×

หุ้นไอพีโอ 13 จาก 17 ตัว ในปีนี้ ร่วงต่ำจอง นักวิเคราะห์ชี้สภาพคล่องหาย โมเดลธุรกิจไร้เสน่ห์

10.11.2025
  • LOADING...
หุ้นไอพีโอ 13 จาก 17 ตัว ในปีนี้ ร่วงต่ำจอง นักวิเคราะห์ชี้สภาพคล่องหาย โมเดลธุรกิจไร้เสน่ห์

สถานการณ์หุ้นที่เสนอขายต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (Initial Public Offering: IPO) ในตลาดหุ้นไทยในระยะหลัง มีผลงานค่อนข้างน่าผิดหวังในมุมของราคาหุ้นหลังจากเข้ามาจดทะเบียนในตลาด ส่วนใหญ่ปรับตัวลงเมื่อเทียบกับราคาเสนอขาย

 

ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา มีหุ้น IPO เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยทั้งหมด 17 บริษัท แบ่งเป็นการจดทะเบียนในตลาด SET 6 บริษัท มีมูลค่าเสนอขายรวม 9.22 พันล้านบาท และในตลาด mai 11 บริษัท ระดมทุนรวม 2.87 พันล้านบาท อย่างไรก็ตาม มีเพียง ณ วันที่ 10 พฤศจิกายน มีเพียง 4 บริษัทที่ราคาหุ้นยืนอยู่สูงกว่าราคาเสนอขาย ส่วนอีก 13 บริษัท ต่างมีราคาต่ำกว่าราคาเสนอขายทั้งหมด

 

คำถามที่ตามมาคือ หุ้น IPO ส่วนใหญ่ในปีนี้ที่ราคา ‘ต่ำจอง’ บางส่วนต่ำกว่าตั้งแต่วันแรกที่เข้าซื้อขาย ส่วนนี้เป็นผลจากภาวะตลาดหุ้นไทย ภาพรวมของเศรษฐกิจไทย หรือแม้แต่ปัจจัยเกี่ยวกับการกำหนดราคาเสนอขายว่าแพงจนเกินไป หรือเป็นเรื่องของโมเดลธุรกิจที่น่าสนใจไม่เพียงพอ

 

สภาพคล่องหดหาย สตอรี่ไม่เกิดขึ้นจริง

 

ประกิต สิริวัฒนเกตุ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เมอร์ชั่นพาร์ทเนอร์ จำกัด กล่าวว่า แน่นอนว่าผลงานของหุ้น IPO ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย แต่หนึ่งในปัจจัยที่สำคัญมากคือภาวะตลาด ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเรื่องของสภาพคล่อง

 

“ถ้าตลาดดีมากๆ จะเอื้อให้กับทุกอย่าง เช่น เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา แต่ช่วงนี้ก็ถือว่าตลาดดีแล้ว SET ไม่ได้เลวร้าย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าสภาพคล่องจะดีด้วย”​

 

ปัจจัยถัดมาคือ ตลาดหุ้นไทยปัจจุบันไม่เหมือนเดิม และมีทางเลือกอื่นในการลงทุนเพิ่มขึ้นมาก หุ้นไทยตอนนี้เหมาะกับการลงทุนเพื่อรับเงินปันผลมากกว่า หลายธุรกิจเป็นลักษณะของ Cash Cow ทำให้ตลาดหุ้นไทยจะแกว่งตัวออกข้างคล้ายกับหุ้นโรงไฟฟ้าในอดีต

 

“หุ้นกลางหุ้นเล็กที่ผ่านมาจะสังเกตได้ว่าสตอรี่การเติบโตต่างๆ มักไม่เกิดขึ้นจริง ที่ผ่านมาเราเห็นราคาหุ้นขึ้นไปได้เพราะสภาพคล่องเป็นหลัก เพราะฉะนั้นหุ้น IPO ปัจจุบันที่จะวิ่งขึ้นไปได้ต้องมีโมเดลธุรกิจดีมาก และมูลค่าถูกกว่าอุตสาหกรรม”​

 

‘SMO’ รายล่าสุด เทรดวันแรกร่วง 24%

 

บริษัท กลุ่มสมอทอง จำกัด(มหาชน) หรือ SMO ผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบรายใหญ่ จากสุราษฎร์ธานี หุ้น IPO ตัวล่าสุดที่เข้าซื้อขายในตลาดหุ้นไทยเป็นวันแรกในวันนี้ (10 พฤศจิกายน) ราคาปิดที่ 4.10 บาท ลดลง 24% จากราคาเสนอขายที่ 5.40 บาท

 

สมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ให้มุมมองถึงสาเหตุที่หุ้น IPO เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แล้วต่ำจอง ว่า เป็นผลมาจากตลาดขาดความเชื่อมั่น จากข่าวลบต่างๆ ที่เข้ามากระทบบรรยากาศการลงทุน โดยไม่ได้คำนึงถึงปัจจัยพื้นฐานของกิจการ ว่ามีการเติบโตอย่างไร ทำให้ราคาซื้อขายบนกระดาน ไม่สะท้อนปัจจัยพื้นฐานของหุ้น

 

โดยนักลงทุนส่วนใหญ่กังวลว่า ราคาหุ้น IPO หลังเข้าซื้อขายวันแรก อาจไหลลง จนขาดทุน จึงเกิดแรงขายออกมาต่อเนื่องตั้งแต่เข้าซื้อขาย ซึ่งเป็นการลงทุน เพื่อหวังผลกำไรภายในวันเดียว

