×

มีเงินเหลือ 1,000 บาท/เดือน นำไปต่อยอดอย่างไรดี?

23.11.2025
  • LOADING...
มีเงินเหลือ 1,000 บาท / เดือน นำไปต่อยอดอย่างไรดี?

โบราณท่านว่า ‘อย่าหมิ่นเงินน้อย อย่าคอยวาสนา’ แม้ว่าเราอาจจะเหลือเงินติดกระเป๋าเพียงแค่ 1,000 บาท แต่อย่าเพิ่งมองข้ามมูลค่าของมันไป เพราะหัวใจสำคัญของความมั่งคั่งไม่ได้อยู่ที่ว่า ‘หาได้เท่าไหร่’ แต่อยู่ที่ว่าเรา ‘เก็บได้เท่าไหร่และสม่ำเสมอแค่ไหน’

 

เงินหนึ่งพันบาทที่ดูเหมือนน้อยนิด หากเราทยอยเก็บเล็กผสมน้อยอย่างมีวินัย นานวันเข้ามันจะรวมตัวกันเป็นก้อนใหญ่ และถ้าเรารู้จักวิธีนำไปวางให้ถูกที่ มันจะสามารถออกดอกออกผลได้น่าชื่นใจ และนี่คือไกด์ไลน์สำหรับคนมีเงินเก็บเดือนละพัน ที่อยากปั้นให้เป็นเงินหมื่นเงินแสน

 

เช็คความพร้อมก่อนเริ่ม

 

ก่อนจะนำเงินไปต่อยอด ขอให้เช็ค 2 ข้อนี้ก่อน เพื่อความปลอดภัยทางการเงินของเรา

 

  • หนี้สินดอกเบี้ยสูง: หากมีหนี้บัตรเครดิต หรือหนี้นอกระบบ ให้นำเงิน 1,000 บาทนี้ไป ‘โปะหนี้’ ก่อน เพราะกำไรจากการลงทุนส่วนใหญ่ ชนะดอกเบี้ยหนี้เหล่านี้ได้ยาก
  • เงินสำรองฉุกเฉิน: เราควรมีเงินสดสำรองไว้ยามเจ็บป่วยหรือตกงาน (ประมาณ 3-6 เดือนของค่าใช้จ่าย) หากยังไม่มี ให้เริ่มเก็บ 1,000 บาทนี้เข้าบัญชีออมทรัพย์ดอกเบี้ยสูงก่อน

 

ทางเลือกที่ 1 สายปลอดภัย เน้นชัวร์ (ความเสี่ยงต่ำ)

 

หากเป้าหมายคือการรักษาเงินต้น แต่ได้ผลตอบแทนดีกว่าบัญชีออมทรัพย์ทั่วไป เงินฝากประจำปลอดภาษี ก็เป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ นอกจากได้สร้างวินัยเหล็กให้ตัวเอง ยังได้ดอกเบี้ยเต็มเม็ดเต็มหน่วยโดยไม่ต้องแบ่งให้รัฐบาล (ปกติเงินฝากทั่วไปจะโดนหักภาษี ณ ที่จ่าย 15% เมื่อดอกเบี้ยรวมเกิน 20,000 บาท)

 

ปัจจุบันธนาคารพาณิชย์จะเสนอบัญชีเงินฝากประจำปลอดภาษี เป็นระยะเวลา 24 หรือ 36 เดือน โดยต้องฝากเงินจำนวนเท่าๆ กันทุกเดือน ห้ามถอนก่อนกำหนด ซึ่งอัตราดอกเบี้ยส่วนใหญ่จะอยู่ราว 2%++ ซึ่งจะมากกว่าบัญชีเงินฝากทั่วไป

 

  • จุดเด่น: ปลอดภาษีคือจุดขายหลัก ทำให้ได้ดอกเบี้ยเต็มเม็ดเต็มหน่วยและสูงกว่าออมทรัพย์ทั่วไป บังคับให้เรามีวินัยในการออมโดยอัตโนมัติ และ ความเสี่ยงต่ำ (Low Risk) รับประกันเงินต้น
  • ข้อระวัง: ขาดสภาพคล่อง ถอนออกมาใช้ก่อนกำหนดไม่ได้ (ถ้าถอนมักจะได้แค่ดอกเบี้ยออมทรัพย์ธรรมดา)
  • เหมาะสำหรับ: มือใหม่หัดออมที่ต้องการความมั่นคงสูงสุด ไม่ชอบความเสี่ยง
  • เคล็ดลับ: เมื่อครบ 24 หรือ 36 เดือน ให้นำเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยก้อนนั้น เปิดบัญชีฝากประจำปลอดภาษีรอบใหม่ทันที ทำวนไปเรื่อยๆ (ระหว่างทางให้พักเงินในบัญชีออมทรัพย์ดอกเบี้ยสูง อย่าเอาออกมาใช้กินเที่ยวหมด) และสำคัญห้ามถอนก่อนกำหนด

 

ทางเลือกที่ 2 สายเสี่ยงโชค แต่ขอเงินต้นไม่หาย ได้ดอกเบี้ยนิดหน่อย

 

สำหรับคนชอบวัดดวง รู้ว่าเสี่ยงแต่คงต้องขอลอง สลากออมทรัพย์ดิจิทัล ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ ได้ออมด้วย ได้ลุ้นรวยด้วย

 

มีหลายธนาคารของรัฐที่เปิดขายสลากออมทรัพย์ (เช่น ออมสิน, ธ.ก.ส., ธอส.) โดยมีจับรางวัลใหญ่ทุกเดือน และเมื่อครบกำหนด เงินต้นที่ซื้อสลากก็ยังอยู่ครบและได้ดอกเบี้ยอีกนิดหน่อยด้วย

 

  • จุดเด่น: มีโอกาสถูกรางวัลใหญ่ (ถ้าดวงดี) เงินต้นไม่หาย เป็นการเปลี่ยนเงินที่ซื้อลอตเตอรี่มาเป็นเงินออมที่น่าสนใจ
  • ข้อระวัง: หากไม่ถูกรางวัลเลย ผลตอบแทน (ดอกเบี้ย) มักจะน้อยกว่าเงินฝากประจำ และโอกาสถูกรางวัลใหญ่อาจจะยากหากเงินต้นเราน้อย
  • เหมาะสำหรับ: สายเสี่ยงดวง ชอบลุ้นโชค แต่อยากรักษาเงินต้นไว้
  • เคล็ดลับ: ซื้อสะสมไปทุกเดือน พอสลากชุดแรกครบกำหนด (เช่น ครบ 1 ปี) ก็ถอนทั้งต้นและดอกเบี้ย มาซื้อทบในรอบใหม่ วนไปเรื่อยๆ ผ่านไปหลายปี กองเงินสลากของเราจะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ และโอกาสถูกรางวัลก็จะเพิ่มขึ้นตามจำนวนหน่วยที่ถือ

 

ทางเลือกที่ 3 สายสร้างความมั่งคั่งระยะยาว

 

ส่วนใครเป็นสายอยากซิ่ง อยากเห็นเงินเติบโตไวขึ้น ก็พิจารณาขยับมาที่กองทุนรวมได้ โดยนำเงินไปให้ผู้จัดการกองทุนที่เขาเชี่ยวชาญการลงทุนมากกว่าช่วยบริหารจัดการแทนเราโดยนำไปลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ เช่น หุ้น ตราสารหนี้ หรืออสังหาริมทรัพย์

 

  • จุดเด่น: ใช้เงินเริ่มต้นน้อย มีโอกาสได้รับผลตอบแทนสูงกว่าเงินฝาก มีให้เลือกลงทุนหลากหลาย
  • ข้อระวัง: คือการลงทุนมีความเสี่ยง มูลค่าเงินลงทุนอาจผันผวนตามสภาวะตลาด มีค่าธรรมเนียมในการบริหารจัดการ เงินต้นอาจสูญไประหว่างทาง
  • เหมาะสำหรับ: ผู้ที่มีเงินสำรองแล้ว และต้องการให้เงินงอกเงยชนะเงินเฟ้อในอีก 5-10 ปีข้างหน้า คาดหวังผลตอบแทนสูงขึ้น และรับความผันผวนได้
  • เคล็ดลับ: ทำ DCA (Dollar Cost Averaging) หรือการลงทุนถัวเฉลี่ยเท่ากันทุกเดือน และถ้าเป็นมือใหม่ไม่อยากคิดเยอะ การเลือกกองทุนที่มีนโยบาย Passive ก็เป็นตัวเลือกที่ดี

 

คำแนะนำสำหรับมือใหม่ลงทุน:

 

1. เทคนิค DCA หรือการลงทุนถัวเฉลี่ยทุกเดือนด้วยจำนวนเงินเท่ากัน โดยไม่สนว่าตลาดจะขึ้นหรือลง วิธีนี้ช่วยลดความเสี่ยงจากการจับจังหวะผิด และสร้างวินัยได้ดีเยี่ยม

 

2. เกาะตลาด (Passive / Index Fund) แทนที่จะไปลุ้นว่าผู้จัดการกองทุนจะเก่งไหม จะเลือกหุ้นถูกตัวไหม ให้เราเลือกลงทุนในกองทุนที่ล้อไปกับดัชนีตลาด เช่น SET50 (หุ้นใหญ่ไทย 50 ตัวแรก) หรือ S&P500 (หุ้นแกร่งสหรัฐฯ 500 ตัว)

  • ในระยะยาว 10 ปีขึ้นไป ตลาดหุ้นโลกมีแนวโน้มเติบโตเฉลี่ย 8-10% ต่อปี
  • ค่าธรรมเนียมมักจะถูกมาก

 

3. พลังของดอกเบี้ยทบต้น หากเราลงทุนเดือนละ 1,000 บาท ได้ผลตอบแทนเฉลี่ย 8% ต่อปี

  • 10 ปี: เงินต้น 120,000 บาท -> เติบโตเป็น 182,946 บาท
  • 20 ปี: เงินต้น 240,000 บาท -> เติบโตเป็น 589,020 บาท
  • 30 ปี: เงินต้น 360,000 บาท -> เติบโตเป็น 1,490,359 บาท (นี่คือพลังของเวลาที่ทำให้เงินทำงานแทนเรา)

 

ทางเลือกที่ 4 สายออมทอง รักษามูลค่าระยะยาว

 

‘ทองคำ’ สินทรัพย์อมตะที่หลายคนเชื่อมั่นว่ามูลค่าจะชนะเงินเฟ้อได้ในระยะยาว แม้ว่าทองแท่ง 1 บาทจะราคาสูงมาก แต่ปัจจุบันมีแอปพลิเคชันจากร้านทองชั้นนำที่ให้เรา ‘ออมทอง’ ทีละเล็กทีละน้อยได้ (เริ่มที่ 500-1,000 บาท) สะสมน้ำหนักทองไปเรื่อยๆ จนครบแล้วค่อยไปแลกเป็นทองจริง หรือขายเอาเงินสดก็ได้

 

  • จุดเด่น: รักษาอำนาจการซื้อในระยะยาวได้ดี ราคาทองมีแนวโน้มสูงขึ้นในระยะยาว (10-20 ปีขึ้นไป)
  • ข้อระวัง: ราคาทองผันผวนขึ้นลงรายวัน ไม่มีเงินปันผลจ่ายออกมา (กำไรจะเกิดจากส่วนต่างราคาขายเท่านั้น)
  • เหมาะสำหรับ: คนชอบสินทรัพย์ที่จับต้องได้ (เมื่อไปแลกมา) และถือลงทุนได้ยาวนาน เป็นสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงในยามเศรษฐกิจโลกผันผวนได้ดี
  • เคล็ดลับ: วงการนี้มิจฉาชีพเยอะมาก (ประเภทออมทองกินดอกเบี้ยสูงๆ ใน Facebook/Line นั่นคือแชร์ลูกโซ่) ของจริงต้องเป็นร้านทองชั้นนำที่มีตัวตนจริงเท่านั้น

 

ถ้าเก็บเงิน 1,000 บาททุกเดือน ครบ 5 ปี

 

เงินต้นรวมที่เราเก็บได้ = 60,000 บาท

 

  • เก็บใส่ไห: มีเงิน 60,000 บาท (เท่าเดิม แต่ซื้อของได้น้อยลงเพราะของแพงขึ้น)
  • ฝากกินดอกเบี้ย 2%: มีเงินเพิ่มเป็น 63,000 บาท กำไร 3,000 พอเป็นค่าขนม
  • ลงทุนกองทุน/ทอง: มีเงินพุ่งไปถึง 71,500 บาท กำไร 11,500 บาท (ถ้าผลตอบแทนเฉลี่ย ~6-7% ต่อปี)

 

ข้อควรระวัง: กองทุนรวมและทองคำมีความเสี่ยงสูงกว่าเงินฝากหรือสลากอย่างชัดเจน เงินต้นอาจลดลงได้ตามภาวะตลาด ผู้ลงทุนจึงควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจ

 

กุญแจสำคัญของการเงินไม่ใช่การมีเงินก้อนโตหล่นทับ แต่คือ ‘ความสม่ำเสมอ’ การเติมเงินต้น 1,000 บาทเข้าไปเรื่อยๆ โดยไม่ขาดวินัย เมื่อเวลาผ่านไป ‘พลังของดอกเบี้ยทบต้น’ จะเริ่มทำงาน มันจะเปลี่ยนเงินเท่าหยิบมือของเรา ให้กลายเป็นกองเงินกองทองได้ในสักวันหนึ่ง ขอเพียงแค่เริ่มวันนี้ และทำมันต่อไปเรื่อยๆ อนาคตทางการเงินที่สดใสรอคุณอยู่แน่นอน

 

ภาพ: Anton Vierietin/Getty Images

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising