×

แจ๊คกี้ จักริน ความพลุ่งพล่านของวัยเด็กที่ถูกถ่ายทอดผ่าน ‘เต้ย’ ในละครเลือดข้นคนจาง

12.10.2018
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

3 Mins. Read
  • แจ๊คกี้ คือเด็กหนุ่มฮอร์โมนพลุ่งพล่าน ที่พยายามทดลองทำหลายๆ อย่างด้วยความคึกคะนอง ด้วยความที่ว่าสิ่งเหล่านั้นจะทำให้เขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ได้เร็วที่สุด
  • การเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในโปรเจกต์พัฒนาศิลปิน 9×9 ของค่าย 4NOLOGUE ที่การซ้อม การวางแผนอย่างเป็นระบบ ทำให้เขารู้ว่าการใช้ชีวิตวัยเด็กให้เต็มที่ ให้พร้อมสำหรับการเป็นผู้ใหญ่เมื่อเวลาที่เหมาะสมมาถึง ก็เป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้กัน

‘เต้ย’ เด็กหนุ่มอารมณ์ร้อน ฮอร์โมนพลุ่งพล่าน ที่เปิดตัวในละครเรื่อง เลือดข้นคนจาง ด้วยการ ‘เขย่า’ จนทำให้หลายคนจำภาพของ แจ๊คกี้-จักริน กังวานเกียรติชัย ที่มารับบทนี้ได้อย่างขึ้นใจ

 

ซึ่งถ้าตัดฉากนั้นออกไป แจ๊คกี้บอกว่าตัวตนของเขานั้นถูกใส่ลงไปในตัวละครเต้ยแทบทุกอย่าง ทั้งนิสัยอารมณ์ร้อน ตรงไปตรงมา และความพยายามเป็นผู้ใหญ่ให้เร็วที่สุด ทั้งๆ ที่ตัวยังเป็นแค่ ‘เด็ก’ ธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น

 

จนกระทั่งการได้เข้ามาเป็นศิลปินจากโปรเจกต์พัฒนาศิลปิน 9×9 ของค่าย 4NOLOGUE การซ้อมหนักบนพื้นฐาน ‘ความจริงจัง’ ได้ทำเขารู้ว่า การเป็นผู้ใหญ่ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด และการใช้ชีวิตวัยเด็ก เรียนรู้ทุกอย่างให้เต็มที่ไม่รีบร้อน ก็สำคัญไม่แพ้กัน  

 

 

ในมุมมองของแจ๊คกี้ ตัวละคร ‘เต้ย’ เป็นคนแบบไหน

เต้ยเป็นน้องคนสุดท้ายของบ้านภัสสร (รับบทโดย แหม่ม-คัทลียา แมคอินทอช) นิสัยหลักๆ คือจะเป็นคนกวนๆ ตรงไปตรงมา เป็นเด็กชั้น ม.6 ระดับกลางๆ ไม่ตั้งใจเรียนแต่ไม่ถึงขนาดเกเร แล้วก็อยู่ในช่วงที่ฮอร์โมนของวัยรุ่นกำลังพลุ่งพล่าน อยากรู้อยากลองสิ่งใหม่ๆ ที่ตัวเองไม่เคยอยู่ตลอดเวลา เพราะคิดว่านั่นจะทำให้เขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ได้

 

ในบรรดานักแสดงใหม่ของเลือดข้นคนจาง ทีมเขียนบทจะต้องมารีเสิร์ชนิสัยส่วนตัวเพื่อไปพัฒนาตัวละครให้ใกล้เคียงกับตัวจริง มีเรื่องไหนของแจ๊คกี้ที่ถูกเอาไปใส่ในตัวเต้ยมากที่สุด

