โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาเผยว่า นเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดียเห็นพ้องว่า อินเดียจะหยุดนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย ซึ่งทรัมป์มองว่า นี่จะเป็น ‘ก้าวสำคัญ’ ในการตัดรายได้ด้านพลังงานของรัสเซีย ซึ่งเป็นหนึ่งในท่อน้ำเลี้ยงหลักของรายได้ที่จะนำไปใช้ในสงครามรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งดำเนินมานานกว่า 3 ปี 7 เดือนแล้ว
ทรัมป์ยอมรับว่า อินเดียไม่สามารถหยุดการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียได้ในทันที แต่เขาเชื่อมั่นว่า การนำเข้าพลังงานนี้จะยุติลงในไม่ช้า ที่ผ่านมาอินเดียและจีนเป็นผู้ซื้อน้ำมันดิบทางทะเลรายใหญ่ที่สุดสองอันดับแรกของรัสเซีย โดยใช้ประโยชน์จากราคาส่วนลดที่รัสเซียถูกบังคับให้ยอมรับ หลังจากการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป เนื่องจากการรุกรานยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ 2022
ขณะที่รัสเซียเป็นซัพพลายเออร์น้ำมันอันดับหนึ่งของอินเดีย ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา รัสเซียส่งออกน้ำมันไปยังอินเดีย 1.62 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งคิดเป็นประมาณ 1 ใน 3 ของการนำเข้าน้ำมันทั้งหมดของอินเดีย
อินเดียพึ่งพาน้ำมันดิบรัสเซีย ซึ่งซื้อในราคาที่ลดลง เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจของตนเอง โดยเจ้าหน้าที่อินเดียระบุว่า การนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย มีความสำคัญต่อความมั่นคงด้านพลังงานของชาติอย่างมาก
ทรัมป์มุ่งเป้าไปที่การตัดช่องทางรายได้หลักของรัสเซีย เพื่อกดดันให้รัสเซียเจรจาข้อตกลงสันติภาพในยูเครน หลังจากที่ความพยายามก่อนหน้านี้ยังไม่ประสบผลสำเร็จเป็นรูปธรรมมากนัก
ที่ผ่านมา ทรัมป์ได้ใช้ มาตรการภาษีกับสินค้าส่งออกของอินเดียไปยังสหรัฐฯ เพื่อขัดขวางการซื้อน้ำมันดิบเหล่านี้ โดยทรัมป์เรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากอินเดีย 25% หลังจากที่ทั้งสองประเทศไม่สามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้าเบื้องต้นได้ และตามมาด้วย ภาษีเพิ่มเติมอีก 25% เนื่องจากการซื้อน้ำมันรัสเซีย
อินเดียแสดงความไม่พอใจต่อมาตรการนี้ เนื่องจากประเทศผู้ซื้อน้ำมันรัสเซียรายใหญ่อื่นๆ เช่น จีนหรือตุรกีต่างไม่ได้รับผลกระทบจากภาษีที่คล้ายคลึงกันนี้ เป็นเหตุให้ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา โมดีพยายามต้านทานแรงกดดันจากสหรัฐฯ พร้อมเน้นย้ำว่า อินเดียมีท่าที ‘เป็นกลาง’ในสงครามรัสเซีย-ยูเครน
หลังจากได้รับคำมั่นจากผู้นำอินเดียแล้ว เป้าหมายต่อไปของทรัมป์คือ การให้จีนหยุดนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการกดดันอินเดียอย่างหนัก แต่ในกรณีของจีน ทรัมป์มักจะหลีกเลี่ยงการกดดันที่คล้ายคลึงกันนี้ต่อจีน เนื่องจากความสัมพันธ์ทางการค้ากับจีนมีความซับซ้อน และทรัมป์ไม่ต้องการเพิ่มความเสี่ยงที่จะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ-จีนตึงเครียดมากยิ่งขึ้น
สงครามรัสเซีย-ยูเครน และสงครามอิสราเอล-ฮามาส ถือเป็นสองสงครามใหญ่ที่ทรัมป์พยายามจะยุติความขัดแย้งและหาทางออกที่ยั่งยืนให้กับคู่ขัดแย้งเหล่านี้
ภาพ: Andrew Harnik / Getty Images
อ้างอิง: