วันนี้ (5 พฤศจิกายน) นันทพงษ์ จิระเลิศพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของไทย (Headline CPI) เดือนตุลาคม 2568 เท่ากับ 100.00 ลดลง 0.76% (YoY) นับเป็นการปรับตัวลดลง 7 เดือนติดต่อกัน
โดยสาเหตุที่ทำให้อัตราเงินเฟ้อเดือนที่ผ่านมาติดลบมาจากปัจจัยต่างๆ ดังนี้
มาตรการลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชนของภาครัฐ ผ่านโครงการ Quick Big Win
สถานการณ์ราคาพลังงานในตลาดโลก ที่ส่งผลให้ราคาสินค้าในกลุ่มพลังงานลดลง ทั้งค่ากระแสไฟฟ้าและน้ำมันเชื้อเพลิง
โดยสินค้าสำคัญที่ราคาลดลง ได้แก่ เนื้อสุกร ไข่ไก่ ผักสด และผลไม้สด จากปริมาณผลผลิตที่เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งของใช้ส่วนบุคคล จากการส่งเสริมการขายของผู้ประกอบการ สำหรับราคาสินค้าและบริการอื่น ๆ ส่งผลกระทบต่อภาวะเงินเฟ้อไม่มากนัก
ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core Inflation) ที่หักอาหารสดและพลังงานออกแล้ว ยังสูงกว่าปีก่อนหน้า 0.61% YoY ชะลอลงจากเดือนกันยายน 2568 ที่สูงขึ้น 0.65% YoY
ขณะที่ ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป เฉลี่ย 10 เดือน (มกราคม – ตุลาคม) ของปี 2568 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2567 ลดลง 0.09% (AoA)
เปิดแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อในระยะต่อไป
นันทพงษ์ กล่าวต่อว่า แนวโน้มอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนพฤศจิกายน 2568 คาดว่าจะยังคงลดลง
โดยมีปัจจัยสนับสนุนให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปลดลง ได้แก่
- ราคาน้ำมันดิบดูไบในตลาดโลกต่ำกว่าปีก่อนหน้าอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากกลุ่มประเทศโอเปกพลัสปรับเพิ่มกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับรัฐบาลมีนโยบายบรรเทาภาระค่าครองชีพผ่านโครงการ Quick Big Win ส่งผลให้สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (OFFO) ปรับลดอัตราเงินสมทบเข้ากองทุนฯ และทำให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลลดลงมาอยู่ที่ 30.94 บาทต่อลิตร
- ภาครัฐดำเนินมาตรการช่วยเหลือลดภาระค่าครองชีพอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการปรับลดค่า Ft งวดเดือนกันยายน – ธันวาคม 2568 มาอยู่ที่ 15.72 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้อัตราค่ากระแสไฟฟ้าลดลงเหลือ 3.94 บาทต่อหน่วย
- ราคาผักสดและผลไม้สดต่ำกว่าปีก่อนหน้าค่อนข้างมาก จากผลผลิตที่เข้าสู่ตลาดจำนวนมาก รวมทั้งฐานราคาผักสดในปีก่อนหน้าที่อยู่ในระดับสูง
- ผู้ประกอบการท่องเที่ยวมีแนวโน้มปรับลดราคาห้องพัก เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศของภาครัฐ (ณ วันที่ 21 ต.ค. 2568) โดยเฉพาะมาตรการหักลดหย่อนภาษีค่าใช้จ่ายท่องเที่ยวภายในประเทศสูงสุด 20,000 บาท
สำหรับปัจจัยสนับสนุนให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปรับสูงขึ้น ได้แก่
- การฟื้นตัวของการท่องเที่ยวมีแนวโน้มทำให้ค่าโดยสารเครื่องบินปรับตัวสูงขึ้น
- ราคาสินค้าเกษตรและเครื่องประกอบอาหารบางชนิดมีแนวโน้มสูงกว่าปีก่อนหน้า เช่น กะทิสำเร็จรูป กาแฟสำเร็จรูป เกลือป่น และน้ำมันพืช เป็นต้น
“ด้วยปัจจัยดังกล่าว กระทรวงพาณิชย์ยังคงคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อทั่วไป ปี 2568 อยู่ที่ 0.0%” นันทพงษ์กล่าว


