่ฟิลิปปินส์ตกเป็นเป้าหมายใหม่ของกลุ่มไอเอสในภูมิภาคนี้ โดยเฉพาะการยึดครองเมืองมาราวี บนเกาะมินดาเนาของขบวนการก่อการร้ายในช่วงที่ผ่าน
ทั้งนี้กลุ่มไอเอสยังได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มแบ่งแยกดินแดนกลุ่มต่างๆในท้องถิ่น ยิ่งทำให้การควบคุมและจัดการสถานการณ์เป็นไปได้ยากขึ้น โดยประธานาธิบดีดูเตร์เตหวังอีกว่า การประกาศใช้กฎหมายนี้จะเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ช่วยทำให้สถานการณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับภัยก่อการร้ายค่อยๆ คลี่คลายลง
อัล-ฮัจจ์ มูราจ อิบราฮิม (Al–Hajj Murad Ebrahim) ประธานกลุ่ม MILF กล่าวทิ้งท้ายว่า “การส่งมอบร่างกฎหมายพื้นฐานบังซาโมโร หรือ BBL ในครั้งนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นความไว้วางใจที่พวกเรามีต่อรัฐบาลในการสร้างสันติภาพ รวมถึงการเริ่มพัฒนาบ้านเกิดของเราตามที่รัฐบาลฟิลิปปินส์ได้สัญญาไว้ และนี่คือ ทางออกเดียวในการแก้ไขปัญหาการสู้รบกันตลอดระยะเวลาหลายสิบปี”
มีการคาดการณ์ว่า รัฐสภาของฟิลิปปินส์จะมีมติผ่านร่างกฎหมายฉบับนี้ และกระบวนการเปลี่ยนผ่านจะเริ่มต้นขึ้นในช่วงปี 2019 และระบุให้มีการจัดการเลือกตั้งครั้งแรกภายในปี 2022 โดยมีที่นั่งในสภา 80 ที่นั่ง
นี่คือก้าวครั้งสำคัญของสังคมและการเมืองของประเทศเพื่อนบ้านของเราอย่างฟิลิปปินส์ ที่พยายามแก้ไขความขัดแย้งทางศาสนาและเชื้อชาติด้วยการแก้ไขกฎหมาย เพื่อปรับโครงสร้างอำนาจการปกครองให้เข้ากับลักษณะของสังคม
Cover Photo: TED ALJIBE/AFP
อ้างอิง: