เมียนมาเตรียมจัดการเลือกตั้งครั้งแรก นับตั้งแต่การรัฐประหาร ปี 2021 โดยแบ่งเป็นทั้งหมด 3 เฟส เฟสแรกจะจัดขึ้นในวันที่ 28 ธันวาคมนี้ โดยรัฐบาลทหารมีจุดประสงค์หลักเพื่อ สร้างความชอบธรรมในการยึดครองอำนาจและแก้ไขภาพลักษณ์ที่เป็นลบในสายตาชาวโลก ขณะที่โฆษกของรัฐบาลทหารยืนยันว่าการเลือกตั้งนี้ทำเพื่อประชาชนเมียนมาและไม่สนใจว่าประชาคมโลกจะยอมรับหรือไม่
ทำไมเลือกตั้งเมียนมาครั้งนี้ ถึงถูกมองว่า เป็นเพียง ‘การฟอกขาว’ อำนาจรัฐบาลทหาร
นักวิเคราะห์และชาติตะวันตกมองว่า การเลือกตั้งนี้ เป็นเพียง ‘ละครตบตา’ (Sham Election) และปราศจากความยุติธรรม เนื่องจาก
1. ขาดคู่แข่งที่แท้จริง: อองซานซูจี ผู้นำที่ได้รับความนิยมยังคงถูกคุมขัง และพรรค NLD ที่ชนะการเลือกตั้งถล่มทลายในปี 2020 ถูกยุบพรรค เช่นเดียวกับพรรคของกลุ่มชาติพันธุ์จำนวนมาก, ข้อมูลระบุว่า 57% ของพรรคการเมืองที่เคยลงแข่งในปี 2020 (ซึ่งครองที่นั่งรวมกันกว่า 90%) ไม่มีสถานะอยู่อีกต่อไปแล้ว
2. ตัวเลือก(ที่อาจไม่ได้เลือก): แม้จะมีพรรคลงสมัคร 57 พรรค แต่ส่วนใหญ่มีความเชื่อมโยงหรือขึ้นตรงกับกองทัพ ภาพที่เห็นเป็นเพียงการสร้าง ‘ภาพลวงตาของทางเลือก’ โดยพรรค USDP ที่หนุนโดยทหารลงสมัครโดยไม่มีคู่แข่งในหลายเขตเลือกตั้ง
3. การข่มขู่และบีบบังคับ: มีการออกกฎหมายลงโทษผู้ที่วิจารณ์การเลือกตั้งอย่างรุนแรง (จำคุกขั้นต่ำ 3 ปี จนถึงประหารชีวิต) มีการจับกุมประชาชนกว่า 200 คนตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และมีการบังคับขู่เข็ญให้ประชาชนไปลงคะแนนเสียง
ความขัดแย้งในประเทศเมียนมาทวีความรุนแรงขึ้น การเลือกตั้งจะไม่เกิดขึ้นในพื้นที่ประมาณ 1 ใน 3 ของประเทศ เนื่องจากเป็นพื้นที่สู้รบหรืออยู่ภายใต้การควบคุมของฝ่ายต่อต้าน โดยกองทัพได้เพิ่มการโจมตีทางอากาศและการใช้โดรนขึ้นถึง 30% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า นอกจากนี้ยังมีการลักพาตัวเพื่อเกณฑ์ทหาร เพิ่มขึ้น 26% เพื่อเติมเต็มกำลังพลที่ลดน้อยลง
ในขณะที่ UN และชาติตะวันตกประณามการเลือกตั้งนี้ แต่จีนกลับให้การสนับสนุน โดยมองว่าเป็นหนทางสู่เสถียรภาพ จีนมีส่วนสำคัญในการช่วยให้รัฐบาลทหารไม่ล่มสลาย โดยการตัดเส้นทางเสบียงข้ามพรมแดนไปยังกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ ทำให้กองทัพเมียนมาสามารถยึดพื้นที่คืนได้บางส่วน
ส่วนแนวโน้มในอนาคต นักวิเคราะห์มองว่าหลังการเลือกตั้ง รัฐบาลทหารจะไม่เปลี่ยนท่าทีมาใช้ไม้อ่อน แต่จะยังคงเดินหน้าปราบปรามและพยายามยึดคืนดินแดนที่เสียไปอย่างเข้มข้นต่อไป การเจรจาหยุดยิงใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นจะเป็นเพียงยุทธวิธีทางการทหาร เพื่อโยกย้ายกำลังพลไปโจมตีจุดอื่นเท่านั้น
บทความที่เกี่ยวข้อง:
- ‘เกมสืบทอดอำนาจ กติกาเอื้อทหาร’ เรารู้อะไรในเลือกตั้งเมียนมา ที่นานาชาติกังขา
- เปิดปฏิทินเลือกตั้งเมียนมา 3 เฟส 2025-2026 กลางสงครามกลางเมือง
แฟ้มภาพ: Reuters
อ้างอิง:


