×

ทีมชาติไทย เริ่มนับ 1 กับ แอนโธนี ฮัตสัน ผู้มาพร้อมภารกิจฟื้นศรัทธาบอลไทย

23.10.2025
  • LOADING...
ทีมชาติไทย เริ่มนับ 1 กับ แอนโธนี ฮัตสัน ผู้มาพร้อมภารกิจฟื้นศรัทธา บอลไทย

หลังการแยกทางกับ มาซาทาดะ อิชิอิ ที่กำลังพาทีมชาติไทยทำผลงานในศึก เอเชียนคัพ รอบคัดเลือก ได้อย่างร้อนแรง ยิงได้ 8 ประตู เสียเพียง 1 จาก 2 นัดหลังสุด

 

การประกาศปลดแบบสายฟ้าแลบด้วยเหตุผล ‘แนวทางไม่ตรงกัน’ แบบนี้…ได้สร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่ววงการลูกหนังไทย

 

และเพียงไม่กี่วันถัดมา (23 ตุลาคม) สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ก็เดินหน้าประกาศแต่งตั้ง แอนโธนี ฮัตสัน ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาเทคนิค ขึ้นมารับตำแหน่ง หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยชุดใหญ่ อย่างกะทันหัน

 

กะทันหันถึงขั้นที่การเข้ามาทำหน้าที่ ‘โค้ชคนใหม่’ ของฮัตสัน ยังไม่มีการตกลงรายละเอียดของสัญญาอย่างชัดเจน ทั้งระยะเวลาและการลงนามอย่างเป็นทางการยังไม่เกิดขึ้นด้วยซ้ำ

 

การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางแรงกระเพื่อมในโลกโซเชียล แฟนบอลจำนวนไม่น้อยตั้งคำถามถึงวิธีการของสมาคมฯ ว่าไม่เพียงเป็นการไม่ให้เกียรติอิชิอิเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงความไม่ต่อเนื่องในโครงสร้างระยะยาวของฟุตบอลไทย ที่เหมือนจะต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่อีกครั้ง

 

แต่ในอีกด้านหนึ่ง ฮัตสัน กุนซือชาวอังกฤษวัย 44 ปี ที่เพิ่งได้รับโอกาสขึ้นแถลงต่อหน้าสื่อมวลชนไทยเป็นครั้งแรก กลับเลือกจะไม่มองสถานการณ์นี้ในแง่ลบ เขาเดินขึ้นโต๊ะด้วยรอยยิ้ม และเปิดใจอย่างตรงไปตรงมาว่า

 

“ผมเข้าใจทุกเสียงของแฟนบอล เพราะเหตุการณ์นี้สะท้อนว่า ทุกคนรักฟุตบอลไทยจริงๆ”

 

และในวันนี้ ซึ่งถือเป็น Day 1 ของการเริ่มต้นบทใหม่ในฐานะหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยอย่างเป็นทางการ ฮัตสันได้เปิดเผยแนวคิด แพสชัน และมุมมองต่อทุกคำถามที่แฟนบอลไทยอยากรู้

 

THE STANDARD SPORT ขอพาทุกคนไปสัมผัส ‘คำตอบ’ ของชายผู้เปลี่ยนบทบาทจากผู้อำนวยการเทคนิค มาสู่ข้างสนามในฐานะเฮดโค้ชทีมชาติไทยคนใหม่ เพื่อทำความรู้จักเขาให้ลึกขึ้น ก่อนที่เกมแรกของยุคแอนโธนี ฮัตสันจะเริ่มต้นขึ้นเดือนหน้า!

 

ทีมชาติไทย เริ่มนับ 1 กับ แอนโธนี ฮัตสัน ผู้มาพร้อมภารกิจฟื้นศรัทธา บอลไทย 1

 

เปิดพอร์ต แอนโธนี ฮัตสัน ผลงานระดับ ‘ทีมชาติ’ เป็นอย่างไรบ้าง?

