วันนี้ (28 พฤศจิกายน) จังหวัดสงขลายังคงเผชิญสถานการณ์อุทกภัยรุนแรงจากอิทธิพลของร่องมรสุมและมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
ล่าสุด ณ เวลา 23.30 น. วันที่ 27 พฤศจิกายน 2568 กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสงขลา รายงานว่ามีพื้นที่ได้รับผลกระทบแล้ว 16 อำเภอ 129 ตำบล 982 หมู่บ้าน 258 ชุมชน รวม 403,053 ครัวเรือน ประชาชน 1,111,715 คน โดยมีผู้ต้องอพยพ 37,654 คน และมีรายงานผู้เสียชีวิตจากการจมน้ำ 55 ราย
สำหรับอำเภอหาดใหญ่ เป็นพื้นที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด ครอบคลุม 15 ตำบล 57 หมู่บ้าน และ 162 ชุมชน มีประชาชนกว่า 243,778 คน ประสบปัญหาน้ำท่วม และต้องอพยพรวม 16,101 คน โดยจังหวัดได้เปิดศูนย์พักพิงรวม 16 แห่ง ทั้งในมหาวิทยาลัย โรงเรียน วัด สำนักงานท้องถิ่น และศูนย์พัฒนาสังคม หลายจุดมีผู้ประสบภัยเข้าพักแน่นเต็มกำลังรองรับ เช่น มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ที่รองรับได้ 9,000 คน ปัจจุบันเข้าพักแล้วกว่า 6,500 คน และโรงเรียนหาดใหญ่รัฐประชาสรรค์ที่รองรับได้ 3,500 คน เข้าพักแล้ว 2,800 คน
ด้านการช่วยเหลือ จังหวัดสงขลาได้บูรณาการกำลังจากหลายหน่วยงาน ทั้งกองทัพบก มณฑลทหารบกที่ 42 กองทัพเรือ หน่วยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยส่วนหน้า หน่วยกู้ภัย และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยได้สนับสนุนรถยกสูงกว่า 100 คัน เครื่องสูบน้ำกว่า 100 เครื่อง เรือท้องแบน เรือยาง และเฮลิคอปเตอร์รวม 18 ลำ เพื่อช่วยอพยพประชาชน ลำเลียงอาหารและจัดส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์ถึงพื้นที่ประสบภัย
นอกจากนี้ ยังมีการแจกจ่ายถุงยังชีพกว่า 60,100 ชุด ข้าวกล่องกว่า 101,000 กล่อง และน้ำดื่มกว่า 120,000 แพ็ค รวมถึงตั้งโรงครัวพระราชทาน โรงครัวสนามทหาร และโรงครัวจากภาคเอกชนผลิตอาหารหลายหมื่นชุดต่อวัน
ในส่วนของโครงสร้างพื้นฐาน มีความเสียหายเกิดขึ้นเป็นบริเวณกว้าง ทั้งถนน 228 สาย สะพาน 12 แห่ง โรงเรียน 41 แห่ง วัด 38 แห่ง และมีบ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง 2 หลัง รวมถึงเสียหายบางส่วนกว่า 1,074 หลัง ขณะเดียวกัน พื้นที่การเกษตรได้รับผลกระทบรวมกว่า 26,000 ไร่ โดยเฉพาะพื้นที่พืชไร่ นาข้าว สวนผลไม้ และบ่อปลาในหลายอำเภอ
แนวโน้มสถานการณ์ ขณะนี้ปริมาณฝนเริ่มลดลงตั้งแต่วันที่ 26 พฤศจิกายนเป็นต้นมา และพายุโซนร้อนไคโตะไม่ส่งผลต่อภาคใต้เพิ่มขึ้น ทำให้น้ำในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ เริ่มลดระดับลง
อย่างไรก็ตาม หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงดำเนินการเร่งระบายน้ำจากคลองอู่ตะเภาและพื้นที่ลุ่มต่ำสู่ทะเลสาบสงขลา พร้อมติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันเหตุซ้ำซ้อนและช่วยให้สถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว


