Q: ดิฉันอยู่ฝ่ายทรัพยากรบุคคลค่ะ รู้สึกท้อใจมากที่บริษัทไม่ให้ความสำคัญกับแผนกนี้เลย ทำเหมือนเราเป็นกระโถน มีอะไรก็โยนๆ มาให้ทำหมด แม้แต่ซ่อมเครื่องแฟกซ์ก็ยังให้ HR ทำ เขาบอกว่า HR ก็ทำหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยในบริษัทนี่นา มีอะไรเสียก็ต้องดูแลสิ ทำงานไปแล้วรู้สึกเหมือนตัวเองไม่มีค่าเลยค่ะ ควรทำอย่างไรดีคะ
A: หลายคนบอกว่าส่วนที่ยากที่สุดในการทำงานคือการทำงานกับคน อันนี้ผมก็เห็นด้วยมากๆ ครับ ในขณะเดียวกัน ผมก็เชื่อว่าส่วนสำคัญที่สุดที่จะทำให้งานออกมาก้าวหน้าและประสบความสำเร็จได้ก็คือการทำงานกับคนนี่แหละครับ เพราะฉะนั้น ในฐานะที่คุณทำงานที่ชื่อว่า ‘ทรัพยากรบุคคล’ ผมคิดว่างานที่คุณกำลังทำอยู่นี่แหละครับ คืองานที่ยิ่งใหญ่และมีส่วนกำหนดทิศทางขององค์กรได้ ยินดีด้วยครับที่คุณได้ทำงานที่สำคัญแบบนี้
แต่ก็นั่นแหละครับ บางบริษัทก็อาจจะไม่ได้ให้ความสำคัญกับงานทรัพยากรบุคคล จริงอยู่ว่า HR ก็ทำหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยในบริษัท แต่ถ้าจะให้ทำแค่เช็กเรื่องใครมาสาย ใครขอลา ใครลาออก ทำเรื่องเงินเดือนให้ทันวันเงินเดือนออก หาพนักงานใหม่ ฯลฯ ผมก็คิดว่า มันธรรมดาไป นี่มันยุคไหนกันแล้ว!
หน้าที่หลักของ HR มี 3 อย่างคือ Recruit – Develop – Retain
Recruit คือ ‘การเลือกคน’ คือการเฟ้นหาคนเก่งมาทำงานที่บริษัท แน่นอนว่าเราก็ต้องคัดกรองหาคนที่มีศักยภาพมาทำงาน แต่เก่งอย่างเดียวไม่พอ เราต้องดูนโยบายของบริษัทด้วยว่าต้องการพัฒนาไปในทางไหน เช่น บริษัทกำลังพัฒนาเรื่องดิจิทัลเพื่อปรับตัวให้เข้ากับธุรกิจที่กำลังจะถูก Disrupt ได้ ก็อาจจะต้องหาคนที่มีความรู้เรื่องดิจิทัล ปรับตัวได้ดีในสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ กล้าเสี่ยง และพร้อมจะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ไม่ใช่แค่รอรับนโยบายว่าผู้บริหารจะอยากให้บริษัทพัฒนาไปทางไหนอย่างเดียวนะครับ แต่คนเป็น HR ที่เก่งจะสามารถบอกผู้บริหารได้เลยว่า ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในโลกสมัยใหม่แบบนี้ องค์กรควรพัฒนาไปในทิศทางใด ด้วยการใช้ทรัพยากรบุคคลในแบบไหน เห็นไหมล่ะครับว่านี่ไม่ใช่งานธรรมดา ไม่ใช่แค่หาพนักงานมาเติมแล้วก็ต่อรองเงินเดือนหรือแค่เที่ยวไปล่าพนักงานจากบริษัทคู่แข่ง แต่ไปไกลถึงการเป็นหน่วยที่ขับเคลื่อนองค์กรผ่านทางการพัฒนาคน
Develop คือ ‘การสร้างคน’ ซึ่งผมคิดว่าเป็นหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่มากๆ เราได้คนมาทำงานแล้วเราก็ต้องพัฒนาเขาให้เก่งขึ้น มีทักษะอะไรบ้างที่เขาจำเป็นต้องรู้เพื่อใช้ในการทำงาน หรือมีแล้วเขาจะได้เอาไปใช้กับชีวิตตัวเองให้มีคุณค่าและมีความสุข คนเป็น HR ก็ต้องหามาฝึกฝนเขา ผมมองว่างานสร้างคนเป็นงานที่ไม่มีที่สิ้นสุดนะครับ มีแต่จะต้องพัฒนาคนไปเรื่อยๆ ผมว่าคนเป็น HR นี่เวลาได้เห็นคนเติบโตทั้งทางหน้าที่การงานหรือเติบโตทางจิตใจแล้วคงมีความสุขมากนะครับ นึกดูว่าเรากำลังสร้างคนให้เขาเก่งขึ้น แกร่งขึ้น เป็นคนที่ดีขึ้น สิ่งที่เราทำอยู่นี้ไม่ใช่แค่ให้เขาในที่ทำงานนะครับ แต่เขาเอาไปใช้ได้แม้ก้าวขาออกจากออฟฟิศไปแล้ว ไปจนถึงใช้ได้ตลอดชีวิตด้วย ผมว่าหน้าที่ของ HR ยิ่งใหญ่ก็ตรงนี้
นอกจากพัฒนาด้านความรู้แล้ว ยังรวมถึงการพัฒนาเส้นทางอาชีพของพนักงานด้วย HR มีหน้าที่ทำให้พนักงานเติบโต ไม่ว่าจะเป็นการเลื่อนตำแหน่ง การสร้างทีมที่โตขึ้น การได้ทำงานอย่างเต็มศักยภาพ พนักงานแต่ละคนมีเป้าหมายต่างกัน มีความต้องการในการเติบโตที่ต่างกัน HR คือคนที่จะเข้ามาช่วยออกแบบเส้นทางการเติบโตของแต่ละคนเพื่อไปสู่เป้าหมายได้ เจ๋งไหมล่ะครับ
Retain คือ ‘การรักษาคน’ เราหาคนมาได้แล้ว พัฒนาเขาแล้ว เราก็ต้องทำให้เขาอยู่ในองค์กรให้ได้ เรื่องนี้ก็มีตั้งแต่การออกแบบโครงสร้างผลตอบแทน การมี Fast Track สำหรับบรรดา Rising Stars ทั้งหลาย การทำให้คนรู้สึกรักองค์กร การคลี่คลายความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในบริษัท การลงโทษพนักงานที่ทำผิดกฎหรือไม่เอื้อต่อการพัฒนาขององค์กร ฯลฯ
ไล่ๆ ดูงานของ HR ก็เยอะมากและมีความสำคัญมากอยู่แล้ว ที่เหลือมันคือองค์กรจะมองเห็นความสำคัญของทรัพยากรบุคคลที่มีหรือเปล่า ถ้าไม่ให้ความสำคัญ บริษัทก็จะให้คนที่อยากทำงานอย่างหนึ่งไปทำงานอีกอย่างหนึ่งที่ไม่ตรงความสามารถจนพนักงานรู้สึกไม่มีค่า แบบเดียวกับที่คุณมองเห็นความสำคัญของ HR แต่บริษัทให้คุณไปซ่อมแฟกซ์นั่นแหละครับ