แทบทั้งหมดเลยครับ ตั้งแต่ความกวนๆ ตรงๆ เห่อชีวิตวัยรุ่น อยากโตเป็นผู้ใหญ่ ซึ่งผมรู้สึกแบบนั้นมาตั้งแต่ ม.1 ที่พยายามทำอะไรหลายอย่างตั้งแต่โดดเรียน หนีเที่ยว แอบไปนอนบ้านเพื่อน มีเรื่องทะเลาะวิวาท ฯลฯ แต่ยังพอมีข้อดีอยู่บ้างที่นิสัยแบบนี้ทำให้ผมชอบคุยกับผู้ใหญ่และรับฟังความคิดเหล่านั้นมาปรับใช้ ทำให้ผมรู้สึกว่าค่อนข้างมีชุดความคิดอีกแบบหนึ่งที่ไม่ค่อยเหมือนเพื่อนอายุ 17 ปี รุ่นเดียวกันเท่าไร

 

ได้เรียนรู้อะไรผ่านช่วง ‘เห่อ’ ความเป็นวัยรุ่นและพยายามโตเป็นผู้ใหญ่ในตอนนั้นบ้าง

หลายอย่างนะครับ มันจะมีช่วงหนึ่งที่พอเริ่มทำตัวเกเรแล้วคิดว่าเราเริ่มโตเป็นผู้ใหญ่ แต่พอผ่านไปถึงจุดหนึ่งที่ได้รู้จักผู้ใหญ่มากขึ้น ทำให้รู้ว่าไอ้ความคิดเป็นผู้ใหญ่นั่นเราคิดไปเองหมดเลย พอเข้าช่วง ม.4 ที่กลับมามองตัวเอง แล้วรู้สึกว่าที่เราทำมาทั้งหมดมันแทบไม่มีผลดีอะไรกับเราเลย เราเคยทำแบบนั้น เพราะอยากมีสังคม อยากมีคอนเน็กชัน อยากได้รับการยอมรับ ซึ่งมันก็ได้มาบ้างนะครับ แต่ถ้าเทียบกับเงินทอง เวลา ความรู้สึกที่เสียไป มันไม่มีอะไรคุ้มค่าเลย จนเราเบื่อ และรู้สึกว่าควรจะปรับมาใช้ชีวิตอีกแบบได้แล้ว

 

เป็นช่วงเวลาใกล้ๆ กับที่ผมได้เข้ามาโปรเจกต์ 9×9 พอดี ที่ทำให้ผมได้รู้จักวิธีการทำงาน ที่เป็นการทำงานแบบจริงๆ ต้องมีระเบียบวินัย มีความตรงต่อเวลา มีการวางแผนทุกอย่างแบบละเอียดรอบคอบ ก่อนหน้านี้ผมเคยตั้งวงดนตรีกับพี่ไอซ์ (พาริส อินทรโกมาลย์สุต นักแสดงที่รับบทเป็น ฉี ใน เลือดข้นคนจาง) ที่อยากเล่นอะไรก็เล่น อยากร้องอะไรก็ร้อง แล้วก็คิดว่านั่นคือการทำตามความฝันที่จริงจังแล้วนะ แต่ที่จริงแล้วไม่ใช่เลย เราเป็นแค่เด็กคนหนึ่งที่แทบไม่รู้เลยว่ากว่าจะได้เป็นศิลปินจริงๆ เขาต้องผ่านอะไรกันมาบ้าง

 

 

ทำไมถึงตัดสินใจเข้ามาเป็นศิลปินในโปรเจกต์ 9×9

พี่ไอซ์แนะนำผมกับพี่วุธ (อนุวัติ วิเชียรณรัตน์ ผู้ก่อตั้งบริษัท 4NOLOGUE) แล้วเขาเรียกผมมาออดิชัน ยอมรับว่ามาแบบงงๆ มากเลยนะครับ เขาให้เตรียมเพลงไปร้องอยู่ประมาณ 2 วัน ก็เตรียมตัวให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้

 

พอไปถึงวันจริง แค่รอบแรกก็รู้เลยว่านี่คือโปรเจกต์ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เราเคยผ่านมา แค่รอบออดิชัน แต่เขาเซตสตูดิโอ แสง สี แสง ทุกอย่างพร้อมมาก มีกรรมการอีกหลายสิบคน แล้วคู่แข่งในวันนั้นก็มีแต่คนที่มีชื่อเสียง มีพื้นฐานมาก่อน แต่เรื่องการแสดงกับเต้นนี่แทบจะเป็นศูนย์เลย พอผ่านเข้ามาได้จริงๆ ก็รู้สึกว่าโชคดีมาก และเราต้องตั้งใจทำให้ดีที่สุด จะมาทำเล่นๆ แบบเมื่อก่อนไม่ได้แล้ว

 

แจ๊คกี้เลือกเพลงอะไรไปร้องในรอบออดิชัน

เพลง เสมอ ของพี่ปู-พงษ์สิทธิ์ คัมภีร์ ครับ เห็นแบบนี้ผมเป็นสายเพื่อชีวิตนะครับ (หัวเราะ) แต่เพิ่งมาสนใจในช่วงหลัง เริ่มจากฟังเพลงของวงคาราบาว ที่เขามารีอะเรนจ์ใหม่ใน Carabao The Series แล้วรู้สึกว่าน่าสนใจมาก ทุกเพลงมีเสน่ห์ที่ลึกซึ้งซ่อนอยู่ในตัวโน้ตและเนื้อเพลง แล้วก็เริ่มไปหาฟังแบบออริจินัลมากขึ้น  

 

 

พอเข้ามาอยู่ในโปรเจกต์ 9×9 จริงๆ แล้วรู้สึกอย่างไรบ้าง หลายคนบอกว่าต้องเข้าโรงพยาบาลเพราะซ้อมหนัก แจ๊คกี้มีเหตุการณ์แบบนั้นด้วยไหม

ไม่รอดครับ มีแทบทุกคนจริงๆ (หัวเราะ) ของผมคออักเสบ เพราะต้องใช้เวลาในการซ้อมร้องเพลงเยอะมาก โดยเฉพาะช่วงหนึ่งที่ต้องอัดรายการ Into The Light ติดกัน 2 วัน ที่ต้องใช้เสียงหนัก พอจบก็ต้องมาซ้อมสำหรับอีพีต่อไป ทำให้ใช้เสียงหนักติดต่อกันแบบไม่หยุดจนต้องเข้าโรงพยาบาลเหมือนกัน

 

พอเข้าสู่ระบบการทำงานแบบมืออาชีพ จากเด็กคนหนึ่งที่อยากโตเป็นผู้ใหญ่เร็วๆ คิดว่าตอนนี้แจ๊คกี้เข้าใกล้คำนั้นไปมากขนาดไหนแล้ว

ไม่เลยครับ ยิ่งทำยิ่งรู้สึกว่าตัวเองยังเป็นเด็กที่ต้องพัฒนาตัวเองอีกเยอะมาก ตอนนี้ไม่กล้าเรียกตัวเองว่าผู้ใหญ่เลย อย่างที่บอกว่า ผมอายุแค่ 17 ยังมีอีกหลายอย่างที่ผมต้องเจออีกเยอะ โปรเจกต์นี้เปลี่ยนมุมมองผมไปเยอะเหมือนกันนะครับ จากที่คิดว่า เราไม่อยากเป็นเด็ก ต้องรีบโตเป็นผู้ใหญ่ให้เร็วที่สุด กลายเป็นรู้สึกว่าเราโชคดีแค่ไหนแล้ว ที่ได้ทำทุกอย่างในช่วงที่ยังเป็นเด็ก ที่ยังมีโอกาสได้เรียนรู้ ได้ทดลองอะไรใหม่ๆ อย่างเป็นระบบ ตอนนี้ก็ไม่ได้คิดว่าตัวเองจะต้องรีบเป็นผู้ใหญ่ แต่อยากใช้เวลาตรงนี้ไปนานๆ เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ทุกอย่าง และใช้ช่วงเวลาแห่งความเป็นเด็กให้เต็มที่ที่สุดมากกว่า

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

FYI
  • ละครเรื่อง เลือดข้นคนจาง ออกอากาศทุกวันศุกร์ เวลา 20.45 น. และวันเสาร์ เวลา 20.10 น. ทางช่อง one31
  • Into The Light คือรายการพิเศษ ที่จะทำให้ทุกคนได้เห็นความสามารถ ทั้งร้อง เต้น และแสดง รวมทั้งการพูดคุยแบบเจาะลึกกับสมาชิกโปรเจกต์ 9×9 ทั้ง 9 คน สามารถรับชมได้ทาง LINE TV
  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X