เจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย ตรัสต่อสาธารณชนเกี่ยวกับคดีฆาตกรรม จามาล คาช็อกกี นักข่าวชาวซาอุฯ ที่หายตัวไปในสถานกงสุลซาอุฯ ประจำนครอิสตันบูล เป็นครั้งแรก โดยระบุว่า เป็นการก่ออาชญากรรมที่ชั่วร้าย พร้อมรับสั่งว่า จะต้องนำตัวผู้ที่อยู่เบื้องหลังมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
เจ้าชายบิน ซัลมาน เสด็จมาร่วมงานประชุมกลุ่มผู้ริเริ่มการลงทุนเพื่ออนาคต (Future Investment Initiative) ในกรุงริยาด เมื่อวานนี้ (24 ต.ค.) โดยตรัสต่อบรรดานักลงทุนว่า “เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่เจ็บปวดสำหรับชาวซาอุฯ ทุกคน รวมถึงทุกๆ คนบนโลกใบนี้ มันไม่จำเป็นเลย”
มกุฎราชกุมารแห่งซาอุฯ ทรงเผชิญแรงกดดันจากสังคมและนานาประเทศ เพราะหลายฝ่ายเชื่อว่า พระองค์อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้ โดยเป็นผู้สั่งการให้ลงมือสังหารอดีตคอลัมนิสต์หนังสือพิมพ์ วอชิงตันโพสต์ หลังทางการซาอุฯ ยอมรับว่า คาช็อกกีเสียชีวิตภายในสถานกงสุลซาอุฯ ประจำนครอิสตันบูล เมื่อวันที่ 2 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยเหตุการณ์ครั้งนี้มีผู้ถูกจับกุม 18 คน และมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงถูกปลดจากตำแหน่ง 5 คน รวมถึงผู้อำนวยการฝ่ายสื่อมวลชนของเจ้าชายบิน ซัลมาน และรองผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองของซาอุฯ
อย่างไรก็ตาม ทางการซาอุฯ ยังคงยืนกรานว่า ทั้งมกุฎราชกุมารและสมเด็จพระราชาธิบดีซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อาล ซะอูด กษัตริย์แห่งซาอุฯ ทรงไม่ทราบเรื่องราวเกี่ยวกับปฏิบัติการส่งคน 15 คนจากซาอุดีอาระเบีย ไปสังหารคาช็อกกีในประเทศตุรกี
“ซาอุดีอาระเบียจะดำเนินมาตรการ และนำกฎที่จำเป็นทั้งหมดมาบังคับใช้ เพื่อคลี่คลายคดีนี้ให้จงได้ และจะนำตัวผู้บงการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เพื่อรับผิดชอบต่ออาชญากรรมที่ชั่วร้าย พวกเขาจะต้องถูกนำตัวขึ้นศาล” เจ้าชายบิน ซัลมาน ตรัสต่อฝูงชนในหอประชุม
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง: