วันนี้ (24 ตุลาคม) ภายหลังการหารือระหว่าง อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยคณะ ได้เข้าหารือกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ถึงแนวทางการจัดการเลือกตั้ง สส. พร้อมกับการจัดทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ และประชามติเรื่อง MOU43 และ 44 ระหว่างไทยและกัมพูชา
ภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ ใช้ระยะเวลา 1 ชั่วโมง อิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. ได้เปิดเผยว่า เป็นการหารือเบื้องต้นเกี่ยวกับกระบวนการทำงาน งบประมาณ การกำหนดวัน และปัจจัยการจัดทำประชามติว่าขึ้นอยู่กับอะไรบ้าง แต่ยังไม่ได้ลงในรายละเอียดว่าจะต้องตัดสินใจอย่างไร
ขณะที่เรื่องบัตรเลือกตั้งนั้น เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไป ว่าจะมีบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ สำหรับสส. แบบแบ่งเขต และ สส. แบบบัญชีรายชื่อ ส่วนบัตรที่จะใช้ในการทำประชามติ ในขณะนี้วางแผนไว้ว่าหากมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือ แก้ไขเปลี่ยนแปลง หรือ ยกเลิก MOU 43-44 จะมีบัตรประมาณ 4 ใบ ซึ่งหากมีการออกเสียงในวันเดียวกันจะมีบัตรเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน ดังนั้น ต้องมีการบริหารจัดการให้มั่นใจที่สุด เพื่อให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ผู้มีสิทธิ์ออกเสียง รวมถึงเจ้าที่ปฏิบัติหน้าที่ประจำหน่วยจะได้ไม่มีความสับสน ซึ่งหลังจากนี้ต้องไปลงรายละเอียด เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างดีที่สุด
พร้อมย้ำว่า กกต. พร้อมปฏิบัติตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ฉบับใหม่ที่เพิ่งประกาศ เพราะเป็นหน้าที่ที่จะต้องปฏิบัติตามอยู่แล้ว
ส่วนเรื่องการนับคะแนน ขณะนี้ยังไม่ได้พูดคุยในรายละเอียด ว่าจะต้องนับการเลือกตั้งทั่วไป หรือประชามติก่อน ซึ่งเป็นประเด็นที่จะต้องพูดคุยกันต่อ
ขณะที่งบประมาณในการดำเนินการ หากมีการจัดการเลือกตั้งพร้อมกัน จะใช้งบประมาณกว่า 9,000 ล้านบาท แต่หากจัดเลือกตั้งแยกกันจะใช้งบประมาณกว่า 10,000 ล้านบาท เนื่องจากคาดการณ์ว่าจะมีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งประมาณ 53 ล้านคน ดังนั้นหากทำประชามติพร้อมกับการเลือกตั้งจะคุ้มค่ากว่า
นอกจากนี้ ประธาน กกต. ยังระบุว่า พ.ร.บ.ประชามติฯ ฉบับใหม่ มีผลบังคับใช้กำหนดให้มีการออกเสียงประชามติได้นอกราชอาณาจักรได้เป็รครั้งแรก ในครั้งนี้จึงต้องมีการออกเสียงประชามตินอกราชอาณาจักรด้วย
สื่อมวลชนสอบถามนายกรัฐมนตรีว่า จะเดินหน้าการทำประชามติเรื่อง MOU 43 และ 44 เหมือนเดิมหรือไม่ หลังจากนักวิชาการและฝ่ายต่างๆ ได้ ตั้งข้อสังเกตเรื่องนี้ อนุทินตอบว่า เรื่องนี้อยู่ในนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภาแล้ว
เมื่อถามต่อไปว่า จะชัดเจนเมื่อไรในเรื่องของการทำบัตรเลือกตั้งและการทำประชามติทั้ง 4 ใบ อนุทินตอบว่า ต้องให้คณะทำงานของ ภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, บวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี มาทำงานร่วมกับ แสวง บุญมี เลขาธิการ กกต.
เมื่อถามย้ำถึงกรอบเวลา อนุทินตอบว่า “เร็วที่สุด เพราะอย่างไร 31 มกราคม ก็ยุบสภาฯ อยู่แล้ว” โดยสื่อมวลชนพยายามสอบถามอีกว่า จะมีการยุบสภาฯ เร็วกว่านั้นหรือไม่ อนุทินไม่ได้ตอบคำถาม และเดินทางไปทำภารกิจต่อ