 

แอนโธนี ฮัตสัน ถือเป็นหนึ่งในโค้ชสายโกลบอล ที่สั่งสมประสบการณ์ทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติมาแล้วหลายประเทศ เขาเริ่มต้นเส้นทางกุนซือตั้งแต่อายุเพียง 27 ปี กับสโมสร Real Maryland Monarchs ในสหรัฐอเมริกา ก่อนจะก้าวสู่เวทีระดับนานาชาติในเวลาไม่นาน

 

ในระดับ ทีมชาติชุดใหญ่ ฮัตสันผ่านการคุมทีมมาแล้วถึง 3 ชาติ พร้อมผลงานดังนี้

 

🇧🇭 ทีมชาติบาห์เรน (2013-2014)
คุมทีม 12 นัด ชนะ 3 เสมอ 6 แพ้ 3
อัตราชนะ 25.00%

 

🇳🇿 ทีมชาตินิวซีแลนด์ (2014-2017)
คุมทีม 27 นัด ชนะ 9 เสมอ 7 แพ้ 11
อัตราชนะ 33.33%
(เคยพานิวซีแลนด์เข้าเพลย์ออฟคัดบอลโลก 2018 พบเปรู)

 

🇺🇸 ทีมชาติสหรัฐอเมริกา (รักษาการ, 2023)
คุมทีม 5 นัด ชนะ 2 เสมอ 2 แพ้ 1
อัตราชนะ 40.00%

 

ฮัตสัน กับเรื่องของ Win Rate

 

หนึ่งประเด็นร้อนแรงที่แฟนบอลไทยพูดถึงอย่างหนัก คือเรื่องของอัตราชนะ (Win Rate) ตัวเลขที่สมาคมฟุตบอลฯ เคยหยิบยกขึ้นมาเป็นหนึ่งในเงื่อนไขสำคัญในการประเมินผลงานของ มาซาทาดะ อิชิอิ

 

ในยุคของอิชิอิ ทีมชาติไทยมีสถิติ ชนะ 16 จาก 30 นัด หรือคิดเป็น อัตราชนะ 53% ก่อนถูกปลดกลางทาง ทั้งที่ผลงานในสนามยังดูมีทิศทางที่ดี

 

ขณะเดียวกัน หากมองไปที่ แอนโธนี ฮัตสัน ซึ่งมีประสบการณ์คุมทีมชาติ 3 ชาติ บาห์เรน, นิวซีแลนด์ และสหรัฐอเมริกา ตัวเลขทั้งหมด ยังไม่เคยแตะ 50% เลยด้วยซ้ำ

 

แต่เมื่อถูกถามถึงเรื่องนี้ ฮัตสันตอบอย่างใจเย็นและมีมุมมองที่น่าสนใจว่า “เรื่องอัตราชนะจะมองว่าถูกหรือผิดคงไม่ได้ เพราะแต่ละโค้ชมีแนวทางและปรัชญาแตกต่างกัน บางคนอาจเลือกอุ่นเครื่องกับทีมที่อันดับโลกต่ำกว่า เพื่อเพิ่มโอกาสชนะ ส่วนบางคนเลือกเจอกับทีมที่แข็งแกร่งกว่า เพื่อให้นักเตะได้เรียนรู้จากเกมนั้นๆ”

 

เขาอธิบายต่อว่า ตลอด 3 ปีครึ่งที่คุมทีมนิวซีแลนด์ เขาได้เล่นเกมในบ้านเพียง 2 นัดเท่านั้น ที่เหลือคือการออกไปเผชิญหน้ากับทีมที่มีแรงกิ้งสูงกว่าเกือบทั้งหมด เพราะเป้าหมายไม่ใช่การเก็บสถิติชนะ หากแต่เป็นการสร้างนักเตะที่พร้อมสู้กับทีมระดับโลก และได้เรียนรู้ให้มากที่สุด

 

ทีมชาติไทย เริ่มนับ 1 กับ แอนโธนี ฮัตสัน ผู้มาพร้อมภารกิจฟื้นศรัทธา บอลไทย 2

 

มุมมองต่อการทำงานของอิชิอิ, เขาจะสานต่อแนวทางเดิม หรือสร้าง ‘Hudson Way’ ขึ้นมาใหม่?

 

THE STANDARD SPORT ยิงคำถามตรงถึง แอนโธนี ฮัตสัน ว่าในฐานะที่ก่อนหน้านี้เขานั่งอยู่ในเก้าอี้ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาเทคนิค และมีโอกาสเห็นการทำงานของ มาซาทาดะ อิชิอิ อย่างใกล้ชิด

 

เขามองแนวทางของกุนซือชาวญี่ปุ่นรายนี้อย่างไร และเมื่อถึงวันที่ต้องรับไม้ต่อ เขาจะสานต่อ หรือสร้างทางของตัวเองให้กับทีมชาติไทย?

 

ฮัตสันตอบด้วยน้ำเสียงให้เกียรติอย่างเต็มที่ต่อสิ่งที่อิชิอิได้วางไว้ พร้อมย้ำว่า การเข้ามาของเขาไม่ใช่การเปลี่ยนทุกอย่าง แต่คือการต่อยอดและพัฒนา

 

“ผมเคารพและนับถือโค้ชอิชิอิในสิ่งที่เขาทำมา และมันคงเป็นความผิดพลาดถ้าผมจะเปลี่ยนทุกอย่าง เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในทีมในช่วงที่ผ่านมา ถือว่าดูดีแล้ว ทุกคนก็กำลังอยู่ในจุดที่ดี

 

“หน้าที่ของผมอาจมีคาแรกเตอร์ที่แตกต่างออกไป แต่สิ่งที่ผมจะทำคือค่อยๆ ถ่ายทอดแนวทางของตัวเองให้ทีมงานได้ซึมซับ และค่อยๆ พัฒนาทีมไปทีละระดับ เราจะพยายาม ‘วิวัฒนาการ’ มากกว่าจะ ‘ปฏิวัติ’ ทุกอย่าง”

 

มุมมองฟุตบอลไทย ผ่านสายตาของ ฮัตสัน

 

ฮัตสันมองว่า ประเทศไทยคือหนึ่งในประเทศที่ทำให้เขารู้สึกโชคดีที่ได้มาทำงาน “ผมโชคดีที่ได้ทำงานในหลายประเทศ แต่ต้องพูดถึงประเทศไทยเป็นพิเศษ เพราะนี่คือประเทศที่มีวัฒนธรรมและผู้คนที่ยอดเยี่ยม ทุกคนให้เกียรติกัน ยิ้มแย้ม และมีพาสชันในเกมฟุตบอล ผมรู้สึกได้ถึงพลังและศักยภาพที่ไปได้ไกลมาก”

 

ในฐานะที่เป็นผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาเทคนิคมาก่อน ฮัตสันบอกว่า หน้าที่ของเขาคือการมองภาพรวมทั้งหมดของฟุตบอลไทย ตั้งแต่ระดับเยาวชนจนถึงทีมชาติชุดใหญ่ เพื่อสร้างระบบที่ต่อเนื่องให้ทุกชุดเดินไปในทิศทางเดียวกัน

 

เขาย้ำว่า จุดสำคัญคือการสร้างวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ของทีมชาติไทยให้ชัดเจน เพื่อให้นักเตะเติบโตตามเส้นทางที่ถูกต้อง ไม่ว่าจะอยู่ในรุ่นอายุใด

 

“สิ่งที่เราทำอยู่ ไม่ใช่ ‘Hudson Way’ แต่คือการทำงานร่วมกันของโค้ชไทยที่มีประสบการณ์ เราคุยกัน วิเคราะห์กัน จนตกผลึกว่าอะไรคือจุดแข็งของนักเตะไทย และจะใช้สิ่งนั้นสร้างทีมชาติให้แข็งแกร่งที่สุด”

 

เขาทิ้งท้ายด้วยคำหวานผ่านความรู้สึกต่อวงการลูกหนังไทยว่า “ที่นี่แตกต่างจากหลายประเทศ เพราะทีมงานทุกคนทุ่มเทและรักฟุตบอลมาก ทุกคนทำงานหนักเพื่อให้ฟุตบอลไทยพัฒนา เหมือนกับแฟนบอลที่รักทีมชาติ ผมรู้สึกจริงๆ ว่าที่นี่พิเศษกว่าที่ไหนๆ”

 

ทีมชาติไทย เริ่มนับ 1 กับ แอนโธนี ฮัตสัน ผู้มาพร้อมภารกิจฟื้นศรัทธา บอลไทย 3

 

เป้าหมาย กับ สัญญา (เฉพาะกิจ)

 

เมื่อถูกถามเรื่องของสัญญา หรืออายุงาน ฮัตสัน ยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่า การเข้ามารับตำแหน่งครั้งนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว จนทุกอย่างยังอยู่ระหว่างการพูดคุยและจัดการเอกสาร

 

“ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก ผมได้รับทราบพร้อมๆ กับทุกคน (เรื่องปลดอิชิอิ และเข้ามารับตำแหน่ง) และตอนนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการพูดคุยเรื่องสัญญาและการเซ็นอย่างเป็นทางการ”

 

ฮัตสันเรียกภารกิจนี้ว่าเป็นเพียงสัญญาเฉพาะกิจที่มีเป้าหมายชัดเจน คือพาทีมชาติไทยคว้าชัยใน 2 นัดสำคัญกับ ศรีลังกา และ เติร์กเมนิสถาน เพื่อผ่านเข้ารอบไปเล่นรอบสุดท้ายของเอเชียนคัพ 2027

 

“ผมเคยอยู่ในสถานการณ์แบบนี้มาแล้วทั้งกับบาห์เรนและสหรัฐฯ ที่ต้องชนะเพื่อเข้ารอบต่อไป ผมมั่นใจว่าเราทำได้ เพราะเรามีนักเตะที่มีศักยภาพสูง และถ้าเรามีทัศนคติที่ถูกต้อง เราจะคว้าผลลัพธ์ที่ต้องการแน่นอน”

 

นอกจากนี้ ฮัตสันยังยอมรับว่ายังเร็วเกินไปที่จะตอบชัดถึงรูปแบบการเล่นหรือรายละเอียดของทีมงานสต๊าฟโค้ชในตอนนี้ แม้จะมีไอเดียในใจอยู่บ้างแล้ว ส่วนทีมงาน จะพยายามเฟ้นหาคนที่เหมาะสมและดีที่สุดมาทำงานร่วมกัน

 

สำหรับรายการสำคัญอย่าง อาเซียนคัพ 2026 ฮัตสันพูดชัดเจนว่า มาตรฐานของทีมชาติไทยไม่ควรมีทางเลือกอื่นนอกจากการ ‘เป็นแชมป์’ แบบไม่มีข้อยกเว้น

 

ช้างศึก ‘ยุคฮัตสัน’ จะเรียกแข้งเก๋ากลับมาหรือไม่?

 

อีกหนึ่งคำถามที่แฟนบอลไทยอยากรู้คือ ในยุคของ แอนโธนี ฮัตสัน ทีมชาติไทยจะเดินตามแนวทางของ มาซาทาดะ อิชิอิ ที่เน้นผลักดันผู้เล่นรุ่นใหม่เต็มตัว หรือจะเปิดโอกาสให้นักเตะประสบการณ์สูงกลับมามีบทบาทในทีมอีกครั้ง?

 

ฮัตสันตอบอย่างชัดเจนว่า เขาเชื่อมั่นในศักยภาพของนักเตะเยาวชน แต่ก็ย้ำว่านักเตะรุ่นพี่ยังมีบทบาทและความสำคัญไม่แพ้กัน

 

“ผมเชื่อมั่นในตัวนักเตะเยาวชน ทุกคนที่มีความสามารถและทัศนคติที่ถูกต้องย่อมมีโอกาสลงเล่น แต่ฟุตบอลทีมชาติต้องการสมดุล นักเตะประสบการณ์สูงก็มีบทบาทสำคัญเช่นกัน”

 

เขาอธิบายว่า นอกจากฟอร์มการเล่นในสนามแล้ว สิ่งที่รุ่นพี่มอบให้คือ ‘มาตรฐาน’ และ ‘แบบอย่าง’ ทั้งในและนอกสนาม โดยเฉพาะเมื่อต้องออกไปเล่นเกมเยือนต่างแดน ซึ่งเต็มไปด้วยความท้าทายเรื่องสภาพแวดล้อมและการปรับตัว

 

“นักเตะอายุน้อยอาจเปราะบางต่อการเปลี่ยนแปลง แต่รุ่นพี่จะช่วยแนะนำและพยุงทีมให้ผ่านช่วงเวลาเหล่านั้นได้ การมีพวกเขาอยู่ในทีมคือส่วนสำคัญของการรักษามาตรฐานและเป้าหมายที่เราตั้งไว้”

 

การรับมือกับแรงกดดัน และกระแสต่อต้านของแฟนบอล

 

หลังได้รับการแต่งตั้ง อีกสิ่งที่ ฮัตสันต้องเผชิญทั้งแรงกดดันมหาศาลและกระแสต่อต้านจากแฟนบอลไทยจำนวนมาก แต่เขากลับเลือกมองมันในเชิงบวกมากกว่ายกมาเป็นอุปสรรคทับตัวเอง

 

“ผมรับงานนี้เพราะผมรักประเทศไทยจริงๆ รักในวัฒนธรรมและผู้คน ไม่ได้พูดเพราะมีคนไทยอยู่เต็มห้อง แต่เพราะผมสัมผัสได้ว่าทุกคนมีแพชชั่นกับฟุตบอล ผมอยากให้ทีมชาติไทยเล่นอย่างภาคภูมิใจ เช่นเดียวกับแฟนบอลที่ภูมิใจในทีมของพวกเขา”

 

ขณะเดียวกันเขายอมรับว่าทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว จนหลายอย่างยังต้องหารือและปรับการทำงานร่วมกับฝ่ายเทคนิค แต่สิ่งที่ชัดเจนคือ เขาแคร์แฟนบอลไทยและเข้าใจทุกเสียงวิจารณ์

 

“ตลอด 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีเรื่องราวมากมาย แต่สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าทุกคนรักฟุตบอลไทย และอยากให้ฟุตบอลไทยมีผลงานดีเสมอ ไม่ว่าจะกระแส หรือปฏิกิริยาของแฟนบอล ผมเองก็เป็นคนที่แคร์แฟนบอล เช่นเดียวกับนายกสมาคมฯ ก็อยากแสดงให้เห็นว่าทุกคนแคร์ฟุตบอลไทยจริงๆ

 

“อีกสิ่งผมเคารพทุกคอมเมนต์ ที่แสดงเข้ามาจากแฟนบอล หวังว่าวันหนึ่งผมจะทำให้ได้ ในการพาทีมชาติไทยเข้ารอบเอเชียน คัพ ทำให้แฟนบอลทุกคนภูมิใจกับฟอร์มการเล่น และผลการแข่งขันที่ทีมชาติไทยแสดงออกมา”

 

ทีมชาติไทย เริ่มนับ 1 กับ แอนโธนี ฮัตสัน ผู้มาพร้อมภารกิจฟื้นศรัทธา บอลไทย 4

 

คำถามยอดฮิต! ทีมชาติไทยยังฝันไปบอลโลกได้หรือไม่?

 

เมื่อถูกถามถึงคำถามที่แฟนบอลไทย (อาจจะยัง) อยากได้ยินที่สุด ทีมชาติไทยยังมีโอกาสไปฟุตบอลโลกหรือไม่

 

ฮัตสันตอบด้วยความเชื่อมั่นว่า “ผมเชื่อว่าเราสามารถไปได้ แต่…สิ่งที่ต้องทำต่อคือการพัฒนาในทุกมิติ ทั้งเพิ่มจำนวนแมตช์แข่งขัน การสร้างระบบเยาวชน และการพัฒนาโค้ชในแต่ละระดับ สิ่งเหล่านี้จะทำให้เราก้าวใกล้ฟุตบอลโลกมากขึ้น”

 

ข้อความถึงแฟนบอลไทย

 

แอนโธนี ฮัตสัน ฝากข้อความถึงแฟนบอลไทย โดยเขาย้ำถึงความเข้าใจดีว่านี่คือช่วงเวลาที่ยาก ทั้งสำหรับทีมชาติไทยและคนที่รักทีมนี้

 

“ผมเข้าใจแฟนบอลทุกคนว่านี่คือช่วงเวลาที่ยาก แต่ผมขอเวลาในการพิสูจน์ตัวเองอย่างเต็มที่ ทั้งผม ทีมงานสตาฟฟ์ และนักเตะทุกคน เราจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เพื่อเอาชนะใจแฟนบอลไทย และสร้างความเชื่อมั่นกลับมาอีกครั้ง หวังว่าเมื่อเวลาผ่านไป ทุกคนจะเปิดใจ ยอมรับ และภูมิใจกับฟุตบอลไทยในแบบที่เราอยากให้เห็น”

 

สำหรับโปรแกรมต่อไปของทีมชาติไทยชุดใหญ่ จะกลับมาลงสนามในช่วง ฟีฟ่าเดย์ เดือนพฤศจิกายน 2568

  • นัดอุ่นเครื่องกับ ทีมชาติสิงคโปร์ (อันดับ 155 โลก) วันที่ 13 พฤศจิกายน 2568 ที่สนามกีฬาธรรมศาสตร์ รังสิต เวลา 19.30 น.
  • ต่อด้วยการบุกเยือน ทีมชาติศรีลังกา (อันดับ 193 โลก) ในศึก เอเชียน คัพ 2027 รอบคัดเลือก

 

       

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising