วันนี้ (21 ตุลาคม) ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้สัมภาษณ์ถึงการถูกกล่าวหาว่ามีความเชื่อมโยงกับแก๊งสแกมเมอร์ว่า ก่อนเข้าสู่ตำแหน่งทางการเมือง ตนชี้แจงบัญชีทรัพย์สิน มีสำนักข่าวโจมตีว่าร่ำรวย มีบริษัทมากกว่า 20 แห่ง ในตอนนั้นตนเป็นนักการเมืองสมัครเล่นการชี้แจงบัญชีทรัพย์สินจึงมีปัญหาบ้าง และยืนยันว่ามีเงินก่อนมาเล่นการเมือง
ร.อ. ธรรมนัสระบุอีกว่า ตนไม่เคยปฏิเสธว่าเป็นคนทำธุรกิจรถเมล์เกือบ 300 คัน และมีธุรกิจด้านสลากกินแบ่งรัฐบาล ธุรกิจตลาดสด อสังหาริมทรัพย์ แต่ไม่เคยทำธุรกิจที่อยู่บนความเดือดร้อนของประชาชน และสิ่งสำคัญที่สุดในรัฐบาลชุดที่แล้วคือการเข้ามาเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) เป็นฝ่ายตรวจสอบ ตนได้ให้ข้อมูลกับสำนักงานตำรวจไซเบอร์จนเป็นที่มาที่ไปของการออกหมายจับ หมายค้นผู้ที่เกี่ยวข้อง
ร.อ. ธรรมนัสยืนยันว่า ตนไม่เคยประกอบอาชีพสีเทา ส่วนเรื่องเก่าๆ ที่เคยผ่านกระบวนการยุติธรรมมาแล้ว ยอมรับที่ถูกกล่าวหา พาดพิง แต่ไม่ได้ทำความผิด ไม่ได้ใช้วิธีปิดปาก แต่เป็นการฟ้องให้เกิดความกระจ่างว่าเราไม่ใช่ ซึ่งส่วนตัวเป็นคนที่เข้าหาง่าย และไม่เคยกีดกันว่าเป็นคนเพศไหน วัยไหน สัญชาติใด เพราะเราเป็นคนไม่ถือตัว
ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้านกล่าวหาว่ามีความเชื่อมโยงกับเบน สมิธ เมาเออร์เบอร์เกอร์ และเชื่อมโยงกับแก๊งสแกมเมอร์ นั้น ร.อ. ธรรมนัสระบุว่า ตนได้ชี้แจงกับสำนักข่าวอิศราแล้ว ยืนยันว่าไม่มีอะไรปิดบัง พูดกันตรงไปตรงมาด้วยข้อมูล และสิ่งสำคัญที่สุดอย่าเพิ่งกล่าวหาว่า เบน สมิธ เป็นแก๊งสแกมเมอร์ตามกฎหมายคว่ำบาตรของสหรัฐอเมริกา เพราะกฎหมายยังไม่บังคับใช้ ต้องให้เขาพิสูจน์ตนเองก่อน พร้อมปฏิเสธว่า รายชื่อที่นายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่าเคยขอสัญชาติไทย มีความเชื่อมโยงกับแก๊งสแกมเมอร์ เป็น เบน สมิธ
ส่วนการที่ รังสิมันต์ โรม สส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน เสนอให้นายกรัฐมนตรี ปลด ร.อ. ธรรมนัส ออกจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) นั้น ร.อ. ธรรมนัสยืนยันว่า ผู้แต่งตั้งคือนายกรัฐมนตรี และตนอยู่ทั้งฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหาร พร้อมตรวจสอบและทำหน้าที่ฝ่ายบริหารให้ดีที่สุด ซึ่งหากตนมีปัญหาก็พร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมด้วยตัวเอง เพราะไม่ชอบเป็นภาระใคร
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการเข้าไปชี้แจงเรื่องดังกล่าวในคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐฯ (กมธ.) ด้วยหรือไม่ ร.อ. ธรรมนัสระบุว่า เพียงว่า ตนไม่มีวันหยุดเลย กลับเข้าบ้านก็ดึกแล้วตื่นเช้าก็มาทำงานต่อ
