วันนี้ (20 พฤศจิกายน) อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย นภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พล.ท. อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม, ทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย, ศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย, ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และคณะออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 หรือ บน.6 ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังท่าอากาศยานทหาร กองบิน 41 ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่
นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีส่งมอบโครงการเพิ่มศักยภาพการรองรับและการไหลของแม่น้ำปิง เพื่อป้องกันอุทกภัยเขตเมืองเชียงใหม่ ระยะเร่งด่วน บริเวณพื้นที่สาธารณประโยชน์ริมแม่น้ำปิง (เชิงสะพานเม็งราย) อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ และเป็นประธานสักขีพยานในโอกาสผู้บัญชาการทหารสูงสุดส่งมอบโครงการฯ ให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่
ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จังหวัดเชียงใหม่ประสบกับสถานการณ์อุทกภัย ในช่วงเดือนกันยายน 2567 ก่อให้เกิดความเสียหายเป็นวงกว้างทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ส่งผลกระทบต่อทางเศรษฐกิจมูลค่ากว่า 5,000 ล้านบาทและยังต้องจ่ายเงินเยียวยา เพื่อชดเชยประชาชน
ทั้งนี้ จังหวัดเชียงใหม่ ได้รับการสนับสนุนเงินงบประมาณจากรัฐบาล เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาในระยะเร่งด่วน โดยได้ดำเนินการขุดลอกแม่น้ำปิง กว่า 41 กิโลเมตร ทำให้ช่วงฤดูฝนที่ผ่านมาในปี 2568 ที่จังหวัดเชียงใหม่ได้รับผลกระทบจากพายุหลายลูก ทำให้แม่น้ำปิงมีศักยภาพระดับน้ำเพิ่มมากขึ้น จึงไม่ส่งผลกระทบ และสร้างความเสียหายให้กับประชาชน รงมถึงสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน และสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจในพื้นที่
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนมีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้มาร่วมเป็นสักขีพยานและแสดงความยินดีต่อความสำเร็จของโครงการเพิ่มศักยภาพการรองรับและการไหลของแม่น้ำปิงเพื่อป้องกันอุทกภัยเขตเมืองเชียงใหม่ในระยะเร่งด่วน ช่วงหลายปีที่ผ่านมาปัญหาอุทกภัยในเขตเมืองเชียงใหม่ได้สร้างความเสียหายต่อชีวิตทรัพย์สินและเศรษฐกิจของจังหวัดนี้อย่างมหาศาล
โครงการนี้จึงไม่ใช่แค่การขุดลอกหรือขุดดินออกจากลำน้ำเท่านั้น แต่เป็นการลดและกำจัดปัญหาที่สะสมมาอย่างยาวนานและเป็นการสร้างความมั่นคงทางน้ำกลับคืนสู่ชาวเชียงใหม่อย่างเป็นรูปธรรม ตนขอชื่นชมทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตั้งแต่กรมชลประทานกองทัพไทยโดยเฉพาะหน่วยบัญชาการทหารพัฒนาจังหวัดเชียงใหม่และท้องถิ่นที่ทำงานร่วมกันอย่างเข้มแข็งแข่งกับเวลาเพื่อให้กรมการกำจัดนำพวกนี้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และยังถือเป็นเรื่องที่ดีที่ภาครัฐกองทัพท้องถิ่นรวมพลังกันเพื่อสนับสนุนการพัฒนา และบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน
โครงการนี้จะเพิ่มความจุของแม่น้ำทำให้ลำน้ำ ลึกขึ้น กว้างขึ้น รับน้ำได้มากขึ้นและช่วยลดโอกาสตามล้นตลิ่งในเขตเมือง ซึ่งจะเป็นการบรรเทาอุทกภัยเมืองเชียงใหม่อีกทั้งยังเป็นการสร้างความมั่นคงในช่วงฤดูแล้งทำให้เก็บน้ำไม่ใช้ได้มากขึ้นชุมชนจะมีน้ำเพียงพอในช่วงหน้าแล้ง
สำหรับทั้งการอุปโภคบริโภคและการเกษตรนอกจากนี้ยังมีผลประโยชน์จากฝ่ายคุณภาพดีที่ขุดลอกขึ้นมาสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลายได้ช่วยลดภาระงบประมาณของรัฐ จนถือว่าโครงการนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญของการบริหารจัดการน้ำในแม่น้ำปิงอย่างยั่งยืน
ต่อจากนี้ไปจะต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่องใน 2 เรื่องหลักคือการบำรุงรักษาให้มีความต่อเนื่องและการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ไม่ว่าจะเป็นการป้องกันการบุกรุกป่าต้นน้ำการจัดการสิ่งกีดขวางทางน้ำทำให้น้ำไหลจากเหนือสู่ใต้ได้เป็นระบบและปลอดภัยต่อทุกชุมชน รัฐบาลจะเดินหน้าสนับสนุนแผนงานระยะต่อไปอย่างต่อเนื่องเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการบริหารจัดการน้ำให้เกิดความสมบูรณ์และยั่งยืนทั่วทั้งจังหวัดและครอบคลุมทั่วทั้งลุ่มน้ำปิงต่อไป
นี่คือ ความสำเร็จจากความร่วมมือของทุกฝ่ายทุกๆคนจึงขอให้สานต่อพลังความร่วมมือนี้ต่อไปเราต้องช่วยกันดูแลรักษาแม่น้ำให้เป็นสายน้ำที่หล่อเลี้ยงชีวิตความเจริญและความภาคภูมิใจของชาวจังหวัดเชียงใหม่ตลอดจนผู้ที่มาเยือนเชียงใหม่ทุกคน
ก่อนนำคณะปล่อยพันธุ์ปลา บริเวณริมแม่น้ำปิง โดยเป็นพันธุ์ปลา ตะเพียนและปลาสวาย จาก ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดเชียงใหม่รวมทั้งหมด 100,000 ตัว โดยนายกรัฐมนตรีได้อุ้มเด็กนักเรียนชั้นอนุบาล 2 – 3 จากโรงเรียนอนุบาลสวนเด็กเชียงใหม่ ร่วมปล่อยปลา นายกรัฐมนตรีได้กล่าวหยอกล้อกับเด็กๆ ว่า “ให้ปล่อยหนูลงไปด้วยไหม” ก่อนที่จะทำถังใส่ปลาหลุดมือ สร้างเสียงหัวเราะ ความสนุกสนานให้กับเด็กๆ และคณะร่วมงาน
อย่างไรก็ตามนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่าถึงการแก้ไขปัญหาสารพิษปนเปื้อนในแม่น้ำกกนั้น จังหวัดเชียงราย นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เรื่องนี้ต้องคุยกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการพูดคุยกันแล้ว











