สำหรับคนที่คลั่งไคล้การเก็บสะสมทั้งโปสเตอร์หนัง ม้วนเทป ซีดี หรือดีวีดีภาพยนตร์ดังๆ คงจะจดจำหน้าหนังแต่ละเรื่องได้อย่างแม่นยำ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ชื่อของหนังเรื่องนั้นๆ ที่สร้างเอกลักษณ์ผ่านการออกแบบตัวอักษรหรือฟอนต์ที่ใช้ประจำหนังเรื่องต่างๆ และเป็นจุดเด่นสำคัญที่คอหนังเห็นแล้วจะต้องร้องอ๋อว่ามาจากหนังเรื่องอะไร
ถ้าคุณมั่นใจว่าตัวเองเป็นแฟนหนังตัวยงและจดจำฟอนต์จากหนังคลาสสิกเหล่านี้ได้ มาดูกันว่าคุณจะตอบถูกสักกี่ข้อ! อย่าลืมแท็กเพื่อนเนิร์ดหนังมาเล่นด้วยกันล่ะ
[twenty20 img1=”116722″ img2=”116732″ offset=”1″]
ภาพยนตร์ขวัญใจทุกเพศทุกวัยเรื่องนี้สร้างจากนวนิยายขายดี ผลงานของ เจ. เค. โรว์ลิง ซึ่งมีมาแล้วถึง 8 ภาค (จากหนังสือทั้งหมด 7 เล่ม เพราะในภาพยนตร์ตอนสุดท้ายแบ่งออกเป็น 2 พาร์ต) เล่าเรื่องราวแฟนตาซีของโลกเวทมนตร์ที่มีตัวแสดงนำหลักของเรื่องคือ แฮร์รี่ พอตเตอร์ รับบทโดย แดเนียล แรดคลิฟฟ์ พร้อมเพื่อนของเขา เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ รับบทโดย เอ็มมา วัตสัน และรอน วีสลีย์ ที่รับบทโดย รูเพิร์ต กรินต์ ซึ่งได้กลายเป็นภาพยนตร์แจ้งเกิดของนักแสดงทั้งสามไปโดยปริยาย เรื่องราวส่วนใหญ่เกิดขึ้นภายในโรงเรียนฮอกวอตส์ที่สอนเหล่าพ่อมดแม่มดให้ใช้เวทมนตร์เพื่อต่อสู้กับพลังอำนาจร้าย
เฉลย: Harry Potter ฟอนต์ Hocus Pocus
[twenty20 img1=”116734″ img2=”116723″ offset=”1″]
ภาพยนตร์ไซไฟจากปี 1985 สุดคลาสสิกที่ไม่มีใครไม่รู้จัก กำกับโดย โรเบิร์ต เซเม็กคิส เขียนบทโดย เซเม็กคิส และบ็อบ เกล ส่วนพระเอกของเรื่องอย่าง ไมเคิล เจ. ฟ็อกซ์ กลายเป็นนักแสดงผู้โด่งดังในบท มาร์ตี้ แม็กฟลาย ที่ย้อนเวลาไปในปี 1955 และรถยนต์ไทม์แมชชีนเดอโลรีน ได้กลายเป็นเอกลักษณ์คู่กับภาพยนตร์เรื่องนี้ไปโดยปริยาย ภาพยนตร์เรื่องนี้ทำเงินในอเมริกาได้สูงถึง 210 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีภาคต่อถึงสองครั้งในปี 1989 และ 1990 แต่ก่อนที่เราจะได้ชมภาพยนตร์ระดับตำนานเรื่องนี้ เชื่อหรือไม่ว่าบทของ Back to the Future ถูกปฏิเสธไปถึง 44 ครั้งกว่าจะได้สร้างจริง
เฉลย: Back to the Future ฟอนต์ Back to the Future 2002
[twenty20 img1=”116717″ img2=”116727″ offset=”1″]
ภาพยนตร์ผลงานปี 1971 ของปรมาจารย์สแตนลีย์ คูบริก ที่เปิดโลกการดูหนังของหลายๆ คน นี่คือตัวแทนของหนังไซไฟเซอร์เรียลสุดโหดที่เต็มไปด้วยสัญลักษณ์ที่ไม่มีใครลืมลง ทั้งขนตาล่าง, หมวกโบลเลอร์สีดำ, เพลง I’m Singing in the Rain และแน่นอน ฟอนต์ดีไซน์แปลกตาที่ปรากฏอยู่บนโปสเตอร์หนัง วิดีโอเทป ไปจนถึงเสื้อยืด