ไม่ท้อถูกรุมโจมตีทุกยุค แจงความสัมพันธ์ ‘กัน จอมพลัง’ เคมีตรงกัน
ร.อ. ธรรมนัสยังกล่าวถึงกรณีที่ รักชนก ศรีนอก สส. กทม. พรรคประชาชน ออกมาเปิดเผยถึงเรื่องที่ กัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง ลงพื้นที่ด้วยการใช้เฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่า ครั้งที่ตนเคยดำรงตำแหน่งเป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ อาจจะไม่มี แต่ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับหน่วยงานราชการ เราทำงานร่วมกับหลายหน่วยไม่ใช่เพียงแค่กับกัน จอมพลัง
ส่วนที่ว่ามีหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรฯ ออกมาให้ข้อมูลว่า มีการจัดสรรงบประมาณแบบวิธีเฉพาะเจาะจงกว่าหมื่นโครงการ ร.อ. ธรรมนัสปฏิเสธว่า ไม่มี และโครงการของกระทรวงเกษตรฯ โปร่งใสตรวจสอบได้ ในยุคที่ตนเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ ไม่มีซอยงบ แต่บางโครงการเป็นเรื่องเร่งด่วนในการแก้ปัญหา หรือเป็นเรื่องของความเหมาะสมในการหา CHR ซึ่งเป็นนโยบายของพรรคกล้าธรรมอยู่แล้ว ย้ำว่า ไม่มีที่จะเฉพาะเจาะจงใคร
ส่วนที่ รักชนก ออกมาเปิดเผยความสัมพันธ์ระหว่าง กัน จอมพลัง กับ ร.อ. ธรรมนัสว่าอาจจะมีการช่วยเหลือกันนั้น ร.อ. ธรรมนัสระบุว่า ไม่มี กัน จอมพลัง เป็นคนชอบช่วยเหลือประชาชน มีโอกาสมาเจอกันตอนลงพื้นที่และเคมีตรงกัน จึงมีความสนิทสนมกัน อะไรที่เรามีเครือข่ายสนับสนุนได้ก็สนับสนุนเต็มที่ แต่ไม่ใช่เป็นปัจจัยเรื่องเงินทอง
ร.อ. ธรรมนัส กล่าวด้วยว่า ต้องชื่นชม รักชนก รวมถึง รังสิมันต์ โรม สส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ว่าเป็นคนเก่งในเรื่องการประชาสัมพันธ์พรรคในการทำงาน ที่จะสะกิดให้สังคมเห็นบางสิ่งบางอย่างที่ไม่ถูกต้อง ฉะนั้นอะไรที่เป็นเรื่องดีเราต้องชื่นชม
ส่วนที่ถูกเอาชื่อไปเชื่อมโยงเป็นเป้าความขัดแย้งทางการเมืองหรือกลุ่มทุน ร.อ. ธรรมนัสระบุว่า เราต้องเข้าใจว่าการเป็นนักการเมืองใครมีแสงใครไม่มีแสง ใครมีแสงเยอะถูกดับแสงไปบ้างเป็นเรื่องปกติ พร้อมย้ำว่า ตนที่เป็น สส. ที่คนพะเยาเลือกมา 5 หมื่นกว่าเสียงก็ไม่ธรรมดา และเข้ามาเพื่อแก้ไขความเดือดร้อนให้กับประชาชน ยืนยันว่า ชอบที่ตกเป็นเป้าทุกยุค และสนุกดี ไม่งั้นชีวิตก็ไม่มีรสชาติ
‘วรภัค’ เตรียมตั้งโต๊ะแถลงข่าวปมเอี่ยวสแกมเมอร์
ด้าน วรภัค ธันยาวงษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีที่ถูกเชื่อมโยงว่า เป็น 1 ใน 7 นักการเมืองเอี่ยวสแกมเมอร์ในกัมพูชาว่า “หากมีโอกาสจะมีการแถลงข่าว”