×

AMCHAM เข้าพบนายกฯอนุทิน แลกเปลี่ยนมุมมองธุรกิจสหรัฐฯ ในไทย ชูไทยเป็นศูนย์กลางดิจิทัล-การเงิน-สุขภาพ

โดย THE STANDARD TEAM
21.10.2025
  • LOADING...
COVER - AMCHAM Promotes Thai Digital Hub

วานนี้ (20 ตุลาคม) ที่ ทำเนียบรัฐบาล ไฮดี้ แกลแลนท์ กรรมการบริหารหอการค้าอเมริกันในประเทศไทย (AMCHAM) และอรกัญญา พิบูลธรรม รองประธาน AMCHAM นำคณะผู้บริหารและบริษัทสมาชิกกว่า 30 แห่ง จากหลากหลายสาขาธุรกิจ

 

อาทิ การเงิน (Bank of America, Citibank, MasterCard) ยานยนต์ (Ford Motor) พลังงาน (Chevron, Dow Thailand) อาหาร (Coca-Cola) สาธารณสุข (Pfizer, Johnson & Johnson) และเทคโนโลยี (AWS, Meta) เข้าพบหารือกับ อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับคำแนะนำและอุปสรรคของการดำเนินธุรกิจของบริษัทสหรัฐฯ ในประเทศไทย รวมถึงแนวทางการส่งเสริมเศรษฐกิจของไทย

 

สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการหารือว่า นายกรัฐมนตรีได้กล่าวต้อนรับและยืนยันว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับการลงทุนจากสหรัฐฯ ซึ่งเป็นพันธมิตรทางเศรษฐกิจที่สำคัญ โดยรัฐบาลมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมความโปร่งใส ปรับปรุงขั้นตอนการอำนวยความสะดวกทางธุรกิจ (Ease of Doing Business) และลดอุปสรรคเชิงโครงสร้าง เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน

 

ด้านรองประธาน AMCHAM ได้กล่าวถึงบทบาทของหอการค้าฯ ในการสนับสนุนธุรกิจสหรัฐฯ ในไทย และให้ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายแก่รัฐบาลไทย โดยเน้นการพัฒนาทักษะแรงงานไทยให้สอดรับกับความต้องการของตลาดโลก เพื่อดึงดูดการลงทุน และยังกล่าวชื่นชมการผลักดันนโยบายที่เป็นรูปธรรมของนายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะโครงการคนละครึ่งพลัส ที่ได้รับการตอบรับอย่างดี

 

ในการหารือ ตัวแทนบริษัทเอกชนสหรัฐฯ ได้แสดงความมุ่งมั่นต่อการดำเนินธุรกิจในไทย และพร้อมสนับสนุนผู้ประกอบการไทย โดยได้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นสำคัญ:

 

  • ด้านการลงทุนและเทคโนโลยี: เสนอให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตและโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่สำคัญของโลก โดยชี้ถึงศักยภาพของไทยในการผลิตฮาร์ดดิสก์และเทคโนโลยีจัดเก็บข้อมูลที่มีเสถียรภาพสูงเพื่อรองรับ Data center ระดับโลกที่ขับเคลื่อนด้วย AI และระบบคลาวด์ พร้อมระบุว่าบริษัทได้เปิดตัว Data Center Region ในไทยเมื่อต้นปี 2025 ซึ่งจะสร้างงานทักษะสูงกว่าหมื่นตำแหน่ง และพร้อมร่วมมือ 3 ด้านหลัก: การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล, ยุทธศาสตร์ปัญญาประดิษฐ์แห่งชาติ, และการเจรจานโยบายดิจิทัลระหว่างประเทศ
  • ด้านการเงิน: สนับสนุนให้ไทยยกระดับศักยภาพทางการเงินสู่เวทีโลก โดยเสนอให้เร่งสร้างการรับรู้ในเวทีโลก ปรับปรุงอันดับในดัชนีการลงทุนสากล และผ่อนคลายกฎระเบียบเพื่อดึงดูดเงินทุนต่างประเทศ พร้อมทำงานร่วมกับรัฐบาลเพื่อขับเคลื่อนไทยสู่ศูนย์กลางการเงินระดับภูมิภาค
  • ด้านพลังงาน: เชื่อมั่นในศักยภาพของไทย และพร้อมสนับสนุนบุคลากรไทยอย่างต่อเนื่อง เสนอให้มีการเสริมสร้างความต้องการใช้พลังงานภายในประเทศ ส่งเสริมการปฏิรูปด้านพลังงาน และพัฒนาแหล่งพลังงานสะอาด เพื่อสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อการลงทุนอย่างยั่งยืน
  • ด้านสาธารณสุข: พร้อมสนับสนุนให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางด้านการดูแลสุขภาพของภูมิภาค ผ่านความร่วมมือด้านนวัตกรรมยาและเทคโนโลยีทางการแพทย์
  • ด้านอาหาร: มีความเชื่อมั่นในศักยภาพด้านอาหารและพืชผลเกษตรของไทย พร้อมสนับสนุนการพัฒนาซัพพลายเชน ลดความซับซ้อนของกฎระเบียบ และแบ่งปันองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีการผลิตอาหารและเกษตรสมัยใหม่ เพื่อยกระดับมาตรฐานสินค้าไทยสู่ระดับโลก

 

ด้าน ศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า รัฐบาลมีทิศทางและยุทธศาสตร์ที่ชัดเจน โดยเร่งดำเนินงานตามแนวทางQuick Big Win และจะนำข้อคิดเห็นของภาคเอกชนสหรัฐฯ ไปปรับปรุงกฎระเบียบให้เอื้อต่อการลงทุนในด้านเทคโนโลยี ความยั่งยืน และความโปร่งใส พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนประเทศไทยสู่เศรษฐกิจมูลค่าสูง (High-Value Economy) เศรษฐกิจสีเขียว และเศรษฐกิจดิจิทัล

 

ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรีย้ำว่า รัฐบาลพร้อมรับฟัง ปรับปรุง และเดินหน้าร่วมกับภาคเอกชนสหรัฐฯ ในฐานะพันธมิตรที่แท้จริง และเชื่อมั่นว่าการหารือในครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นระหว่างไทยและสหรัฐฯ ในอนาคต

 

B02_20Oct B03_20Oct B04_20Oct B05_20Oct B06_20Oct B07_20Oct B08_20Oct

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising