วันนี้ (28 พฤศจิกายน) ธนาคารออมสินและสถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์ (PIER) ลงนามความร่วมมือโครงการ ‘ศึกษาครัวเรือนฐานรากเพื่อสร้างการเข้าถึงแหล่งเงินในระบบ’ โดยมี วิทัย รัตนากร ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เป็นประธานและสักขีพยาน เพื่อศึกษาความเป็นอยู่ พฤติกรรมการเงิน และข้อจำกัดที่ทำให้ประชาชนกลุ่มฐานรากยังเข้าไม่ถึงสินเชื่อในระบบ
ความร่วมมือครั้งนี้เป็นการต่อยอดฐานข้อมูลจากโครงการ ‘สินเชื่อสร้างเครดิต สร้างโอกาส’ ของออมสิน ที่ปล่อยสินเชื่อให้ผู้ไม่มีประวัติเครดิตแล้วกว่า 200,000 ราย เพื่อให้สามารถกู้ในระบบได้เป็นครั้งแรก ซึ่งมีเป้าหมายขยายการปล่อยสินเชื่อแก่ประชาชนกลุ่มฐานรากให้ได้ 1 ล้านคนใน 3 ปี
โดยผลการศึกษาจะช่วยออกแบบเครื่องมือทางการเงินใหม่ที่ตอบโจทย์พฤติกรรมจริงของลูกหนี้กลุ่มนี้ พร้อมสนับสนุนนโยบาย Your Data และแนวทาง Risk-Based Pricing ของ ธปท. ผ่านการศึกษาใน 4 ประเด็นสำคัญ ดังนี้
1. ปัญหาเศรษฐกิจ-การเงิน และความต้องการของครัวเรือนฐานราก
2. โมเดลผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ช่วยให้ลูกหนี้ชำระคืนได้จริง
3. การใช้ข้อมูลใหม่/ข้อมูลทางเลือก เพื่อหาตัวชี้วัดความเสี่ยงที่แม่นยำ
4. การติดตามผลกระทบของการเข้าถึงสินเชื่อ ต่อรายได้และคุณภาพชีวิตตลอด 1 ปี
ธปท. เดินหน้านโยบายช่วยรายย่อย คุมเสถียรภาพควบคู่แก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง
วิทัยระบุว่า ธปท.อยู่ระหว่าง ‘ปรับบทบาท’ จากการดูแลเสถียรภาพเศรษฐกิจมหภาคเพียงด้านเดียว มาสู่การออกมาตรการเฉพาะจุดเพื่อแก้ปัญหาโครงสร้างระดับครัวเรือนควบคู่กัน
โดยโครงการแรก คือ การโอน NPL ต่ำกว่า 100,000 บาท ไปยังบริษัทบริหารสินทรัพย์สุขุมวิท (SAM) รวม 1.6 ล้านราย ซึ่งประเมินว่าจะช่วยให้ลูกหนี้ราว 500,000 ถึง 800,000 ราย หลุดพ้นจากสถานะหนี้เสีย
ส่วนอีกโครงการที่กำลังดำเนินการร่วมกับกระทรวงการคลังและสมาคมธนาคารไทย คือโครงการลดความเสี่ยงด้านเครดิตเพื่อผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อใหม่ 100,000 ล้านบาท ท่ามกลางปัญหาสินเชื่อเอสเอ็มอีที่ติดลบติดต่อกัน 13 ไตรมาส
ทั้งนี้ วิทัยย้ำว่าในมิติรายย่อย ธนาคารออมสินถือเป็นหน่วยงานสำคัญที่ทำให้ผู้ไม่มีประวัติการเงินกว่า 200,000 ราย สามารถเข้าถึงสินเชื่อในระบบได้เป็นครั้งแรกผ่านโครงการ ‘สินเชื่อสร้างเครดิต สร้างโอกาส’
พร้อมกันนี้ วิทัยย้ำว่างานวิจัยของสถาบันป๋วยฯ จะช่วยระบุพฤติกรรม ความเสี่ยง และเงื่อนไขที่เหมาะสม เพื่อขยายโครงการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่ง ธปท. กำลังอยู่ระหว่างคิดนโยบายเพื่อดึงสถาบันการเงินอื่นเข้ามาร่วมทำสินเชื่อฐานราก หรือทำโครงการลักษณะเดียวกับออมสินได้ในอนาคต
ออมสิน ตั้งสถาบันวิจัยเศรษฐกิจฯ
ลภาวรรณ จันทร์กระจ่าง รองผู้อำนวยการและรักษาการผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ปัจจุบันยังมีครัวเรือนไทยกว่า 30% อยู่ในกลุ่มที่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินในระบบได้ (Unserved) และได้รับบริการที่ไม่เพียงพอ (Underserved) โดยเฉพาะกลุ่มรายได้น้อยหรือรายได้ไม่แน่นอน ซึ่งมักหันไปพึ่งพาเงินกู้นอกระบบและดอกเบี้ยสูง เนื่องจากขาดประวัติเครดิต
ออมสินจึงตั้งสถาบันวิจัยเศรษฐกิจฐานราก เพื่อสร้างฐานข้อมูลเชิงลึกของลูกหนี้กลุ่มเป้าหมาย และใช้เป็นต้นแบบในการออกแบบผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่ ‘เข้าถึงได้จริง’ และ ‘เหมาะสมกับความเสี่ยง’ พร้อมพัฒนาทักษะการเงินและทักษะอาชีพให้คนฐานรากสามารถพึ่งพาตนเองในระยะยาว
สถาบันป๋วยฯ ได้ข้อมูลกลุ่มที่ ‘เคยถูกมองไม่เห็น’ ครั้งแรก
ดร.โสมรัศมิ์ จันทรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์ ระบุว่า โครงการนี้เปิดโอกาสให้สถาบันป๋วยฯ สามารถเข้าถึงข้อมูลของคนที่ไม่เคยอยู่ในระบบมาก่อน ซึ่งถือเป็นกลุ่มที่ ‘เคยถูกมองไม่เห็น’ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา และถือเป็นข้อมูลสำคัญที่จะช่วยออกแบบผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ตรงจุดและเป็นธรรมมากขึ้น
ดร.โสมรัศมิ์ ระบุว่า เป้าหมายคือการระบุ Your Data ที่แท้จริง ของกลุ่มฐานรากว่าควรเป็นข้อมูลแบบใด เพื่อช่วยสถาบันการเงินประเมินความเสี่ยงได้โปร่งใสและเป็นธรรม ลดอุปสรรคของกลุ่มที่ไม่มีเอกสารรายได้หรือไม่มีประวัติเครดิต แต่มีศักยภาพในการชำระคืน
ความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นการเชื่อมข้อมูลจากภาคสถาบันการเงินและงานวิจัยเชิงลึก เพื่อออกแบบสินเชื่อเฉพาะกลุ่มตามพฤติกรรมจริงของลูกหนี้ สร้างโอกาสให้คนฐานรากเข้าระบบการเงินด้วยต้นทุนที่เป็นธรรม และลดปัญหาหนี้นอกระบบในระยะยาว


