วันนี้ (26 พฤศจิกายน) ไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เปิดเผยว่าจากกรณีสถานการณ์อุทกภัยที่ส่งผลกระทบสร้างความเสียหายให้กับประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ โดยเฉพาะอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ตนได้สั่งการระดมความช่วยเหลือจากหน่วยงานในสังกัดไปยังพื้นที่ประสบภัย โดยให้ใช้ศักยภาพของแต่ละหน่วยงานอย่างเต็มกำลังความสามารถ ทั้งการสนับสนุนด้านระบบการสื่อสาร และการขนส่งถุงยังชีพ และสิ่งของเพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัย
ทั้งนี้กระทรวงดีอีเอส ได้จัดตั้ง War Room เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์สภาพอากาศ-น้ำ และศูนย์กลางระบบสื่อสารโทรคมนาคม เตรียมความพร้อมและมาตรการรับมือในสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยบูรณาการข้อมูลร่วมกับกรมอุตุนิยมวิทยา สำนักงานสถิติแห่งชาติ และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) หรือ สสน. รายงานสถานการณ์สภาวะอากาศและสถานการณ์น้ำได้ตลอด 24 ชม. โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.หาดใหญ่
ขณะเดียวกันตนได้มอบหมายให้ พชร อนันตศิลป์ ปลัดกระทรวงดีอีเอส ลงพื้นที่ อำเภอหาดใหญ่ เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2568 เพื่อติดตามการให้ความช่วยเหลือ โดยประสานงานร่วมกับ กสทช. ผู้ให้บริการเครือข่าย และหน่วยงานในสังกัดในพื้นที่ร่วมบูรณาการข้อมูลและการทำงาน ดังนี้
1. การบริหารจัดการระบบสื่อสารและเครือข่าย ให้ดำเนินการย้ายหน่วยโครงสร้างเครือข่าย (Node) ที่มีปัญหาไปยัง Node ที่ใช้งานได้ (branching) และเตรียมการเรื่องเครื่องปั่นไฟ พร้อมกับการเตรียมความพร้อมติดตั้งระบบสื่อสารในพื้นที่ศูนย์พักพิง โดยประสาน กสทช. และผู้ให้บริการเครือข่าย ตรวจสอบเสาสัญญาณที่มีศักยภาพ เพิ่มความแรงสัญญาณ และปรับทิศทางของเสาสัญญาณจากพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อปล่อยสัญญาณให้ประชาชนให้พื้นที่สามารถรับสัญญาณได้โดยไม่จำกัดเครือข่าย
2. การปฏิบัติงานและการเตรียมพร้อมรับมือของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ โดยกำหนดหน้าที่ พร้อมการสนับสนุนหน่วยงานที่ให้ความช่วยเหลือประชาชน รวมถึงการจัดทำแผนฉุกเฉินบูรณาการการรับมือ
3. การพัฒนาระบบงานกู้ภัยและการสื่อสาร เร่งจัดทำระบบการรับข้อมูล พร้อมระบบจัดเก็บข้อมูล เนื่องจากบริการ Digital Trunk Radio Service DTRS ของบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT ในพื้นที่ อำเภอหาดใหญ่ ยังสามารถให้บริการ จึงมอบหมายให้ NT นำรถโมบายของบริการ DTRS จากจังหวัดสุราษฎร์ธานี ไปสนับสนุนเพิ่มเติม และเตรียมเครื่องลูกข่ายไว้สนับสนุนการประสานงานของ กสทช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเบื้องต้นจำนวน 50 เครื่อง เพื่อใช้ในการประสานงานให้ความช่วยเหลือประชาชน
นอกจากนี้ NT จะดำเนินการประสานงานเครือข่ายอาสาสมัครผู้ใช้งานโดรนเข้าร่วมให้ความช่วยเหลือใน 2 รูปแบบ คือ 1. การใช้โดรนสำรวจ ค้นหาผู้ประสบภัยที่ยังติดอยู่ในพื้นที่ และต้องการความช่วยเหลือ 2.ใช้โดรนเพื่อการขนส่งสิ่งของ อาหาร และน้ำดื่ม เข้าสู่พื้นที่ซึ่งเข้าถึงได้ยาก
ด้านบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท.) จะสนับสนุนการขนส่งสิ่งของให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มกำลัง โดยสามารถติดต่อได้ THP Contact Center 1545 เพื่อประสานรายละเอียดการรวบรวมและรับส่งสิ่งของเพื่อส่งต่อให้กับประชาชนผู้ประสบอุทกภัยได้อย่างรวดเร็วและทั่วถึงที่สุด
“ขณะนี้กระทรวงดีอีเอส จัดตั้ง War Room ติดตามสถาการณ์อุทกภัยพื้นที่หาดใหญ่ และใกล้เคียงตลอด 24 ชม. เพื่อบูรณาการข้อมูลให้กับหน่วยงานรัฐ และหน่วยงานที่ปฏิบัติงานให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ โดยตนได้ร่วมหารือ และประสานงานกับภาคเอกชน อาทิ SpaceX เรื่องการเชื่อมต่อสัญญาณในพื้นที่ผ่านดาวเทียม Starlink และ Line Thailand ซึ่งเบื้องต้น Line ได้เปิดบริการ LineAlert แจ้งเตือนสถานการณ์ฉุกเฉิน และ Open Chat หัวข้อประสานงานน้ำท่วมหาดใหญ่ เพื่อให้ประชาชน หรือญาติของผู้ประสบภัย ได้ระบุพิกัดที่อยู่ และจำนวนคนที่ต้องการความช่วยเหลือ เพื่อส่งต่อข้อมูลให้กับหน่วยงานกู้ภัยได้ดำเนินการอย่างทันท่วงที” ไชยชนก กล่าว


