วันนี้ (26 ธันวาคม) องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) หรือ ACT ออกแถลงการณ์สรุปสถานการณ์ทุจริตประจำปี โดยนิยามปี 2568 ว่าเป็นปีแห่งการ โกงเป็นเครือข่าย พร้อมเปิดเผย 10 ข่าวคอร์รัปชันแห่งปี”สะท้อนภาพความล้มเหลวของระบบตรวจสอบและความเสื่อมถอยของหลักนิติรัฐ
มานะ นิมิตรมงคล ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ตลอดปี 2568 ที่ผ่านมา ประเทศไทยเผชิญวิกฤตศรัทธาอย่างรุนแรงจากการกระทำของนักการเมืองและชนชั้นนำที่ขาดจริยธรรม โดยมีการร่วมมือกันเป็นขบวนการหรือ เครือข่าย
ครอบคลุมทั้งข้าราชการ ตำรวจ และกลุ่มทุนสีเทา ในขณะที่กลไกการตรวจสอบอย่าง ส.ว. และองค์กรอิสระ กลับกลายเป็นภาระและอุปสรรคในการปราบปรามการทุจริต เสี่ยงต่อการล่มสลายของหลักสิทธิมนุษยชนและความยุติธรรม
สำหรับ 10 ข่าวคอร์รัปชันแห่งปี 2568 ที่ทางองค์กรฯ ได้รวบรวมเพื่อสะท้อนความรุนแรงของปัญหา มีรายละเอียดดังนี้:
1. โศกนาฏกรรมอาคาร สตง. ถล่ม: เหตุการณ์สะเทือนขวัญที่มีผู้เสียชีวิตถึง 86 ราย และสร้างความเสียหายกว่า 2 พันล้านบาท ท่ามกลางข้อกังขาเมื่อรายงานสอบสวนถูกปกปิด และผู้บงการยังลอยนวล สะท้อนความล้มเหลวของมาตรฐานความปลอดภัยและการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใส (ITA)
2. วิกฤตศรัทธาวงการสงฆ์: กรณีข่าวฉาวของพระชั้นผู้ใหญ่และกรณีสีกากอล์ฟ ที่สร้างความเสียหายกว่า 385 ล้านบาท รวมถึงกรณีพระอาจารย์ดังและเครือข่ายอีกกว่า 181 ราย ที่ถูกตำรวจสอบสวนกลางดำเนินคดี
3. ขบวนการทุนเทาข้ามชาติ: การยึดทรัพย์ 3 เครือข่ายสแกมเมอร์ยักษ์ใหญ่ มูลค่ากว่าหมื่นล้านบาท เชื่อมโยงถึงบุคคลระดับสูงในรัฐบาล ซึ่งมานะระบุว่าเป็นกรณีที่ส่งผลกระทบเชิงโครงสร้างรุนแรงที่สุด เพราะเป็นการผสานผลประโยชน์ระหว่างส่วยสินบนและอาชญากรรมข้ามชาติ
4. ทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก: การเปิดโปงขบวนการโกงยาที่ทำกันเป็นล่ำเป็นสันนาน 7 ปี เสียหาย 80 ล้านบาท รวมถึงข่าวแพทย์พัวพันยาเสพติดและวัคซีนปลอม ซึ่งบั่นทอนความเชื่อมั่นในระบบสาธารณสุขไทย
5. กรณีทักษิณ และกระบวนการยุติธรรมสองมาตรฐาน: ข้อครหาเรื่องการป่วยทิพย์และอภิสิทธิ์ในเรือนจำ จนนำไปสู่การพิสูจน์ความจริงโดยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนฯ และคำพิพากษาศาลฎีกาฯ ซึ่งทำลายภาพลักษณ์กระบวนการยุติธรรมในสายตาโลก
6. ส่วยเว็บพนันและบิ๊กตำรวจ: กรณี พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล และพวกกว่า 200 นาย ถูกชี้มูลความผิดวินัยร้ายแรง รับส่วยเว็บพนันออนไลน์ ถือเป็นจุดตกต่ำที่สุดของวงการตำรวจไทย
7. งบประมาณฉาว สภาผู้แทนฯ: การพ้นจากตำแหน่งของ พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน อดีตรองประธานสภาฯ จากกรณีจัดสรรงบลงพื้นที่ตนเอง 443 ล้านบาท สะท้อนความไม่เป็นธรรมในการกระจายงบประมาณ
8. ประกันสังคมถลุงเงิน: ข้อครหาการใช้จ่ายเงินกองทุนฯ อย่างไม่โปร่งใส ทั้งการจัดทำปฏิทินแพงเกินจริง การซื้อตึกเก่าราคาแพงกว่าตลาดเท่าตัว และการจ้างทำแอปพลิเคชันมูลค่าสูงลิ่ว
9. แดนสนธยาในเรือนจำ: การเปิดโปงห้องลับ และสิทธิพิเศษสำหรับนักโทษ VVIP แลกกับส่วยสินบน ตอกย้ำความเหลื่อมล้ำที่ฝังรากลึกในระบบราชทัณฑ์
10. ปฏิบัติการ 3 ป. จับสด: แสงสว่างปลายอุโมงค์จากการผนึกกำลังของ ป.ป.ป., ป.ป.ช. และ ป.ป.ท. ในการบุกจับกุมเจ้าหน้าที่รัฐที่รีดไถสินบนคาหนังคาเขา ซึ่งได้รับเสียงชื่นชมจากประชาชน
นอกจาก 10 ข่าวดังกล่าว มานะ ยังแสดงความกังวลต่อ 3 ประเด็นร้อน ที่ส่อเค้าความไม่ชอบมาพากลในอนาคต ได้แก่ การยกฟ้องคดีสินบนข้ามชาติ (ปาล์มอินโดฯ และ โรลส์รอยซ์), ข้อพิพาทที่ดินเขากระโดงที่สะท้อนการใช้อำนาจรัฐเพื่อพวกพ้อง และความพยายามแก้สัญญาสัมปทานรถไฟความเร็วสูงและดิวตี้ฟรีที่เอื้อเอกชน
ในช่วงท้าย ประธาน ACT ได้ฝากความหวังไว้ที่การเลือกตั้งครั้งสำคัญ 2 สนาม คือ การเลือกตั้ง อบต. ในวันที่ 11 มกราคม และ การเลือกตั้ง สส. ทั่วไป ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 โดยเน้นย้ำให้ประชาชนตระหนักถึงวาทกรรมดูถูกประชาชน เช่น ชาวบ้านชอบกินหญ้าหวาน และขอให้คนไทยใช้ 1 สิทธิ์ ของตนเองอย่างทรงพลัง เลือกคนดีมีความสามารถ และปฏิเสธการซื้อสิทธิ์ขายเสียง เพื่อไม่ให้ทุนสีเทากลับเข้ามาครอบงำประเทศได้อีกต่อไป
อ้างอิง : https://www.facebook.com/share/p/1KRwbUoVRP/?mibextid=wwXIfr


