×

Player Profile : ธนาคาร ไชยยาสมบัติ นักปั่นอารมณ์ดีที่ซ่อนบาดแผลไว้ใต้รอยยิ้ม และแปรคำวิจารณ์เป็นพลังใจ

21.11.2025
  • LOADING...
Player Profile : ธนาคาร ไชยยาสมบัติ นักปั่นอารมณ์ดีที่ซ่อนบาดแผลไว้ใต้รอยยิ้ม และแปรคำวิจารณ์เป็นพลังใจ

ภาพของหนุ่มวัย 26 ปีที่มีรอยยิ้มและเสียงหัวเราะในแทบทุกอิริยาบถ คือสิ่งที่แฟนกีฬาหลายคนคุ้นตาเมื่อเห็น เฟรม-ธนาคาร ไชยยาสมบัติ นักกีฬาจักรยานทีมชาติไทยในการแข่งขันโอลิมปิก 2024 ความสดใสและเป็นกันเองที่เขาถ่ายทอดผ่านโซเชียลมีเดีย ได้สร้างเสน่ห์ดึงดูดใจผู้คนและมีผู้ติดตามเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

 

ทว่า เบื้องหลังรอยยิ้มเหล่านั้น เฟรมต้องเผชิญกับคำครหาและเสียงวิจารณ์เชิงลบที่บั่นทอนจิตใจไม่น้อย เขายอมรับตามตรงว่า “นอยด์ไปพักใหญ่เหมือนกัน”

 

THE STANDARD SPORT จึงอยากชวนผู้อ่านไปรู้จักอีกด้านหนึ่งของเฟรม ด้านที่ซ่อนบาดแผลทางใจไว้ภายใต้บุคลิกขี้เล่น พร้อมบทบาทอินฟลูเอนเซอร์ที่ตั้งใจส่งต่อแรงบันดาลใจเหมือนกับที่เขาเคยได้รับมาเช่นกัน

 

ความจริงที่ไม่ได้ยิ้มตลอดเวลา

 

หลายคนอาจรู้จักเฟรมในฐานะนักกีฬาที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มดูมีความสุข แต่ลึกๆ แล้วเขาเป็นเด็กหนุ่มที่จริงจังกับชีวิต มีความคิดที่เป็นระบบระเบียบ และมีความทะเยอทะยานในการเอาชนะ โดยมีแรงกดดันเป็นตัวกระตุ้น 

 

“ในคลิปวิดีโอคนจะมองเราว่าเป็นคนตลก เฮฮา แต่ว่าจริงๆ แล้วเป็นคนที่จริงจังมากทั้งตอนแข่งและซ้อม” นักปั่นประเภทถนนทีมชาติไทยเปิดใจกับ THE STANDARD SPORT

 

“เพราะผมอยากที่จะเอาชนะอยู่ตลอดเวลา ด้วยความที่เป็นคนบุคลิกแบบนี้มันก็มีทั้งข้อดีและเสีย คือผมมีเป้าหมายที่ชัดเจน อยากชนะแต่ถ้ามันไม่ได้มันก็เลยทำให้รู้สึกเสียใจมากเป็นพิเศษ แต่เวลาที่อยู่หน้ากล้องผมต้องยิ้มและทำให้ตัวเองดูร่าเริงเพราะมันคือวิธีการเคลียร์ความรู้สึกที่ผมใช้กับตัวเอง” 

 

เฟรมอธิบายต่อว่าในการแข่งขันเกมกีฬาแพ้ชนะเป็นเรื่องปกติ แต่เขาไม่เคยนำความผิดหวังมาตอกย้ำความรู้สึกภายใน จึงเลือกใช้วิธีการแสดงออกอย่างร่าเริง ด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่น เพราะถ้ายังจมอยู่กับความผิดหวังในการแข่งขันจะเป็นการฝังใจเจ็บ ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการขัดเกลาสภาพจิตใจที่บอบช้ำให้กลับมามีพลังในการแข่งครั้งถัดไป

 

“ผมเคลียร์กับตัว พูดกับตัวเอง ดูวิดีโอหลังแข่งเพื่อหาจุดบกพร่องที่ต้องแก้ไข เพราะในการแข่งขันเราก็ต้องทำให้เต็มที่ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ผมต้องทำคลิปก็ต้องแยกแยะให้ออกว่าเราเครียดจากการแข่งขัน แต่จะเอาความเครียดไปใส่คนอื่นมันก็ไม่ได้ การที่ยิ้มออกไปและทำเหมือนว่าสนุกสนานผมมองว่ามันเป็นการขัดเกลาอารมณ์ของตัวเอง เพราะผมรู้สึกว่าสิ่งที่จะทำให้ไปได้ไกลไม่ใช่ร่างกายแต่เป็นเรื่องของจิตใจ ผมจึงให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากๆ”

 

เปลี่ยนลบเป็นบวกด้วยรอยยิ้ม

 

แน่นอนว่า การเป็นคนดังในโลกโซเชียลย่อมมีทั้งคนที่ชื่นชมและก่นด่า บ่อยครั้งที่เฟรมต้องสะอึกกับคอมเมนต์เชิงลบที่ทำให้เขาเสียความรู้สึกไม่น้อย กลายเป็นการตั้งคำถามกับตัวเองว่าจะลุยต่อหรือพอแค่นี้

 

“ตอนไปแข่งโอลิมปิก 2024 เป็นการเปิดประตูต้อนรับผู้คนให้เริ่มรู้จักผมมากขึ้น ทีนี้ก็ต่างคนต่างความคิดจะมีคอมเมนต์ที่แบบว่า เขาส่งไปแข่งแต่ไปทำคอนเทนต์แล้วจะแข่งได้เหรอ หรือว่าแรงๆ หน่อยก็ เขาให้ใช้เงินภาษีไปทำคอนเทนต์เหรอ มันอะไรแบบนี้อยู่พอสมควร ซึ่งหากใครติดตามผมมาตลอดก็จะรู้ว่า ผมทำแบบนี้มา 2-3 ปีแล้ว แต่คนที่ไม่รู้เขาก็จะมองว่าผมละเลยการซ้อม ไม่เต็มที่ แต่เขาไม่รู้ว่าปกติแล้วผมเป็นคนแบบไหน”

 

“เมื่อก่อนที่คนไม่ค่อยรู้จัก ผมไม่เคยเจอคอมเมนต์แบบนี้เลย พอเจอเข้าก็นอยด์ไปหลายวัน ตอนนั้นผมคิดเสมอว่าสิ่งที่เราทำไปมันไม่ดีเหรอ ทำไมถึงต้องโดนด่า สิ่งที่ผมนำเสนอก็ไม่ใช่เรื่องแย่ ไม่เคยดิสเครดิตใคร ไม่เคยสร้างความเดือดร้อน แล้วทำไมต้องมาเจอแบบนี้ เคยอัดคลิปตอบโต้คนเหล่านั้น แต่เมื่อได้คุยกับตัวเองผมรู้สึกว่ามันไม่ใช่เรา จึงกลับมารีเซ็ตความคิดใหม่ ก็เลยลบคลิปนั้นออกไปเพราะเชื่อมั่นว่าสิ่งที่เราทำนั้นถูกต้องและสมควรที่จะทำต่อไป พร้อมกับยิ้มรับไว้ไม่ตอบโต้อะไรกลับไป”

 

เฟรมบอกด้วยว่า โดยปกติเขาชอบฟังแนวคิดของผู้อื่นและเปิดพอดแคสต์เพื่อรับพลังบวก เมื่อเป็นผู้รับที่ดีแล้วเขาก็พร้อมจะเป็นผู้ให้เพื่อส่งต่อพลังบวกให้กับทุกคนที่เข้ามารับชม นั่นจึงทำให้เฟรมเป็นผู้สร้างรอยยิ้มและส่งมอบกำลังใจให้ทุกคนแบบในทุกคลิปวิดีโอที่ถูกอัพโหลดเสมอมา

 

อินฟลูฯ หรือนักปั่น ความหวังยังเหรียญทอง

 

ซีเกมส์ 2025 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ เฟรมคือหนึ่งในนักกีฬาความหวังของสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย โดยเป้าหมายที่มองไว้คือเหรียญทอง ส่วนตัวเฟรมแล้วมั่นใจว่าประสบการณ์ที่ผ่านมา สามารถนำมาต่อยอดได้ในซีเกมส์หนนี้

 

“ช่วงนี้การซ้อมผมเน้นทั้งกลางแจ้งและในร่มเพื่อให้มีความพร้อมมากที่สุด การที่ไทยเราเป็นเจ้าภาพมันย่อมมีความกดดันแต่ผมจะทำให้เต็มที่ในฐานะนักกีฬา ซึ่งผมสามารถบาลานซ์เวลาระหว่างการฝึกซ้อมกับการอัดคลิปให้ไม่กระทบกันได้ เพราะผมยังต้องทำหน้าที่ทั้งสองอย่างควบคู่กันไปและต้องออกมาให้ดีที่สุด”

 

เมื่อถามว่า ต้องการให้แฟนกีฬาชาวไทยจดจำเขาในฐานะอินฟลูเอนเซอร์หรือนักกีฬาจักรยานที่ประสบความสำเร็จ เฟรมตอบกลับอย่างน่าสนใจว่า 

 

“ผมต้องการให้คนนึกถึงชื่อ เฟรม ธนาคาร ไชยยาสมบัติ เป็นอันดับแรก ส่วนคำต่อท้ายจะเป็นอะไรก็ขึ้นอยู่กับว่าพวกเขาจดจำผมในฐานะอะไร แต่ไม่ว่าจะเป็นอินฟลูฯ หรือนักปั่นจักรยานชายไทยที่ไปโอลิมปิกผมก็ยินดี”

 

“ผมดีใจที่ครั้งหนึ่งเคยเจอแฟนคลับที่ติดตามผมบอกว่า เขาหันมาปั่นจักรยานก็เพราะเห็นคลิปของผม เป็นเหมือนแรงบันดาลใจทำให้เขาหันมาออกกำลังกาย ซึ่งผมดีใจมากๆ ที่ได้เกิดมาแล้วสามารถเป็นแรงบันดาลใจให้กับใครอีกคน สิ่งนี้มันคือที่สุดของผมแล้ว”

 

เฟรมหวังว่าซีเกมส์ครั้งนี้จะเป็นการสื่อสารให้กีฬาจักรยานเป็นที่รู้จักมากขึ้นและต่อยอดไปสู่การเฟ้นหานักกีฬาหน้าใหม่ที่จะมารับไม้ต่อจากรุ่นพี่ในอนาคต

 

คู่แข่งซีเกมส์

 

เฟรม-ธนาคาร เป็นหนึ่งในกำลังสำคัญของโรดเรซทีมชาย ในชุดที่คว้าเหรียญทองซีเกมส์ได้เมื่อปี 2019 ส่วนซีเกมส์ครั้งนี้เจ้าเฟรมจะลงแข่ง 3 อีเวนต์ ประเภทไทม์ไทรอัลทั้งบุคคลชายและทีมชาย และโรดเรซชายที่มีชิง 2 ทอง

 

คู่แข่งสำคัญยังคงเป็นคือมาเลเซียที่นำทีมโดย Nur Aiman Mohd Zariff กับ Nur Amirull Fakhruddin Mazuki 2 นักปั่นมากประสบการณ์ ที่ช่วยกันคว้าเหรียญทองซีเกมส์ให้ทัพเสือเหลืองได้ตลอด 2 ครั้งที่ผ่านมา รวมไปถึง Nur Aiman Rosli นักวัย 26 ปี ที่ทำผลงานในปีนี้ได้อย่างโดดเด่นในรายการชิงแชมป์เอเชีย 2025 ที่ประเทศไทย จบอันดับ 9 ประเภทไทม์ไทรอัลและอันดับ 18 ประเภทโรดเรซ ซึ่งทั้งสองประเภท หากนับผลงานเฉพาะนักกีฬาที่ลงแข่งซีเกมส์ครั้งนี้ เขามีสถิติเป็นรองเพียงแค่ พีระพล ชาวเชียงขวางกับธนาคาร ไชยยาสมบัติ 2 นักปั่นจากไทยเท่านั้น

 

นอกจากนั้น Aiman Cahyadi ตัวเก่งประเภทถนนของอินโดนีเซียที่ประสบความสำเร็จบนเวทีซีเกมส์มาตลอดตั้งแต่ปี 2019 โดยเฉพาะที่ฟิลิปปินส์ เขาเป็นเจ้าของเหรียญทองไทม์ไทรอัลบุคคลชาย ส่วนผลงานในปีนี้ที่น่าสนใจในศึกชิงแชมป์เอเชียร์ 2025 จบอันดับ 14 ไทม์ไทรอัล และอันดับ 19 โรดเรซ ซึ่งทั้งสองอีเวนต์ยังคงเป็นผลงานระดับท็อปของกลุ่มนักกีฬาจากอาเซียน และแม้ว่าในปีนี้จะอายุ 32 ปีแล้ว แต่จะมองข้ามประสบการณ์ของนักปั่นจากแดนอิเหนารายนี้ไม่ได้เช่นกัน

 

จักรยานแข่งที่ไหน ชิงกี่เหรียญทอง

 

จักรยานในกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 แข่งขันระหว่างวันที่ 10-19 ธันวาคมนี้ ชิงทั้งหมด 17 เหรียญทอง แบ่งเป็น ประเภทถนน ชิง 7 เหรียญทอง แข่งที่สวนกีฬากมล สปอร์ต พาร์ค จ กรุงเทพฯ, ประเภทลู่ชิง 5 เหรียญทอง แข่งที่เวโลโดรม หัวหมาก การกีฬาแห่งประเทศไทย, ประเภทเสือภูเขาชิง 3 เหรียญทอง แข่งที่สวนสัตว์เปิดเขาเขียว จ ชลบุรี และ ประเภทบีเอ็มเอ็กซ์ ชิง 2 เหรียญทอง แข่งที่สนามบีเอ็มเอ็กซ์ ภายในสวนกีฬากมล สปอร์ตพาร์ก

 

สมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยส่งนักกีฬาแต่ละประเภทดังนี้

 

ประเภทถนน คน 16 คน จันทร์เพ็ง นนทะสิน, จุฑาธิป มณีพันธุ์, ศุภักษร นันตะนะ, เพชรดารินทร์ สมราช, ชนิภรณ์ บัตริยะ, กมลรดา ขาวปลอด, รุ่งนภา กุศล, พีระพล ชาวเชียงขวาง, นวุติ ลี้พงษ์อยู่, รัชชานนท์ เยาวรัตน์, ตุลธร โสสลาม, สราวุฒิ สิริรณชัย, ธนาคาร ไชยยาสมบัติ, นพชัย กล้าหาญ, ณัฐพล จำชาติ และ ติณพัตน์ เมืองเดช

 

ประเภทลู่ 12 คน ธุรกิจ บุญรัตนธนากร, จุฑาธิป มณีพันธุ์, จาย อังค์สุธาสาวิทย์, ยืนยง เพชรรัตน์, วรุตม์ แปะกระโทก, นรเศรษฐ์ธาดา บุญมา, ทักษ์ แก้วน้อย, ณัฐกฤต แก้วน้อย, พุฒิพงศ์ เฉลิมศรีเมือง, จูดาห์ ธอมป์สัน, อภิสรา ศรีมงคล และ ณัฐภรณ์ อภิโมทย์

 

ประเภทบีเอ็มเอ็กซ์ 4 คน โกเมธ สุขประเสริฐ, พุทธภูมิ นาคแป้น, รวิพล ภูนุช และ กณวรรธน์ เชื้อทหาร

 

ประเภทเสือภูเขา 6 คน เมธาสิทธิ์ บุญเสน่ห์, ชิติพัทธ์ อาษา, วิภาวี ดีคาบาเลส, กนกรัตน์ ฤทธิเดช, พูนศิริ ศิริมงคล และ วัชรกรณ์ อ่อนธุรี

 

ส่วนผลงานของทัพปั่นไทยในซีเกมส์ 2023 ทำได้ 2 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน 2 เหรียญทองแดง ขณะที่เป้าหมายซีเกมส์ครั้งนี้ตั้งเป้าไว้อย่างน้อย 6 เหรียญทอง จากประเภทเสือภูเขา 2 เหรียญทอง, ประเภทบีเอ็มเอ็กซ์ 2 เหรียญทอง, ประเภทถนน 2 เหรียญทอง และ ประเภทลู่ 1 เหรียญทอง

 

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเป็นเจ้าภาพไปด้วยกัน ด้วยการติด Hashtag #เชียร์ไทยในบ้านเรา #SEAGAMES2025 #ซีเกมส์

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising