ระเบิดเวลาที่ซ่อนอยู่ในสมอง
29 ตุลาคมของทุกปี คือ ‘วันหลอดเลือดสมองโลก’ (World Stroke Day) วันที่ทั่วโลกให้ความสำคัญกับการให้ความรู้และตระหนักถึงโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) หนึ่งในสาเหตุหลักของการเสียชีวิตและความพิการทั่วโลก วันสำคัญนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อย้ำเตือนถึงความสำคัญของ ‘การป้องกัน’ และ ‘การรักษาอย่างทันท่วงที’
แต่สำหรับทีมแพทย์จาก โรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น นี่คืออีกหนึ่งวันแห่งความภาคภูมิใจ
ในฐานะผู้นำทางการแพทย์ที่มุ่งสู่ความเป็นเลิศในการรักษาโรคหลอดเลือดสมองผิดปกติชนิด AVM (Arteriovenous Malformation) ด้วยเทคนิคการรักษาผ่านสายสวน (Endovascular Treatment) ซึ่งถือเป็นหนึ่งในความก้าวหน้าที่สำคัญของวงการแพทย์ไทย

AVM คือระเบิดเวลาที่ซ่อนอยู่ในสมอง
อ.นพ.ภูมิธรรม ลิมวัฒนานนท์ ประสาทศัลยแพทย์ และผู้เชี่ยวชาญด้านรังสีร่วมรักษาระบบประสาท โรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
เล่าด้วยน้ำเสียงจริงจังถึงความท้าทายของโรคนี้ว่า
“AVM เป็นโรคที่ท้าทายอย่างมาก เพราะไม่สามารถใช้แนวทางรักษาเดียวกับโรคหลอดเลือดสมองทั่วไปได้ ต้องอาศัยทีมแพทย์ที่มีความชำนาญเฉพาะทางในการวางแผนอย่างละเอียดรอบคอบ และใช้เทคโนโลยีขั้นสูง”
เขาอธิบายเพิ่มเติมว่า ภาวะ AVM คือความผิดปกติของการเชื่อมต่อระหว่างหลอดเลือดแดงและหลอดเลือดดำในสมอง ที่ทำให้เลือดไหลเวียนผิดทิศทาง ความดันในหลอดเลือดบริเวณนั้นจึงสูงกว่าปกติ ผนังหลอดเลือดจึงเปราะบางและเสี่ยงต่อการแตก จนนำไปสู่ภาวะเลือดออกในสมอง
“ผมมักเปรียบ AVM ว่าเหมือน ‘ระเบิดเวลาที่ซ่อนอยู่ในสมอง’ เพราะไม่มีใครบอกได้ว่าจะระเบิดเมื่อไร การรักษาจึงไม่ต่างจากการกู้ระเบิด ต้องอาศัยทั้งความแม่นยำและความประณีตที่สุด ทุกการขยับของมือคือความเสี่ยง เพราะเส้นเลือดสมองมีขนาดเล็กและเปราะมาก ความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยอาจหมายถึงชีวิตของผู้ป่วย”
เหมือนออเคสตราที่ไม่มีโน้ตให้เล่นผิด
การรักษา AVM ไม่ได้พึ่งพาแพทย์คนใดคนหนึ่ง แต่ต้องอาศัย ทีมสหสาขา (Multidisciplinary Team) ที่ทำงานประสานกันอย่างใกล้ชิด ทั้งแพทย์รังสีร่วมรักษาระบบประสาท ศัลยแพทย์ประสาท วิสัญญีแพทย์ และพยาบาลเฉพาะทางในห้องผ่าตัด
“ทุกขั้นตอนต้องแม่นยำราวกับการทำงานของวงออเคสตราที่ไม่มีโอกาสเล่นผิดแม้เพียงโน้ตเดียว” อ.นพ.ภูมิธรรม ลิมวัฒนานนท์ กล่าว

ก้าวใหม่แห่งเทคนิค ‘แผลเล็กผ่านสายสวน’
หนึ่งในความภาคภูมิใจของทีมแพทย์ศรีนครินทร์คือ ‘เทคนิคการรักษาผ่านสายสวนหลอดเลือด’ หรือ Endovascular Treatment ซึ่งเป็นแนวทางที่ก้าวข้ามการผ่าตัดแบบเดิม
“เราจะใส่สายสวนขนาดเพียง 1–2 มิลลิเมตร ผ่านหลอดเลือดแดงจากขาหนีบขึ้นไปถึงจุดที่หลอดเลือดผิดปกติในสมอง แล้วอุดจุดนั้นด้วยวัสดุเฉพาะ เพื่อหยุดการไหลเวียนของเลือดที่ผิดปกติ” อ.นพ.ภูมิธรรม อธิบาย
ข้อดีคือ “ไม่มีแผล หัตถการไม่นาน กลับบ้านไว” เป็นการรักษาที่ลดความเสี่ยงและเพิ่มคุณภาพชีวิตให้ผู้ป่วยอย่างมีนัยสำคัญ

วิสัยทัศน์แห่ง ‘ศูนย์ความเป็นเลิศหลอดเลือดสมอง’
รศ.นพ.พิชเยนทร์ ดวงทองพล ประธานศูนย์ความเป็นเลิศหลอดเลือดสมองโป่งพอง (NVIS) โรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวถึงวิสัยทัศน์ของศูนย์ว่า
“โรค AVM เป็นโรคที่อัตราการเสียชีวิตสูงและมีความเสี่ยงระหว่างการรักษา ที่สำคัญคือค่าใช้จ่ายในการรักษาค่อนข้างสูง เราจึงตั้งเป้าหมายที่จะเป็นศูนย์โรคหลอดเลือดสมองที่มีมาตรฐานเทียบเคียงระดับโลก และเป็นศูนย์ความเป็นเลิศสำหรับโรคหลอดเลือดสมอง”

โรงพยาบาลศรีนครินทร์ไม่เพียงเป็นโรงพยาบาลตติยภูมิของภาคอีสานและในกลุ่มประเทศลุ่มน้ำโขงเท่านั้น แต่ยังเป็นศูนย์กลางการส่งต่อที่ไร้รอยต่อ พร้อมบทบาทในฐานะ สถาบันฝึกอบรมและวิจัยทางการแพทย์ เพื่อผลิตแพทย์รุ่นใหม่ที่สามารถดูแลโรคหลอดเลือดสมองซับซ้อนได้ในระดับสากล
“ความท้าทายของเราไม่ใช่เพียงการรักษาผู้ป่วยแต่ละรายให้สำเร็จ แต่ยังต้องยกระดับการเข้าถึงการรักษา โดยหวังว่าในอนาคตผู้ป่วยจะสามารถเข้าถึงอุปกรณ์ที่จำเป็นได้อย่างเท่าเทียมและยั่งยืน” รศ.นพ.พิชเยนทร์ ดวงทองพล

ความหวังใหม่ของผู้ป่วยไทย
สำหรับ อ.นพ.ภูมิธรรม การรักษา AVM ไม่ใช่เพียงเรื่องของเทคนิค แต่คือ “ศิลปะของการรักษาที่ละเอียดอ่อนระหว่างแพทย์กับชีวิตคนไข้”
“เราต้องการให้ผู้ป่วยไทยเข้าถึงการรักษามาตรฐานโลก โดยไม่ต้องไปรักษาต่างประเทศ”
นอกจากการรักษาแล้ว โรงพยาบาลศรีนครินทร์ยังเป็นศูนย์กลางในการฝึกอบรมแพทย์ใช้ทุนศัลยกรรมประสาท เพื่อผลิตแพทย์รุ่นใหม่ที่มีความสามารถในการผ่าตัดสมองและดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“นี่คือหน้าที่ของหน่วยภาควิชาศัลยศาสตร์ประสาท เพื่อผลิตหมอผ่าตัดสมองใหม่ ๆ ตอบแทนคนภาคอีสาน และผลิตศัลยแพทย์เพื่อไปอยู่โรงพยาบาลอื่น ๆ ต่อไปครับ” อ.นพ.ภูมิธรรม ลิมวัฒนานนท์
จากภาคอีสาน สู่มาตรฐานโลก
ในวันหลอดเลือดสมองโลกปีนี้ โรงพยาบาลศรีนครินทร์ได้พิสูจน์แล้วว่า ความเป็นเลิศทางการแพทย์ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในเมืองใหญ่ แต่สามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ที่มี ‘ความมุ่งมั่น’ และ ‘หัวใจแห่งการรักษา’
ก้าวย่างของทีมแพทย์แห่งขอนแก่นจึงไม่ใช่เพียงการรักษาผู้ป่วยให้หายดี แต่คือการสร้างความหวังใหม่ให้กับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองทั่วประเทศ เพื่อให้ทุกชีวิตมีโอกาสได้ ‘ฟื้นคืน’ อย่างเท่าเทียมและยั่งยืน