เวลาที่บริษัทไม่เห็นคุณค่าของเรา ผมจะมีอยู่ 2 สมมติฐานที่นำไปสู่ทางออก สมมติฐานแรกคือ ‘บริษัทไม่รู้จริงๆ ว่าเราทำอะไรได้’ เป็นไปได้ไหมครับว่าบริษัทคุณจะไม่รู้ว่าแผนกนี้ทำอะไรได้ พอไม่รู้ก็จะให้ทำงานที่ไม่มีคนอยากทำ หรือใช้คนได้ไม่ถูกความสามารถ วิธีการแก้ปัญหานี้ ผมแนะนำว่า เป็นไปได้ไหมครับที่เราจะลุกขึ้นมาทำอะไรบางอย่างที่ทำให้ผู้บริหารรู้ว่า เราทำอะไรได้มากกว่านั้น จะให้หนูไปซ่อมแฟกซ์ก็ได้นะคะ แต่หนูทำอะไรได้มากกว่านั้นเยอะแยะเลยค่ะ ยิ่งเราทำให้เขาเห็นว่าเราทำอะไรได้ เขาอาจจะตาสว่างก็ได้นะครับว่า HR มีความสำคัญและทำอะไรได้มากขนาดนี้ โธ่! ให้ไปซ่อมแฟกซ์ซะตั้งนาน นั่นแหละครับ เมื่อนั้นเขาก็กลับมาให้ความสำคัญกับเราเอง พนักงานที่เจ๋งคือพนักงานที่บอกบริษัทว่าบริษัทขาดอะไรอยู่และต้องการอะไร เพราะฉะนั้น อย่างแรก เวลาที่เขาไม่ให้ความสำคัญกับเรา ต้องถามตัวเองก่อนว่า เราทำให้เขาเห็นหรือยังว่าเราสำคัญ
น่าสนุกนะครับถ้าคุณสามารถทำให้องค์กรที่ไม่เคยให้ความสำคัญกับทรัพยากรบุคคลเลยกลายมาเป็นองค์กรที่ให้ค่ากับทรัพยากรบุคคลเสียที ถ้าคุณทำได้ นั่นแหละครับ ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของคุณเลย คุณกำลังช่วยคนทั้งบริษัทเลยนะครับ
แต่ถ้าเราได้พยายามแล้ว และบริษัทก็ดูจะไม่ได้ให้ความสำคัญอะไร ยังคงมองว่าแผนกนี้เอาไว้เช็กชื่อพนักงานมาสายอยู่อย่างเดียว ก็จะเข้าสู่สมมติฐานที่สองคือ ‘บริษัทรู้ว่าสำคัญแต่ไม่ได้ให้ความสำคัญ’ อันนี้ผมว่าเป็นกรรมของบริษัทเองแล้วล่ะครับ ฮ่าๆ แปลว่า ณ เวลานี้ต่อให้คุณเก่งแค่ไหน ที่นี่ก็ไม่ได้ให้ความสำคัญ ผมแนะนำว่าไปเปล่งประกายทื่อื่นจะดีกว่าครับ ทุกวันที่เราเสียไป เราก็ทำได้แค่เรื่องซ่อมแฟกซ์ แต่ความสามารถอื่นๆ ของเราไม่ได้พัฒนาขึ้นมาจริงๆ ผมว่าเสียเวลานะครับ ยิ่งถ้าคุณมีไฟอยากทำงานและเชื่อว่า HR เป็นสิ่งสำคัญ ผมว่าไปอยู่องค์กรที่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้จริงๆ ดีกว่า อย่ามัวไปซ่อมแฟกซ์เลย ฮ่าๆ
บางครั้งคนเราก็ต้องสูญเสียอะไรบางอย่างไปก่อนถึงจะเห็นคุณค่าของมัน
‘ทรัพยากรบุคคล’ ก็เป็นเรื่องนั้นครับ
ท้อฟฟี่ แบรดชอว์
*ส่งคำถามดราม่าในที่ทำงานที่คุณสงสัยมาได้ที่อีเมล [email protected] หรืออินบ็อกซ์ไปที่ FB: ท้อฟฟี่ แบรดชอว์
ภาพประกอบ: Nisakorn Rittapai
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์