วานนี้ (11 ธันวาคม) ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ท่ามกลางเหตุสู้รบที่ยังคงดำเนินอยู่ว่า กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ภาค 1 โดย กอ.รมน.จังหวัดสระแก้ว ได้เร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย พร้อมประสานงานด้านมนุษยธรรมอย่างเร่งด่วน หลังได้รับการร้องขอจากคนไทยที่ตกค้างในฝั่งกัมพูชา และแรงงานกัมพูชาที่ตกค้างในฝั่งไทย ซึ่งมีความประสงค์จะเดินทางกลับภูมิลำเนาของตน
ในวันเดียวกัน สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ ได้ทำหนังสือด่วนถึงกระทรวงมหาดไทยกัมพูชา เพื่อขอความร่วมมือในการอำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยให้กับพลเมืองทั้งสองประเทศ โดยระบุใจความสำคัญว่า สถานทูตไทยขอแสดงความชื่นชมและให้เกียรติเรียนให้ทราบว่า ล่าสุดมีพลเมืองไทยที่อาศัยอยู่ในเมืองปอยเปต จังหวัดบันเตียเมียนเจย แสดงเจตจำนงที่จะข้ามพรมแดนกลับสู่ประเทศไทยผ่านด่านชายแดนปอยเปต
หนังสือดังกล่าวยังระบุข้อความขอความอนุเคราะห์ว่า สถานทูตไทยจึงรู้สึกเป็นเกียรติที่จะขอความกรุณาจากกระทรวงมหาดไทยในการช่วยประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และช่วยอำนวยความสะดวกในการข้ามพรมแดนของพลเมืองไทย เพื่อที่จะให้พวกเขาได้กลับสู่ประเทศไทยด้วยความปลอดภัย สถานทูตไทยขอถือโอกาสนี้ในการย้ำเตือนกระทรวงมหาดไทยกัมพูชาด้วยความนับถืออย่างสูง สำหรับการช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรมของประเทศไทย
รายงานข่าวแจ้งข้อมูลล่าสุดถึงผลการปฏิบัติงานด้านมนุษยธรรมว่า เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม กอ.รมน.จังหวัดสระแก้ว ได้ประสานงานส่งชาวกัมพูชากลับประเทศแล้วจำนวน 7,118 คน ในขณะที่ปัจจุบันยังมีพลเมืองไทยที่รอการช่วยเหลือเพื่อเดินทางกลับจากฝั่งกัมพูชาอยู่อีกประมาณ 7,000 – 8,000 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเร่งดำเนินการ


