×

วิจัยกรุงศรี เปิด 3 ฉากทัศน์ ความเสียหายทางเศรษฐกิจจากเหตุน้ำท่วมใต้ คิดเป็นราว 1.18 – 2.36 หมื่นล้านบาท

27.11.2025
  • LOADING...
วิจัย กรุงศรี เปิด 3 ฉากทัศน์ ความเสียหายทางเศรษฐกิจจากเหตุน้ำท่วมใต้ คิดเป็นราว 1.18 - 2.36 หมื่นล้านบาท

วิจัยกรุงศรี เปิด 3 ฉากทัศน์ ผลกระทบทางเศรษฐกิจจากอุทกภัยในภาคใต้ โดยประมาณการมูลค่าความเสียหายต่อภาคธุรกิจและบริการที่ต้องหยุดชะงัก คิดเป็นราว 1.18 – 2.36 หมื่นล้านบาท

 

วิจัยกรุงศรี ระบุว่า จากสถานการณ์อุทภัยในภาคใต้ตั้งแต่วันที่ 17-25 พฤศจิกายน 2568 ได้สร้างความเสียหายครอบคลุมทั้งสิ้น 12 จังหวัด โดยปัจจุบันยังคงมีพื้นที่ได้รับผลกระทบจำนวน 9 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสงขลา ซึ่งได้รับผลกระทบหนักที่สุดครอบคลุมทั้ง 16 อำเภอ โดยเฉพาะในพื้นที่สำคัญทางเศรษฐกิจอย่างอำเภอหาดใหญ่ ซึ่งกำลังประสบวิกฤตหนักที่สุดในรอบหลายสิบปี จากระดับน้ำที่ท่วมสูงและพื้นที่เสียหายเป็นบริเวณกว้าง รองลงมาเป็นจังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส พัทลุง นครศรีธรรมราช ตรัง สตูล สุราษฎร์ธานี

 

โดยอุทกภัยในภาคใต้ครั้งนี้สร้างความเสียหายหลายรูปแบบ ทั้งต่อสิ่งปลูกสร้าง บ้านเรือน โรงงาน เครื่องจักร ยานพาหนะ และเส้นทางคมนาคม นอกจากนี้ เนื่องจากพื้นที่ส่วนใหญ่ที่ได้รับผลกระทบเป็นเขตชุมชนและเขตเศรษฐกิจเป็นหลัก หากระดับน้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้นจะสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจมากขึ้น โดยเฉพาะภาคการค้าและบริการ ภาคการท่องเที่ยว ตลอดจนโรงแรมและภัตตาคาร

 

วิจัยกรุงศรีเปิดสถานการณ์ 3 ฉากทัศน์

 

ทั้งนี้ วิจัยกรุงศรีได้ประเมินมูลค่าความเสียหายต่อเศรษฐกิจจากอุทกภัยภาคใต้ปี 2568 ภายใต้การจำลองสถานการณ์ 3 ฉากทัศน์ ดังนี้

 

  • กรณีดีที่สุด (Best case): หรือกรณีที่เกิดความเสียหายน้อยสุด โดยใช้สมมติฐานว่าภาคธุรกิจและบริการต้องหยุดชะงักและต้องดำเนินการฟื้นฟูความเสียหายจากน้ำท่วมรวมเป็นระยะเวลา 15 วัน คาดว่ามูลค่าความเสียหายจะอยู่ที่ราว 11.8 พันล้านบาท
  • กรณีฐาน (Base case): ใช้สมมติฐานว่าจำนวนวันที่ภาคธุรกิจและบริการหยุดชะงักและต้องดำเนินการฟื้นฟู รวม 25 วันคาดว่ามูลค่าความเสียหายจะอยู่ที่ราว 19.7 พันล้านบาท
  • กรณีเลวร้ายที่สุด (Worst case):ใช้สมมติฐานว่าจำนวนวันที่ภาคธุรกิจและบริการหยุดชะงักและดำเนินการฟื้นฟูรวม 30 วัน คาดว่ามูลค่าความเสียหายจะอยู่ที่ราว 23.6 พันล้านบาท

 

โดยวิจัยกรุงศรียังกล่าวต่อว่า ระยะเวลาที่ใช้ในการฟื้นฟูขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย อาทิ

 

  • ความสูงของระดับน้ำและระยะเวลาที่น้ำท่วมขัง: หากน้ำท่วมสูงและขังนาน ภาคธุรกิจต้องทำความสะอาดและตรวจสอบระบบไฟฟ้า/เครื่องจักร ซึ่งทำให้การกลับมาดำเนินธุรกิจต้องใช้เวลานานขึ้น
  • ประเภทของธุรกิจ: กลุ่มร้านค้าปลีก/บริการ อาจสามารถฟื้นฟูได้เร็ว แต่หากเกิดความเสียหายกับเครื่องจักร เฟอร์นิเจอร์ หรือสต็อกสินค้า หรือหากต้องซ่อมแซมผนัง พื้น และรอการเปลี่ยนอุปกรณ์/เครื่องมือ อาจต้องใช้เวลานานขึ้นก่อนกลับมาดำเนินการใหม่ได้ โดยเฉพาะโรงงาน/โรงแรมที่มีเครื่องจักรและระบบที่ซับซ้อน อาจต้องใช้เวลาตรวจซ่อมและติดตั้งใหม่ยาวนานกว่า
  • การเข้าถึงความช่วยเหลือ: ธุรกิจจะฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว หากภาครัฐมีความพร้อมและเร่งตรวจสอบ ซ่อมแซมระบบไฟฟ้าและประปา และสนับสนุนการเร่งรัดการอนุมัติ/จ่ายเงินประกันภัยเพื่อเป็นทุนฟื้นฟูกิจการ
  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising