รายงานประเมินพัฒนาการของกองทัพจีนฉบับล่าสุดของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ระบุว่า จีนกำลังพัฒนาฝูงบินทิ้งระเบิดที่มีพิสัยบินระยะไกล และ ‘อาจ’ กำลังฝึกฝนนักบินสำหรับภารกิจโจมตีเป้าหมายในสหรัฐฯ
กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ หรือเพนตากอน ระบุว่า “ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา กองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน (PLA) เร่งขยายขอบเขตปฏิบัติการของเครื่องบินทิ้งระเบิดเหนือน่านน้ำต่างๆ เพื่อสั่งสมประสบการณ์ในการบินกลางทะเล และมีความเป็นไปได้ที่จีนอาจกำลังฝึกฝนการโจมตีเป้าหมายในสหรัฐฯ และประเทศพันธมิตร”
สำหรับเครื่องบินทิ้งระเบิดที่พัฒนาอยู่นั้น เป็นอากาศยานทางยุทธศาสตร์ที่สามารถบรรทุกอาวุธนิวเคลียร์ บินได้ไกล และหลบเลี่ยงการตรวจจับของระบบเรดาร์ได้ โดยรายงานระบุด้วยว่า กองทัพอากาศจีนมีความต้องการบรรจุภารกิจด้านนิวเคลียร์อีกครั้ง
การนำเครื่องบินทิ้งระเบิดนิวเคลียร์เข้าประจำการในกองทัพอากาศ จะช่วยให้เกิดการบูรณาการระหว่าง 3 เหล่าทัพ ด้วยจุดประสงค์ที่จะกระจายภารกิจโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์ ทั้งทางบก อากาศ และทะเล ขณะที่จีนกำลังปรับโครงสร้างอย่างครอบคลุม เพื่อก้าวขึ้นเป็นกองทัพที่มีศักยภาพในการโจมตีร่วม
รายงานประเมินว่า จีนอาจพร้อมนำเครื่องบินทิ้งระเบิดแบบสเตลธ์เข้าประจำการภายใน 10 ปีข้างหน้า ซึ่งเมื่อรวมกับเครื่องบินทิ้งระเบิดที่มีอยู่ จะทำให้ฝูงบินมีขนาดใหญ่ขึ้น
เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา กองทัพจีนนำเครื่องบินทิ้งระเบิดแบบ H-6K ซึ่งติดตั้งอาวุธนิวเคลียร์ได้ ลงจอดบนเกาะเทียมในทะเลจีนใต้เป็นครั้งแรก ซึ่งสร้างความหวาดระแวงให้กับสหรัฐฯ และบรรดาประเทศเพื่อนบ้านที่มีกรณีพิพาทเรื่องดินแดนกับจีน เพราะความเคลื่อนไหวนี้บ่งชี้ว่า จีนพยายามขยายบทบาทและแสดงแสนยานุภาพของกองทัพ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ในดินแดนโพ้นทะเลของจีน
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง: