มาเลเซีย เจ้าภาพการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน หรือ ASEAN SUMMIT 2025 เผยแพร่กำหนดการประชุมสำคัญที่จะเกิดขึ้นที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ระหว่างวันที่ 26-28 ตุลาคม 2025
การประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 47 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง ภายใต้แนวคิด ‘ความครอบคลุมและความยั่งยืน’ จะจัดขึ้นที่ศูนย์การประชุมกัวลาลัมเปอร์ (KLCC) ประกอบด้วยการประชุมสุดยอดอาเซียน, การประชุมสุดยอดอาเซียนบวกหนึ่ง ระหว่างอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา 7 ประเทศ ได้แก่ ออสเตรเลีย จีน อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ รัสเซีย และสหรัฐอเมริกา ตามลำดับ, การประชุมสุดยอดอาเซียนบวกสาม, การประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก, การประชุมสุดยอดอาเซียน-สหประชาชาติ และการประชุมสุดยอดที่ระลึกอาเซียน-นิวซีแลนด์ เพื่อฉลองครบรอบ 50 ปี แห่งความสัมพันธ์คู่เจรจา
มาเลเซียยังจะเป็นเจ้าภาพการประชุมสุดยอดความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ครั้งที่ 5 และการประชุมผู้นำประชาคมเอเชียปลอดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (AZEC) ครั้งที่ 3 นอกรอบการประชุมสุดยอดเหล่านี้ด้วย
สำหรับพิธีเปิดการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 47 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง มีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 26 ตุลาคม 2025 โดยจะมีผู้นำอาเซียนทุกประเทศเข้าร่วม รวมถึงประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรีติมอร์-เลสเต, แขกของประธานอาเซียน ตลอดจนแขกผู้มีเกียรติที่ได้รับเชิญท่านอื่นๆ
ในระหว่างพิธี จะมีการลงนามในปฏิญญาว่าด้วยการรับติมอร์-เลสเตเข้าเป็นสมาชิกอาเซียน ซึ่งถือเป็นการรับเข้าเป็นรัฐสมาชิกอาเซียนลำดับที่ 11 อย่างเป็นทางการ
สำหรับรายละเอียดของการประชุมที่สำคัญ มีดังนี้
การประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 47 (26 ตุลาคม)
นายกรัฐมนตรี ดาโต๊ะ ซรี อันวาร์ อิบราฮิม จะเป็นประธานการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 47 ซึ่งจะแบ่งออกเป็นการประชุมเต็มคณะ (Plenary) และการประชุมอย่างไม่เป็นทางการ (Retreat)
การประชุมเต็มคณะจะมีการเข้าร่วมของแขกของประธานอาเซียนด้วย ได้แก่ นายกรัฐมนตรีแคนาดา, ประธานคณะมนตรียุโรป และกรรมการผู้จัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)
ในระหว่างการประชุมเต็มคณะ ผู้นำอาเซียนจะมุ่งเน้นการหารือในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการสร้างประชาคมอาเซียนและความสัมพันธ์ภายนอกของอาเซียน
ผู้นำจะหารือในประเด็นต่างๆ อาทิ แนวทางในการส่งเสริมการบูรณาการระดับภูมิภาคให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น, กระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ และเพิ่มพูนการเชื่อมโยงของอาเซียน
ในด้านความสัมพันธ์ภายนอก ผู้นำจะหารือถึงความพยายามในการเสริมสร้างความเป็นเอกภาพและความเป็นแกนกลางของอาเซียน และกระชับความมุ่งมั่นของอาเซียนต่อระเบียบพหุภาคีที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของกฎกติกา ท่ามกลางภูมิทัศน์ทางภูมิรัฐศาสตร์โลกที่กำลังเปลี่ยนแปลง
โดยแคนาดาและสหภาพยุโรป (EU) จะร่วมแบ่งปันมุมมองเกี่ยวกับการกระชับและเพิ่มพูนความสัมพันธ์คู่เจรจาของตนกับอาเซียนให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
ในขณะเดียวกัน IMF จะบรรยายสรุปแก่ผู้นำเกี่ยวกับการประเมินเศรษฐกิจมหภาคโลกล่าสุดของ IMF, ผลกระทบเชิงนโยบายต่ออาเซียน และแนวทางในการกระชับความร่วมมือระหว่าง IMF-อาเซียนให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
ในระหว่างการประชุมอย่างไม่เป็นทางการ ผู้นำจะทบทวนการดำเนินการตามฉันทามติ 5 ข้อ (5PC) เกี่ยวกับเมียนมา และแนวทางในอนาคตในการแก้ไขวิกฤตทางการเมืองและมนุษยธรรมในประเทศ ตลอดจนแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศที่เป็นข้อกังวลร่วมกัน
การประชุมสุดยอดอาเซียนบวกหนึ่ง (26-28 ตุลาคม)
ในระหว่างการประชุมสุดยอดเหล่านี้ ผู้นำจะทบทวนความคืบหน้าของความสัมพันธ์คู่เจรจาอาเซียนบวกหนึ่งและทิศทางในอนาคต ตลอดจนแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศ
หัวข้อที่จะมีการหารือกันนั้น ครอบคลุมการค้าและการลงทุน, ความยืดหยุ่นของห่วงโซ่อุปทาน, การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล, พลังงานหมุนเวียน, การเติบโตสีเขียว ตลอดจนประเด็นระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศที่เป็นข้อกังวลร่วมกัน
โดยปีนี้ถือเป็นวันครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์คู่เจรจาอาเซียน-นิวซีแลนด์ด้วย
ในระหว่างการประชุมสุดยอดที่ระลึกอาเซียน-นิวซีแลนด์ คาดว่าผู้นำจะประกาศการจัดตั้งความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์อย่างรอบด้าน (CSP) ระหว่างอาเซียน-นิวซีแลนด์
การประชุมสุดยอดอาเซียนบวกสาม (APT) ครั้งที่ 28 (27 ตุลาคม)
การประชุมสุดยอดนี้ ซึ่งเกี่ยวข้องกับผู้นำอาเซียน จีน ญี่ปุ่น และสาธารณรัฐเกาหลี จะทบทวนความคืบหน้าที่บรรลุผลภายใต้กรอบความร่วมมือ APT และทิศทางในอนาคต โดยมุ่งเน้นในด้านต่างๆ เช่น เศรษฐกิจดิจิทัล, ความร่วมมือทางทะเล, พลังงาน, การเชื่อมโยง, สาธารณสุข และการศึกษา
ผู้นำยังจะได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศที่เป็นข้อกังวลร่วมกัน
นอกจากนี้การประชุมสุดยอดยังจะมีการบรรยายสรุปโดยแขกของประธาน ได้แก่ สำนักงานวิจัยเศรษฐกิจมหภาคของภูมิภาคอาเซียน+3 (AMRO) และสภาธุรกิจเอเชียตะวันออก (EABC) เกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจมหภาคและการเงินของภูมิภาค รวมถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจของภูมิภาคตามลำดับ
การประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก ครั้งที่ 20
การประชุมสุดยอดนี้จะมีผู้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออกทั้ง 19 ประเทศ ได้แก่ รัฐสมาชิกอาเซียน, ออสเตรเลีย, จีน, อินเดีย, ญี่ปุ่น, นิวซีแลนด์, สาธารณรัฐเกาหลี, สหพันธรัฐรัสเซีย และสหรัฐอเมริกา
การประชุมสุดยอดจะมองย้อนกลับไปถึงความสำเร็จของ EAS ในวาระครบรอบ 20 ปี และทบทวนความคืบหน้าของความร่วมมือ EAS โดยมุ่งเน้นไปที่ประเด็นเชิงยุทธศาสตร์, การเมือง และเศรษฐกิจในวงกว้าง โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมสันติภาพ, เสถียรภาพ และความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาคเอเชียตะวันออก
การประชุมสุดยอดยังจะมีแขกของประธานอาเซียนเข้าร่วม ได้แก่ ประธานาธิบดีบราซิลและแอฟริกาใต้ ในฐานะประธานกลุ่ม BRICS และ G20 ตามลำดับ
นอกเหนือจากการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 47 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้องแล้ว มาเลเซียยังจะเป็นเจ้าภาพการประชุมผู้นำ AZEC ครั้งที่ 3 ในวันที่ 26 ตุลาคม 2025 และการประชุมสุดยอด RCEP ครั้งที่ 5 ในวันที่ 27 ตุลาคม 2025
การประชุมสุดยอดทั้งหมดนี้จะมีการประชุมต่างๆ ในระดับรัฐมนตรีต่างประเทศและรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ตลอดจนระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสล่วงหน้าตั้งแต่วันที่ 22 ถึง 25 ตุลาคม 2025
ทั้งนี้การประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 47 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง สะท้อนถึงความมุ่งมั่นและความตั้งใจอันแน่วแน่ของมาเลเซียในการเสริมสร้างวาระการบูรณาการของอาเซียน และการขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ร่วมกันแห่งสันติภาพและความเจริญรุ่งเรือง
การประชุมสุดยอดเหล่านี้ยังถือเป็นบทสรุปของการดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนของมาเลเซียในปี 2025 ก่อนที่ฟิลิปปินส์จะเข้ารับตำแหน่งประธานอาเซียนลำดับถัดไป โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2026 โดยพิธีส่งมอบตำแหน่งประธานอาเซียนจากมาเลเซียไปยังฟิลิปปินส์จะมีขึ้นในวันที่ 28 ตุลาคม 2025
ภาพ: REUTERS / Chalinee Thirasupa
อ้างอิง:
- กระทรวงการต่างประเทศมาเลเซีย