 

ด้าน สมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด กล่าวเสริมเรื่องแนวทางการเลือกลงหุ้น IPO ว่า ยังเน้นย้ำให้นักลงทุนรายย่อย ศึกษาพื้นฐานของกิจการ ศึกษาการตั้งราคา นักลงทุนไม่ควรตัดสินใจลงทุน เพื่อเก็งกำไรในวันแรก การลงทุนในหุ้น IPO เป็นโอกาสในการลงทุนระยะกลาง และระยะยาว เพราะเป็นหุ้นที่ราคามีส่วนลด ด้วยสภาพตลาดช่วงที่ผ่านมา ทำให้นักลงทุนกังวล ขาดความเชื่อมั่น และเปลี่ยนพฤติกรรมจองหุ้น IPO แล้วเทขายในวันแรก

 

ในขณะที่การกำหนดราคาเสนอขาย IPO ที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดจำหน่ายและรับประกันหลักทรัพย์ โดยพื้นฐานจะประเมินตั้งราคาจาก ทิศทางการเติบโต แนวโน้มผลประกอบการของบริษัทเป็นตัวตั้ง ถ้าเกิดนักลงทุนใช้หุ้น IPO เป็นเครื่องมือในการเก็งกำไรภายในวันเดียว ก็จะทำให้การฟื้นความเชื่อมั่น ในตลาดเป็นเรื่องยาก

 

ประเด็นร้อน ‘ด.ช.’ ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 หุ้น SMO

 

แหล่งข่าวระดับสูงในตลาดทุนเปิดเผยกับ THE STANDARD WEALTH ถึง กรณีของบริษัท กลุ่มสมอทอง จำกัด (มหาชน) หรือ SMO ได้รับความสนใจเนื่องจาก ด.ช. หฤษฎ์ พิริเยศยางกูร มีรายชื่อเป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 1 นามสกุล ‘พิริเยศยางกูร’ เป็นกลุ่มผู้ถือหุ้นหลักกลุ่มเดียวกัน สามารถอธิบายได้ดังนี้

 

เปิดผู้ถือหุ้นหลักและสัดส่วน

  • ด.ช. หฤษฎ์ พิริเยศยางกูร ถือเป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 1 และเมื่อรวมกับผู้ถือหุ้นที่เป็นเด็กคนอื่นๆ ในกลุ่ม เช่น เด็กหญิงที่เป็นอันดับ 14 และ 15 สัดส่วนรวมกันอาจอยู่ที่ประมาณ 14%
  • เสกศักดิ์ พิริเยศยางกูร ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญในกลุ่ม ถือหุ้นอยู่ในอันดับที่ 8 ด้วยสัดส่วนประมาณ 3.19%
  • ผู้ถือหุ้นอันดับ 2 และอันดับ 3 ก็มีนามสกุลเดียวกันและถูกระบุว่าเป็นพ่อลูกกัน

 

บทบาทของผู้ปกครองในกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่

  • เสกศักดิ์ พิริเยศยางกูร เป็นบุคคลที่ร่วมบริหารบริษัทอยู่ โดยดำรงตำแหน่งเป็น รองประธานบริษัท และดูแลเรื่องโรงงานเป็นหลัก
  • เสกศักดิ์ แม้จะถือหุ้นอยู่เพียงเล็กน้อย ประมาณ 3% แต่ได้จัดสรรให้หุ้นส่วนใหญ่แก่บุตรชาย อันดับ 1และบุตรสาว อันดับ 14 และ 15

 

จากข้อมูลดังกล่าว แหล่งข่าวประเมินว่าการจัดโครงสร้างการถือหุ้นเช่นนี้เป็นการดำเนินการที่ ตรงไปตรงมา และมองว่าเป็นเรื่องของการ จัดสรรหุ้นให้กับบุตร
ทั้งนี้ การแบ่งทรัพย์สินในครอบครัว การที่พ่อให้ลูกถือหุ้นนี้ถูกมองว่าเป็นเรื่องปกติ คล้ายกับการแบ่งมรดกไว้ล่วงหน้า

 

อย่างไรก็ดี แม้ว่าจะมีผู้ตั้งคำถามว่าอาจเป็นการนำเด็กมาเป็นนอมินีหรือไม่ แต่แหล่งข้อมูลชี้ว่า ไม่ใช่การหลบเลี่ยงหรือความไม่โปร่งใส หากต้องการหลบเลี่ยงจริงๆ สามารถทำได้เนียนกว่านี้มาก เช่น การตั้งบริษัท Holding, การใช้บริษัทในหมู่เกาะเคย์แมน หรือโมเดลอื่นๆ ที่ซับซ้อนที่มีให้บริการในสิงคโปร์

 

การที่เสกศักดิ์ ซึ่งเป็นรองประธานกรรมการยังคงบริหารบริษัทอยู่ แสดงให้เห็นว่าเขาไม่ได้หลบหนีไปไหน สำหรับประเด็นทางกฎหมายและการโหวตนั้น กฎหมายไม่ได้มีข้อห้ามว่าเด็กไม่สามารถเป็นผู้ถือหุ้นได้

 

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากผู้ถือหุ้นที่เป็นเด็กยังไม่บรรลุนิติภาวะ ดังนั้น ผู้ปกครอง จึงเป็นผู้รับผิดชอบในการทำหน้าที่เซ็นนิติกรรมต่างๆ และมีอำนาจในการกำหนดทิศทางการโหวตในฐานะผู้ปกครอง

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising