×

เอเชียตะวันออกระอุ ทำไมถ้อยคำของผู้นำญี่ปุ่น จึงกลายเป็นชนวนความขัดแย้งระหว่างจีน?

17.11.2025
  • LOADING...
เอเชียตะวันออกระอุ ทำไมถ้อยคำของผู้นำ **ญี่ปุ่น** จึงกลายเป็นชนวนความขัดแย้งระหว่าง **จีน**?

‘เพื่อนบ้านที่ไว้ใจไม่ได้’ คือคำนิยามที่สะท้อนความสัมพันธ์ ญี่ปุ่น-จีน ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา และยิ่งชัดเจนขึ้นจากเหตุการณ์ล่าสุด หลัง ซานาเอะ ทาคาอิจิ นายกรัฐมนตรีหญิงของญี่ปุ่น ประกาศกร้าวว่า โตเกียวพร้อมใช้กำลัง หากเกิดอะไรขึ้นกับไต้หวัน เพราะนี่คือสถานการณ์ที่ ‘คุกคาม’ ต่อการอยู่รอดของญี่ปุ่น

 

คำประกาศของทาคาอิจิไม่ได้เป็นเพียงท่าทีเชิงนโยบาย แต่คือการท้าทายจีนอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งตามมาด้วยเสียงประณาม และคำขู่ดุดันจากปักกิ่ง โดยทั้งหมดนี้นำไปสู่การประท้วงทางการทูต และแรงกระเพื่อมทางการเมืองของสองประเทศภายในไม่ถึงอาทิตย์

 

จีน vs ญี่ปุ่น รอยร้าวทางการเมืองจาก ‘ประวัติศาสตร์บาดแผล’

 

  • เค้าลางความขัดแย้งระหว่างจีนกับญี่ปุ่น เริ่มขึ้นตั้งแต่ทาคาอิจิดำรงตำแหน่งนายกฯ ในช่วงปลายเดือนตุลาคม 2025 ปรากฏว่า สีจิ้นผิงไม่ส่งข้อความแสดงความยินดีที่เธอได้เป็นผู้นำประเทศ แต่ หลี่เฉียง นายกฯ จีน หรือผู้นำหมายเลข 2 กลับทำหน้าที่นี้แทน ทั้งที่ในอดีตที่ผ่านมา สีจิ้นผิงแสดงความยินดีให้กับ โยชิฮิเดะ ซูงะ, ฟุมิโอะ คิชิดะ และ ชิเงรุ อิชิบะ อดีตนายกฯ ญี่ปุ่นทั้งหมด

 

  • แถลงการณ์แสดงความยินดีของจีนระบุว่า สีจิ้นผิงกำลัง ‘จับตาดู’ การกระทำ และท่าทีของรัฐบาลทาคาอิจิ ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศจีนยืนยันว่า นี่คือหลักปฏิบัติทางการทูตที่เหมาะสมแล้ว

 

  • สถานการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางกระแสความกังวลต่อทาคาอิจิในจีน เพราะเธอเป็นนักการเมืองฝ่ายขวาจัด และมีท่าทีที่เป็นปฏิปักษ์ คือ การไปเยือนศาลเจ้ายาสุกุนิ เพื่อสักการะทหารญี่ปุ่นที่เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่ 2

 

  • การเยือนศาลเจ้าดังกล่าวถือประเด็นร้ายแรงสำหรับประเทศเพื่อนบ้านในเอเชียตะวันออก เพราะทหารเหล่านี้คืออาชญากรสงครามในสงครามโลก การไปสักการะบุคคลเหล่านี้ จึงเปรียบเสมือนว่า ญี่ปุ่นยังเคารพคนกลุ่มนี้ และไม่รู้สึก ‘สำนึกผิด’ ต่อเหตุการณ์ในอดีต

 

  • นอกจากนี้ จุดยืนด้านความมั่นคงของทาคาอิจิยังสร้างความกังวลให้กับจีน เพราะเธอสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญญี่ปุ่นมาตรา 9 หรือ ‘บทบัญญัติสันติภาพ’ ที่ญี่ปุ่นสละสิทธิการทำสงคราม ตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา

 

  • สำหรับจีน นโยบายดังกล่าวถือเป็นภัยคุกคามสำคัญ โดยมีความเชื่อว่า กองทัพญี่ปุ่นคือสัญลักษณ์แห่งการรุกราน หากกลับมามีอำนาจ เหตุการณ์ในประวัติศาสตร์อาจซ้ำรอยเหมือนในอดีต อีกทั้งยังสร้างผลกระทบต่ออิทธิพลและความมั่นคงของจีนในเอเชียตะวันออก

 

  • หากย้อนกลับไป ประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่นกับจีน เต็มไปด้วยรอยร้าวและบาดแผลนับตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 เป็นต้นมา ไม่ว่าจะเป็นสงครามจีน-ญี่ปุ่นทั้ง 2 ครั้ง (จีนเสียไต้หวันให้ญี่ปุ่น), การบุกแมนจูเรีย และเหตุการณ์ในสงครามโลกครั้งที่ 2 อย่าง ‘การสังหารหมู่หนานจิง’ ที่ถือเป็นประวัติศาสตร์บาดแผลของจีน หรือ ‘ศตวรรษแห่งความอัปยศ’ (Century of Humiliation) ช่วงเวลาที่จีนตกต่ำมากที่สุดในประวัติศาสตร์

 

ย้อนไทม์ไลน์เหตุการณ์จีนปะทะญี่ปุ่น สะเทือนเอเชียตะวันออก

 

  • ความขัดแย้งก่อตัวขึ้นในวันที่ 7 พฤศจิกายน ทาคาอิจิกล่าวสุนทรพจน์แรกเข้ารับตำแหน่งว่า ญี่ปุ่นอาจต้องข้องเกี่ยวกับความขัดแย้งของเพื่อนบ้าน หากสถานการณ์ฉุกเฉินในไต้หวันเกิดขึ้น ซึ่งข้องเกี่ยวกับ ‘เรือรบ’ หรือ ‘การใช้กำลัง’ เพราะนี่คือสถานการณ์ที่ ‘คุกคาม’ ต่อการอยู่รอดของญี่ปุ่น

 

  • อนึ่ง คำพูดดังกล่าวเป็นการเปิดช่องให้ญี่ปุ่นใช้กำลังตามเงื่อนไขรัฐธรรมนูญมาตรา 9 ซึ่งเป็นการตีความบทบัญญัติสันติภาพที่เกิดขึ้นในปี 2015 ยุค ชินโซ อาเบะ โดยอนุญาตให้ญี่ปุ่นใช้กำลังในเงื่อนไข ‘ป้องกันตนเอง’ (Self-Defense) แม้ไม่ได้ถูกโจมตีโดยตรงก็ตาม

 

  • หวัง หงเหริน (Wang Hung-jen) นักวิเคราะห์การเมืองจาก National Cheng Kung University วิเคราะห์ว่า คำพูดของทากาอิจิคือการส่งสารตรงไปยังจีนว่า ญี่ปุ่นไม่ได้มีบทบาทนั่งดูสองประเทศตีกันเฉยๆ อีกต่อไปแล้ว โดยแนวโน้มที่ญี่ปุ่นพร้อมจะแทรกแซงสิ่งที่เกิดขึ้นในช่องแคบไต้หวันยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

 

  • ปรากฏว่า คำพูดของทากาอิจิจุดประเด็นเดือดในทันที โดย เสวียนเจี้ยน กงสุลจีนประจำโอซาก้าโพสต์ข้อความบน X ว่า “คอสกปรกที่ยื่นเข้ามา ต้องถูกตัดออก”

 

  • ทางการญี่ปุ่นส่งหนังสือประท้วงต่อข้อความของเสวียนเจี้ยน โดยรัฐบาลยืนยันว่า เห็นโพสต์ดังกล่าวแล้ว แม้เจตนาไม่ชัดเจน แต่เป็นข้อความที่ไม่เหมาะสมในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนทางการทูต พร้อมขอให้กงสุลจีนฯ ลบข้อความดังกล่าวทิ้ง

 

  • ขณะที่ หลินเจี้ยน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ออกมาปกป้องเสวียนเจี้ยน พร้อมเรียกร้องให้ญี่ปุ่นหยุดส่งสัญญาณผิดๆ ไปที่กลุ่มแบ่งแยกดินแดนอย่างไต้หวัน

 

  • นอกจากนี้ พรรคเสรีประชาธิปไตยญี่ปุ่น (Liberal Democratic Party: LDP) ซึ่งเป็นพรรคของทาคาอิจิ ยังเสนอให้รัฐบาลประกาศให้ เสวียนเจี้ยน เป็นบุคคลไม่พึงปรารถนาทางทูต (Persona Non Grata)

 

  • สำหรับจุดยืนของพรรคการเมืองอื่นๆ ในญี่ปุ่น พรรคประชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญ (Constitutional Democratic Party: CDP) เชื่อว่า จีนตอบโต้เกินกว่าเหตุ ขณะที่พรรค DPP (Democratic Party for the People) มองว่า ทั้งสองประเทศต้องสื่อสารกันมากกว่านี้ เพื่อไม่ให้สถานการณ์บานปลาย

 

  • แต่ทาคาอิจิยังเดินหน้าเน้นย้ำความสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่นกับไต้หวัน โดยวันที่ 13 พฤศจิกายน เธอโพสต์ข้อความเรียกไทเปว่า ‘มิตรรัก’ ท่ามกลางกระแสบวกจากคนในประเทศที่มองว่า แต่ไหนแต่ไรมา ไต้หวันก็เป็นมิตรและดีกับญี่ปุ่นมาตลอด

 

  • ทั้งนี้ ผลสำรวจจาก Kyodo Poll ระบุว่า ประชาชน 60.4% สนับสนุนแผนของทาคาอิจิให้ญี่ปุ่นเพิ่มงบประมาณการป้องกันประเทศ ขณะที่ความนิยมของเธอมีสัดส่วนครึ่งต่อครึ่ง คือสนับสนุน 48.8% และไม่สนับสนุน 44.2%

 

  • อย่างไรก็ดี เรื่องราวยิ่งบานปลายกลายเป็นรอยร้าวทางการเมือง เมื่อกระทรวงการต่างประเทศจีน ประกาศเตือนให้ชาวจีนหลีกเลี่ยงการเดินทางไปญี่ปุ่น โดยระบุว่า ถ้อยคำยั่วยุของทาคาอิจิ ได้สร้างความเสียหายต่อความสัมพันธ์ของภาคประชาชน และเป็นภัยต่อความปลอดภัยของพลเมืองในญี่ปุ่น

 

  • หลังจากการประกาศของจีน หุ้นของบริษัทท่องเที่ยวและการค้าในญี่ปุ่นตกลงในเช้าวันนี้ (17 พฤศจิกายน) เช่น Shiseido ตก 9%, Takashimaya ตก 5% หรือ Fast Retailing ตกมากกว่า 4%

 

  • ทาคาฮิเดะ คิอุจิ (Takahide Kiuchi) นักเศรษฐศาสตร์บริหารจากสถาบันวิจัยโนมูระ ประเมินว่า ญี่ปุ่นอาจได้รับความเสียหายทางเศรษฐกิจจากรอยร้าวทางการทูตครั้งนี้ถึง 14 พันล้านดอลลาร์ สหรัฐฯ โดยข้อมูลล่าสุดระบุว่า ญี่ปุ่นมีนักศึกษาจีนมากกว่า 1.2 แสนคน และนักท่องเที่ยวกว่า 6.7 ล้านคน ในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2025

 

  • ล่าสุด จีนพยายามตอบโต้ด้วยวิธีการทางการทหาร ด้วยการส่งเรือยามชายฝั่งออกลาดตระเวนบริเวณพื้นที่พิพาทหมู่เกาะเซนกากุ (ภาษาญี่ปุ่น) / หมู่เกาะเตียวหยู (ภาษาจีน) พร้อมระบุว่า นี่เป็นวิธีการชอบด้วยกฎหมายเพื่อปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ของจีน

 

  • อย่างไรก็ดี มีรายงานว่า มาซาอากิ คานาอิ (Masaaki Kanai) อธิบดีกรมเอเชียและโอเชียเนีย กระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น จะเดินทางไปเจรจากับ หลิวจินซง (Liu Jinsong) รองอธิบดีกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศจีน ในสัปดาห์นี้ ซึ่งคาดว่า เป็นสัญญาณผ่อนคลายความตึงเครียดระหว่างสองชาติ

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising