วันนี้ (4 พฤศจิกายน) ที่ทำเนียบรัฐบาล อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) โครงการ ‘สุขกาย สบายกระเป๋า’ ร่วมกับ ศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และ พัฒนา พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า โครงการนี้เป็นการขับเคลื่อนงานด้านเศรษฐกิจและสุขภาพครั้งสำคัญ และถือเป็นการปรับเปลี่ยนการให้บริการทางการแพทย์ครั้งยิ่งใหญ่ เพื่อแก้ปัญหาที่โรงพยาบาลรัฐมีความแออัด ขณะที่โรงพยาบาลเอกชนยังมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก
โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของนโยบาย Quick Big Win ที่ต้องการลดค่าครองชีพประชาชน โดยนายกฯ ได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงสาธารณสุขหาแนวทางแบ่งเบาภาระค่ารักษาพยาบาล โดยได้รับความร่วมมือจากสมาคมโรงพยาบาลเอกชน
สำหรับโครงการนี้เป็นการผลักดันความร่วมมือระหว่าง 4 หน่วยงานหลัก ได้แก่ กรมการค้าภายใน, กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ, สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และ สมาคมโรงพยาบาลเอกชน
ทั้งนี้ MOU ฉบับนี้จะผลักดันให้เกิดความร่วมมือกันในการแสดงรายละเอียด ในใบสั่งยา ของโรงพยาบาลเอกชนอย่างถูกต้องและครบถ้วน โดยต้องแสดงรายการยา และข้อบ่งใช้ยา รวมถึงราคายา เพื่อให้ผู้รับบริการมีข้อมูลในการตัดสินใจ ว่าจะซื้อยาในโรงพยาบาลเอกชน หรือจะนำใบสั่งยานี้ ไปซื้อยาด้วยตนเองในร้านขายยานอกโรงพยาบาล
นายกรัฐมนตรีระบุว่า ขณะนี้มีโรงพยาบาลเอกชนเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 300 แห่ง และมีร้านขายยาที่ลงทะเบียนกับ อย. มากกว่า 3,400 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งจะมีสัญลักษณ์โครงการฯ เตรียมพร้อมให้บริการ รวมถึงมีช่องทางเทเลฟามาซี (Telepharmacy) ด้วย
นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่า นโยบายนี้จะทำให้ประชาชนได้รับความเป็นธรรมด้านราคา และมั่นใจได้ว่าจะซื้อยาจากร้านที่มีคุณภาพมาตรฐาน คาดว่าจะช่วยลดค่าครองชีพของพี่น้องประชาชนได้ไม่น้อยกว่า 30,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งถือว่าเยอะมาก สามารถนำเงินจำนวนขนาดนี้ ไปสร้างประโยชน์อื่นๆ
โครงการนี้จะช่วยยกระดับระบบสาธารณสุขไทยให้มีประสิทธิภาพ โปร่งใส และสร้างความเชื่อมั่นให้กับชาวต่างชาติและนักลงทุน
“หากทำตอนที่ผมอยู่กระทรวงสาธารณสุข ผมก็ไม่ต้องลำบากขนาดนี้แล้ว ป่านนี้ก็ยังเป็นรัฐมนตรีสาธารณสุขอยู่ ไม่ต้องมาเป็นรัฐมนตรีมหาดไทย อย่างไรก็ตาม ก็มีความเชื่อมั่นว่า กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงพาณิชย์มีภารกิจอันหนักหน่วง ที่จะต้องทำให้คนไทยมีสุขภาพแข็งแรง ระบบสาธารณสุขมีความทั่วถึง และทำให้เศรษฐกิจมีช่องทางการค้าการทำมาหากินของคนไทย มีโอกาสให้มากขึ้นที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถือว่า Win-Win ในนโยบาย Quick Big Win ของรัฐบาลชุดนี้” นายกรัฐมนตรีกล่าว