ภาพยนตร์เรื่องนี้เล่าเรื่องราวของกลุ่มอันธพาลในโลกอนาคต และผู้นำแก๊งที่โดนคุมขังเพื่อเข้าร่วมการทดลองดัดสันดานด้วยวิธีสุดโหดจนเกิดเรื่องราวที่คาดไม่ถึง นำแสดงโดย มัลคอล์ม แม็กโดเวลล์ ในบท อเล็กซ์ ซึ่งในฉากสำคัญ มัลคอล์มต้องโดนฉีดยาชาที่ตาเพื่อให้ถ่ายทำฉากนั้นได้แบบไม่มีปัญหา แต่ก็มีรายงานว่ากระจกตาของเขาก็โดนเหล็กข่วนซ้ำๆ ขณะถ่ายทำด้วย
เฉลย: Clockwork Orange ฟอนต์ Time Piece
[twenty20 img1=”116778″ img2=”116730″ offset=”1″]
“The first rule of Fight Club is you do not talk about Fight Club” ประโยคเด็ดจากมาสเตอร์พีซของ เดวิด ฟินเชอร์ นำแสดงโดย แบรด พิตต์ และเอ็ดเวิร์ด นอร์ตัน สร้างจากหนังสือที่เขียนโดย ชัค พาลาห์นิอุก เรื่องราวของพนักงานออฟฟิศหนุ่มและคนทำสบู่ที่ฟอร์มทีมตั้ง Fight Club ขึ้นมา ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างความปวดหัวให้กับทีมการตลาดในการประชาสัมพันธ์ เพราะไม่รู้ว่าจะขายภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวอย่างไรให้ไม่สปอยล์และยังครอบคลุมเนื้อหาของหนัง
สุดท้าย Fight Club จึงถูกนำเสนอในฐานะหนังชกต่อยที่มีแบรด พิตต์ เป็นตัวนำของเรื่องแทน และตัดการเล่าเรื่องแบบเสียดสีออกไปอย่างสิ้นเชิง แม้ในช่วงแรก Fight Club จะขายฐานคนดูผิดกลุ่ม แต่หนังเรื่องนี้ก็กลายเป็นตำนานและติดอันดับ 100 ภาพยนตร์ที่ดีที่สุดจากหลายสื่อจนถึงปัจจุบัน
เฉลย: Fight Club ฟอนต์ Fight This
[twenty20 img1=”116733″ img2=”116724″ offset=”1″]
ภาพยนตร์ไซไฟจากปี 1982 เล่าเรื่องราวบนโลกดิสโทเปียในอนาคต โดยปรับจากหนังสือของ ฟิลิป เค. ดิก ที่ชื่อ Do Androids Dream of Electric Sheep? ภาพยนตร์เรื่องนี้มีทั้งเวอร์ชันต้นฉบับและภาคต่อในปี 2017 ทั้งสองภาคนำแสดงโดย แฮร์ริสัน ฟอร์ด และยังคงเอกลักษณ์ความเป็นหนังไซไฟแบบไม่เน้นสายบู๊ แต่เล่าเรื่องราวที่ลึกซึ้งกว่านั้น และอาร์ตไดเรกชันที่กินขาดหนังไซไฟเรื่องอื่นๆ
Blade Runner ในปี 1982 กำกับโดย ริดลีย์ สก็อตต์ และ Blade Runner 2049 ที่ได้นักแสดงร่วมชื่อดังอย่าง ไรอัน กอสลิง และจาเร็ด เลโต มาร่วมทีม กำกับโดย เดนิส วิลล์เนิร์ฟ ซึ่งก่อนหน้านี้เขาเคยต่อต้านการนำ Blade Runner (1982) มาทำภาคต่อ เพราะเขาชื่นชอบภาคต้นฉบับมากจนไม่อยากให้มีการรีเมก แต่ภายหลังเขาได้อ่านบทภาพยนตร์และพูดคุยกับแฮร์ริสัน ฟอร์ด จึงตัดสินใจตอบตกลงในที่สุด
เฉลย: Blade Runner ฟอนต์ Blade Runner
[twenty20 img1=”116718″ img2=”116728″ offset=”1″]
หนังมาเฟียสุดเท่ในปี 1972 เกี่ยวกับครอบครัวอาชญากร ผลงานของผู้กำกับ ฟรานซิส ฟอร์ด คอปโปลา ซึ่งเป็นภาพยนตร์สุดคลาสสิกตลอดกาลที่มียอดเรตติ้งใน IMDB สูงเป็นอันดับสอง (9.2/10) นำแสดงโดย มาร์ลอน แบรนโด, อัล ปาชิโน, เจมส์ แคน และริชาร์ด เอส. แคสเทลาโน
ภาพยนตร์เรื่องนี้มีภาคต่อมาอีก 2 ภาค แต่ก็ยังเป็นที่พูดถึงไม่เท่าภาคแรกที่ทำเงินไปได้ถึง 133 ล้านเหรียญสหรัฐในบ็อกซ์ออฟฟิศ และยังเป็นภาพยนตร์ที่ สแตนลีย์ คูบริก ถึงกับบอกว่ามีการคัดเลือกนักแสดงที่ดีที่สุด และอาจจะเป็นภาพยนตร์ที่ดีที่สุดในโลกเรื่องหนึ่งเลยด้วย นอกจากภาพยนตร์เรื่องนี้จะกลายเป็นภาพยนตร์ที่ทำให้คนทั้งโลกรู้จักฟรานซิส ฟอร์ด คอปโปลา อีกคนที่อยู่เบื้องหลังเนื้อเรื่องและบทภาพยนตร์ก็คือ มาริโอ พูโซ ซึ่งเป็นเจ้าของนวนิยายก่อนจะนำมาเป็นภาพยนตร์ด้วย ซึ่งฟรานซิสก็รับทราบดี และเขาต้องการที่จะมอบเครดิตให้กับมาริโอถึงขั้นที่เคยจะตั้งชื่อหนังว่า Mario Puzo’s The Godfather
เฉลย: The Godfather ฟอนต์ Corleone
[twenty20 img1=”116721″ img2=”116731″ offset=”1″]
ย้อนกลับไปในปี 1993 ปีที่ สตีเวน สปีลเบิร์ก สร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ขึ้นมาเป็นภาคแรก และกลายเป็นปรากฏการณ์ที่ทั้งโลกได้รู้จักหนังไดโนเสาร์เรื่องนี้ (จนถึงขั้นที่มียอดนักศึกษาบรรพชีวินวิทยาเพิ่มสูงขึ้นหลังจากภาพยนตร์เรื่องนี้เลย) ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างมาแล้วทั้งหมด 5 ภาคตั้งแต่ปี 1993 จนถึงปี 2018 โดยในภาคแรกเขียนขึ้นจากนวนิยายของ ไมเคิล ไครช์ตัน และเขาได้รับการว่าจ้างให้เขียนนวนิยายภาคต่อเพื่อที่ค่ายหนังจะได้นำไปใช้เป็นภาพยนตร์ แต่เมื่อสตีเวนมากำกับ เขาก็เลือกที่จะใช้เพียงบางส่วนของงานเขียนที่ไมเคิลสร้างสรรค์เท่านั้น และหยิบเรื่องราวส่วนใหญ่จากภาพยนตร์เก่าปี 1925 เรื่อง The Lost World มาใช้แทน อย่างไรก็ตาม ภาพยนตร์แฟรนไชส์เรื่องนี้ได้ถูกเปลี่ยนผู้กำกับ คนเขียนบท และตัวแสดง อย่างล่าสุดก็ได้นักแสดงดังอย่าง คริส แพรตต์ มารับช่วงต่อให้ใน Jurassic World (2015) และ Jurassic World: Fallen Kingdom (2018)
เฉลย: Jurassic Park ฟอนต์ Tribeca
[twenty20 img1=”116715″ img2=”116725″ offset=”1″]
ไม่พูดถึงภาพยนตร์มหากาพย์เรื่องนี้คงเป็นไปไม่ได้ เพราะตัวหนังเป็นที่จดจำตลอดกาลไม่แพ้ฟอนต์ที่เลือกใช้ โดยภาพยนตร์มหากาพย์เรื่องนี้มีเครือข่ายมาแล้ว 11 เรื่อง และกำลังจะมีเรื่องที่ 12 ในปี 2019 นี้ด้วย โดยแต่ละภาคจะเล่าสลับช่วงเวลาเกี่ยวกับการผจญภัยของเหล่าตัวละครเมื่อนานมาแล้วใน “Galaxy far, far away”
ภาพยนตร์เรื่องนี้มีจุดเริ่มต้นจากภาพยนตร์ปี 1977 ผลงานการเขียนบทและกำกับของ จอร์จ ลูคัส โดยมีนักแสดงนำหลักๆ คือ มาร์ก ฮามิลล์ (ลุค สกายวอล์กเกอร์), แฮร์ริสัน ฟอร์ด (ฮาน โซโล) และแคร์รี ฟิชเชอร์ (เจ้าหญิงเลอา) นอกจากนี้ยังมีคาแรกเตอร์ดังๆ ที่ทุกคนต้องรู้จักอย่างชิวแบคคา, โยดา, อาร์ทูดีทู, โอบีวัน เคโนบี และดาร์ธ เวเดอร์ ด้วยทุนสร้างเพียง 11 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่กลับทำเงินในบ็อกซ์ออฟฟิศไปได้ถึง 775 ล้านเหรียญสหรัฐ และกวาดรางวัลออสการ์ไปถึง 7 รางวัล นอกจากรางวัลการันตีและตัวละครระดับตำนานมากมายแล้วยังมีประโยคเด็ดจากหนังอย่าง “I am your father.” และ “May the force be with you.” อีกด้วย
เฉลย: Star Wars ฟอนต์ Star Jedi
[twenty20 img1=”116719″ img2=”116729″ offset=”1″]
อีกหนึ่งภาพยนตร์แฟรนไชส์ชื่อดังของ จอร์จ ลูคัส ที่มีมาแล้วถึง 4 ตอน ตั้งแต่ตอนแรกในปี 1981 อย่าง Raiders of the Lost Ark (1981), Indiana Jones and the Temple of Doom (1984), Indiana Jones and the Last Crusade (1989) และ Indiana Jones and the Kingdom of the Crystal Skull (2008) ภาพยนตร์เรื่องนี้ทุกภาคกำกับโดย สตีเวน สปีลเบิร์ก เป็นภาพยนตร์แอ็กชันผจญภัยที่มีตัวเอกเป็น ดร.เฮนรี วอลตัน “อินเดียนา” โจนส์ จูเนียร์ ซึ่งรับบทโดย แฮร์ริสัน ฟอร์ด
ภาพยนตร์เรื่องนี้ประสบความสำเร็จโด่งดังจนกลายเป็นทั้งทีวีซีรีส์ เกมอาร์เคด ของเล่น ไปจนถึงสวนสนุก (ธีมพาร์ก) ภายใต้เจ้าของใหญ่อย่างดิสนีย์ ซึ่งตอนนี้ Indiana Jones 5 ที่มีกำหนดจะเข้าฉายในช่วงปี 2021 ซึ่งดีเลย์จากกำหนดเดิมที่จะเข้าฉายในปี 2020 โดยจะได้แฮร์ริสัน ฟอร์ด มารับบทนำ และได้สตีเวน สปีลเบิร์ก มากำกับเช่นเคย เพียงแต่ในครั้งนี้การเขียนบทจะต่างออกไป เพราะในทุกภาคที่ผ่านมา จอร์จ ลูคัส จะเสนอไอเดียสำหรับภาคนั้นๆ และส่งต่อให้สตีเวนมาจัดการเขียนบทต่อ แต่มีข่าวออกมาว่า Indiana Jones 5 จะไม่มีจอร์จ ลูคัส เข้ามายุ่งกับเนื้อหา แต่จะนั่งแท่น Executive Producer เพียงเท่านั้น
เฉลย: Indiana Jones ฟอนต์ Adventure
[twenty20 img1=”116716″ img2=”116726″ offset=”1″]
ภาพยนตร์ซีรีส์แนวแอ็กชัน-คอเมดี้เกี่ยวกับสายลับชาวอเมริกันซึ่งโดดเด่นจากการหยิบเอาตัวละครดังๆ มาล้อเลียนอย่าง เจมส์ บอนด์ และการใช้ธีมแนวยุค 60s แบบ Swinging London โดยผู้ที่อยู่ทั้งเบื้องหลังและเบื้องหน้าคือ ไมค์ ไมเออร์ส ที่รับบทหลักเป็น ออสติน พาวเวอร์ส และตัวร้าย ดร.อีวิล แถมยังรับหน้าที่เขียนบทเองด้วย
ภาพยนตร์เรื่องนี้มีมาแล้ว 3 ภาค ตั้งแต่ภาคแรกในปี 1997 อย่าง Austin Powers: International Man of Mystery ตามด้วย Austin Powers: The Spy Who Shagged Me (1999) และ Austin Powers in Goldmember (2002) และมีข่าวว่ากำลังจะสร้างภาค 4 โดยไมค์เป็นคนออกมาให้สัมภาษณ์ว่าสนใจจะทำภาคต่อไป และอาจเน้นไปที่บทของดร.อีวิลอีกด้วย
เฉลย: Austin Powers ฟอนต์ Action Is
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์