×

เงินบาทอ่อนค่าหนักสุดรอบ 2 เดือน ความสัมพันธ์ ‘บาทกับทองคำ’ หายไปไหน?

15.10.2025
  • LOADING...
เงินบาทอ่อนค่าหนักสุดรอบ 2 เดือน ความสัมพันธ์ ‘บาทกับทองคำ’ หายไปไหน?

เงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เริ่มมีทิศทาง ‘อ่อนค่า’ โดยแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 2 เดือนไปแล้ว ด้านนักวิเคราะห์มองเงิน บาทมีโอกาสที่จะอ่อนค่าแตะระดับ 33 บาทต่อดอลลาร์ ท่ามกลางภาวะที่ความสัมพันธ์ (Correlation) ระหว่างบาทกับทองคำที่ ‘ลดลง’ อย่างมีนัยสำคัญ

 

เปิดสาเหตุดัน ‘บาทอ่อน’

 

เงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เริ่มมีทิศทาง ‘อ่อนค่า’ โดยเมื่อช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ถึงต้นสัปดาห์นี้เงินบาทเคยเคลื่อนไหวไปแตะระดับ 32.80 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 2 เดือนอยู่หลายครั้ง โดยพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย มองว่า สาเหตุที่ทำให้เงินบาทช่วงนี้เริ่มอ่อนค่ามาจากโฟลว์ทองคำในช่วงที่ทองคำมีจังหวะย่อตัวลง ทำให้ผู้เล่นบางส่วนได้เข้าไปซื้อทองคำ ซึ่งเป็นแรงกดดันค่าเงินบาทให้อ่อนค่าลง

 

ทั้งนี้ เมื่อราคาทองคำลง คนไทยจะซื้อทอง ทำให้ร้านทองต้องไปซื้อทองคำในตลาดต่างประเทศ และนำเงินบาทไปแลกเป็นสกุลต่างประเทศ ทำให้เงินบาทอ่อนค่า

 

นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐฯ ก็กลับมาแข็งค่า โดยพูนมองว่า ปัจจัยสนับสนุนการแข็งค่าของดอลลาร์ช่วงนี้ ได้แก่ ความไม่แน่นอน (Uncertainty) ในการเมืองของญี่ปุ่นและฝรั่งเศส นอกจากนี้ ยังมีการปรับสถานะของนักลงทุน ที่ก่อนหน้านี้มองว่า ดอลลาร์จะอ่อน (Short ดอลลาร์) มาเกือบตลอดทั้งปี แต่ปัจจุบัน นักลงทุนเริ่มปรับลดสถานะ Short ดอลลาร์นี้ลง จึงมีส่วนทำให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

 

พูนกล่าวอีกว่า แม้ปัจจัยหลักที่ทำให้บาทอ่อนจะมีน้ำหนักมาจากปัจจัยต่างประเทศเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม แรงขายสินทรัพย์ไทยก็มีส่วนทำให้บาทอ่อนบ้าง โดยเฉพาะแรงเทขายหุ้น โดยตั้งแต่เดือนกันยายนนะครับ ต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 1.7 หมื่นล้านบาทแล้ว ณ วันที่ 14 ตุลาคม 2568

 

โดยพูนยังมองว่า แรงขายหุ้นไทยยังมีลักษณะที่ค่อนข้างกระจาย ส่วนหนึ่งอาจเป็นผลจากความไม่แน่นอนของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ไปจนถึงการ Rebalance เพื่อทำกำไรจากตลาดเอเชีย

 

มองบาทยังอ่อนค่าสอดคล้องภูมิภาค

 

กระนั้น พูนยังมองว่า การอ่อนค่าของบาทสอดคล้องกับภูมิภาค อย่างไรก็ตาม บาทไทยมีความอ่อนไหวกับราคาทองคำมากกว่าประเทศอื่น ตัวอย่างเช่น หยวนอ่อนค่าเพียงเล็กน้อย แม้มีประเด็นเรื่องสงครามการค้ากับสหรัฐฯ ส่วนเงินริงกิตมาเลเซียก็อ่อนค่า แต่ไม่เท่ากับค่าเงินบาทของไทย

 

เจาะการเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์ (Correlation) ระหว่างบาทกับทองคำ

 

พูนตั้งข้อสังเกตว่า ผู้เล่นในตลาดมีมุมมองตลาดต่อค่าเงินบาทเปลี่ยนไป โดยในช่วงก่อนหน้านี้ที่เงินบาทค่อนข้างแข็งเป็นผลมาจากสถานะมองบาทแข็ง (Long เงินบาท) ของนักลงทุน

 

อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา ค่าเงินบาทเริ่มกลับเทรนด์มาเป็นอ่อนค่า ท่ามกลางแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในระยะข้างหน้าที่ดูไม่ค่อยดี และการกลับมาแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐฯ

 

นอกจากนี้ พูนยังมองว่า ความสัมพันธ์ (Correlation) ระหว่างบาทกับทองคำมีการเปลี่ยนแปลง และลดลง ‘อย่างมีนัยสำคัญ’ ตั้งแต่ช่วงประมาณกลางเดือนกันยายน

 

“จริงๆ ตั้งแต่ช่วงเดือนที่ผ่านมา ทองขึ้นไม่หยุด ปกติถ้าความสัมพันธ์เหมือนเดิมบาทจะต้องไม่อ่อนเยอะ” พูนกล่าว

 

โดย ณ วันที่ 10 ตุลาคม ความสัมพันธ์ (Correlation) ระหว่างทองคำกับเงินบาทอยู่ที่ 0.5 ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 1 ปี ที่อยู่ที่ประมาณ 0.65 ขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่าง บาทกับดอลลาร์อยู่ที่ 0.6 กว่า ซึ่งยังใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ย

 

เงินบาทอ่อนค่าหนักสุดรอบ 2 เดือน ความสัมพันธ์ ‘บาทกับทองคำ’ หายไปไหน? 1 เงินบาทอ่อนค่าหนักสุดรอบ 2 เดือน ความสัมพันธ์ ‘บาทกับทองคำ’ หายไปไหน? 2

 

เปิดสาเหตุของการเปลี่ยนแปลง Correlation ของเงินบาท-ทองคำ

 

พูนมองว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ความสัมพันธ์ (Correlation) ระหว่างทองคำกับเงินบาทลดลง มาจากการดำเนินการของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ออกมาสอดส่องความสัมพันธ์ระหว่างบาทกับทองคำ ทำให้ผู้เล่นต่างชาติ โดยเฉพาะ Systematic Hedge Fund ซึ่งก่อนหน้านี้ใช้ความสัมพันธ์ระหว่างบาทกับทองคำในการซื้อขาย (Correlation Trade) ลดใช้กลยุทธ์ดังกล่าวลง ส่งผลให้โฟลว์ส่วนนี้หายไป

 

โดยความเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้ “ความสัมพันธ์ในฝั่งทองขึ้นแล้วบาทแข็ง ‘ไม่เกิด’ แต่ในฝั่งความสัมพันธ์ในฝั่งทองลงแล้วบาทอ่อน ‘ยังอยู่’ ซึ่งฝั่งขานี้ไม่หายไป เนื่องจากเป็นฝั่งที่สะท้อนถึงความต้องการ (Demand) การซื้อทองของคนไทยจริงๆ” พูนกล่าว

 

เงินบาทอ่อนค่าหนักสุดรอบ 2 เดือน ความสัมพันธ์ ‘บาทกับทองคำ’ หายไปไหน? 3

 

จับตา! บาทผันผวนเพิ่มขึ้น

 

พูนกล่าวอีกว่า ความผันผวนของค่าเงินบาทในช่วง 1 เดือน ได้เพิ่มสูงขึ้น แต่ยังไม่ถึงระดับที่สูงมากเมื่อเทียบกับช่วงต้นปี โดยความผันผวนของเงินบาทในรอบ 1 เดือน อยู่ที่ประมาณ 6-7% นับว่ายังต่ำกว่า ค่าเฉลี่ยความผันผวนของปีนี้ (Year-to-Date) อยู่ที่ประมาณ 8% ขณะที่จุดสูงสุดที่เคยเห็นในปีนี้อยู่ที่ประมาณ 10% ในช่วงที่มีความกังวลเรื่องสงครามการค้า (Trade War)

 

บาทมีโอกาสอ่อนค่าถึงระดับ 33 บาทต่อดอลลาร์

 

พูนกล่าวอีกว่า บาทมีโอกาสที่จะอ่อนค่าแตะระดับ 33 บาทต่อดอลลาร์ โดยปัจจัยที่จะดันไปถึง 33 บาทต่อดอลลาร์ได้ง่ายที่สุดคือการเกิดการปรับฐานของทองคำ (Correction) โดยเฉพาะในช่วงนี้ ซึ่งทองคำขึ้นเร็วและแรงในช่วงระยะสั้น ดังนั้นเวลาปรับฐาน ราคาทองคำก็อาจลงได้ลึกระดับหนึ่ง นอกจากนี้ ยังต้องจับตาการเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐฯ ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางการเมืองของประเทศต่างๆ โดยเฉพาะญี่ปุ่น

 

นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยนโยบายดอกเบี้ยของ Fed โดยหาก Fed สร้างความประหลาดใจ (Surprise) โดยการไม่ลดดอกเบี้ยในเดือนตุลาคมจะทำให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นอย่างมาก เพราะตลาดได้ Price-in การลดดอกเบี้ยไปมากแล้ว

 

อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์ก็ยังมีความเสี่ยงขาลงจากความกังวลเรื่องสงครามการค้า

 

กระนั้น พูนยังมองว่า การยืนอยู่ที่ระดับ 33 บาทต่อดอลลาร์อย่างมั่นคง (Sustained) หรือทะลุไป ‘ไม่ใช่เรื่องง่าย’ และต้องเห็นปัจจัยเพิ่มเติม เนื่องจาก ฝั่งผู้ส่งออก (Exporter) รอทยอยขายดอลลาร์อยู่มากพอสมควร นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดที่มีสถานะมองบาทอ่อน (Short Baht) ก็จะเริ่มทำกำไร (Take Profit) แล้วเช่นกัน

 

นอกจากนี้ ยังต้องจับตาดู Flow บริษัทข้ามชาติ (MNCs) โดยเฉพาะ ญี่ปุ่น (MNCs) เนื่องจากค่าเยน/บาท ‘ถูกมาก’ ทำให้เกิด Flow ซื้อเยนจาก MNCs เยอะ ซึ่งเป็นแรงกดดันให้บาทอ่อนค่าด้วย

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising