วันนี้ (9 พฤศจิกายน) ศิริกัญญา ตันสกุล สส. แบบบัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีการยื่นอภิปรายไว้วางใจ ว่า ในกระบวนการตรวจสอบรัฐบาล สามารถทำได้หลายทาง ทุกวันนี้เราก็ทำหน้าที่ในการตรวจสอบทุกวัน โดยไม่ต้องรอให้มีการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ และเราคิดว่าการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะใช้ในการกำกับพรรคภูมิใจไทยให้ปฏิบัติตาม MOA
อย่างไรก็ตาม ศิริกัญญาไม่ปฏิเสธว่า ถ้ามีเรื่องร้ายแรง ที่เราไม่สามารถให้รัฐบาลของพรรคภูมิใจไทยซึ่งเป็นแกนนำบริหารประเทศต่อไปได้อีกแม้แต่วันเดียว เราไม่ลังเลใจที่จะยื่นแน่นอน แม้จะเท่ากับว่า MOA จะสูญเปล่า
“แต่จนถึงทุกวันนี้ เรายังไม่พบข้อมูลที่คิดว่าร้ายแรงสุดๆ จริงๆ ที่เราอยากกระทุ้งให้รัฐบาลแก้ไขเปลี่ยนแปลง หรือทำอะไรบางอย่าง เราได้พยายามผลักดันในทุกวิถีทางด้วยกลไกที่เรามีอยู่แล้ว ถ้าจะมีพรรคฝ่ายค้านที่มีเสียงร่วมกันเกิน 1 ใน 5 ของสมาชิกสภาฯ ไปยื่น เราคงห้ามไม่ได้ เป็นสิทธิ์ของเขา แต่ในฐานะที่เป็นพรรคร่วมฝ่ายค้านเหมือนกัน ก็คงต้องมาคุยกันว่าจะยื่นเมื่อไร” ศิริกัญญากล่าว
ขณะที่เรื่องทุนเทา ซึ่งมีการเปิดประเด็นออกมานั้น ศิริกัญญาระบุว่า คงต้องรอการตอบสนองของรัฐบาลว่าจะปฏิบัติอย่างไรในเรื่องนี้ เรายังให้เวลาว่าจะแก้ไขอย่างไรต่อไป จะมีการปลดหรือเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีที่เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องพัวพันหรือไม่ หรือมีข้อเท็จจริงอะไรที่นำมาใช้เป็นเบาะแส ในการแก้ไขปัญหาคอลเซ็นเตอร์ สแกมเมอร์ เราก็ยินดีรอ ว่ามีการกระทำอะไรเกิดขึ้น
ศิริกัญญายังมองว่า การดำเนินการของรัฐบาลเรื่องการแก้ไขปัญหาคอลเซ็นเตอร์ และสแกมเมอร์ ก็เป็นไปตามแนวทางที่พรรคประชาชนได้นำเสนอ แม้จะช้าไปหน่อย ทั้งในการประกาศตัวว่าจะเป็นเจ้าภาพ และประกาศสงคราม รวมถึงตั้งคณะกรรมการต่างๆ ขึ้นมา เราก็ยังเห็นว่าค่อนข้างช้า ต้องกระทุ้งรัฐบาลต่อไปให้แก้ไขปัญหาเรื่องนี้ ไม่ใช่แค่ปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน แต่น่าจะเป็นการร่วมมือต่อต้านการค้ามนุษย์ในสมัยใหม่ รวมถึงแสวงหาความร่วมมือกับนานาชาติที่เจอปัญหาเดียวกับประเทศไทย
สื่อมวลชนถามว่า จะให้เวลารัฐบาลถึงเมื่อไร ศิริกัญญากล่าวว่า จริงๆ แล้ว รัฐบาลก็พยายามทำตามมาเรื่อยๆ แต่ในท้ายที่สุด คงจะมีจุดที่ถ้าข้ามไปแล้วยังแก้ไม่ได้ ก็คงจะเป็นปัญหา ตอนนี้เรายังติดตามอยู่ว่ากระบวนการต่างๆ เป็นไปได้อย่างสมบูรณ์ รอบคอบ รัดกุมหรือไม่ คงต้องให้เวลากับรัฐบาลในเรื่องนี้


