13 ตุลาคม 2025 ถือเป็น ‘วันประวัติศาสตร์’ สำหรับชาวอิสราเอลและชาวปาเลสไตน์ หลังทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องในแผนสันติภาพเฟสแรกของโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา จนนำมาสู่การแลกเปลี่ยนตัวประกันและผู้ต้องขังชาวปาเลสไตน์ระหว่างกัน เพื่อปูทางไปสู่การยุติสงครามและสันติภาพที่ยั่งยืนในตะวันออกกลาง
ฮามาสปล่อยตัวประกันทั้งหมด
รถยนต์ของคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC) ทยอยเข้ารับตัวประกันที่ยังมีชีวิตอยู่ทั้ง 20 คนออกจากฉนวนกาซา หลังฮามาสเห็นพ้องปล่อยตัวประกันทั้งหมดตามแผนสันติภาพ ก่อนส่งตัวประกันให้กับกองกำลังอิสราเอล (IDF) เพื่อนำส่งให้กับครอบครัวและตรวจเช็กร่างกายต่อไป
เบื้องต้น อิสราเอลคาดการณ์ว่า ยังมีตัวประกันทั้งหมด 48 คนที่ถูกกลุ่มฮามาสจับกุมตัวไว้ตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม 2023 แต่มีเพียง 20 คนเท่านั้นที่ยังมีชีวิตอยู่ในขณะนี้ โดยร่างของตัวประกันอีก 28 คนจะถูกส่งคืนให้กับฝ่ายอิสราเอล ภายใน 72 ชั่วโมง หลังจากการประกาศหยุดยิงมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา
ตัวประกันทั้งหมดกลับสู่อ้อมกอดของครอบครัวอีกครั้ง หลังถูกจับตัวไปยังฉนวนกาซานานกว่า 2 ปี ท่ามกลางความยินดีของผู้คนจำนวนมากทั่วอิสราเอล โดยเฉพาะที่จัตุรัสเมืองเทลอาวีฟ ฝูงชนจำนวนมากต่างส่งเสียงเชียร์ โบกธงและตะโกนขอบคุณทรัมป์ที่เขามีส่วนสำคัญในการผลักดันสันติภาพครั้งนี้
ผู้ต้องขังและผู้ถูกควบคุมตัวชาวปาเลสไตน์ได้รับการปล่อยตัว
ขณะที่อิสราเอลก็ได้ปล่อยตัวผู้ต้องขังชาวปาเลสไตน์ 250 คนที่ได้รับโทษจำคุกตลอดชีวิตหรือจำคุกระยะยาวในอิสราเอล โดยบางส่วนถูกส่งตัวกลับไปยังเขตเวสต์แบงก์ที่ถูกยึดครอง ซึ่งได้รับการต้อนรับจากครอบครัวและเพื่อนฝูงจำนวนไม่น้อย
จากรายงานของสมาคมผู้ต้องขังปาเลสไตน์ ระบุว่า นักโทษปาเลสไตน์อีกจำนวน 154 คนที่ถูกจำคุกระยะยาวในเรือนจำของอิสราเอลถูกเนรเทศไปยังประเทศอียิปต์ โดยทางการอิสราเอลได้ขอให้เนรเทศนักโทษที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดเกี่ยวกับ ‘การกระทำความรุนแรง’ ไปยังประเทศที่สามแทนที่จะให้กลับไปยังเวสต์แบงก์หรือฉนวนกาซา
นอกจากนี้ชาวปาเลสไตน์อีก 1,718 คน ที่ถูกควบคุมตัวในอิสราเอลโดยไม่มีการตั้งข้อหา ทั้งหมดได้รับการปล่อยตัวและถูกส่งตัวกลับไปยังฉนวนกาซาด้วยรถบัส ตามแผนสันติภาพเฟสแรกที่ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกัน โดยมีประชาชนชาวปาเลสไตน์จำนวนมากมารอรับที่โรงพยาบาลนัสเซอร์ทางตอนใต้ของกาซา
ทรัมป์ในรัฐสภาอิสราเอล
ทรัมป์ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ต่อรัฐสภา ‘คเนสเซต’ ของอิสราเอลนานกว่าหนึ่งชั่วโมง ในระหว่างการเยือนตะวันออกกลางว่า “ฝันร้ายที่ยาวนานและเจ็บปวดได้สิ้นสุดลงแล้ว” พร้อมกับเน้นย้ำว่า “นี่คือรุ่งอรุณแห่งประวัติศาสตร์ของตะวันออกกลางยุคใหม่”
ทรัมป์กล่าวชื่นชมความสำเร็จของข้อตกลงหยุดยิง พร้อมเตือนไม่ให้ เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอลกลับมาทำสงครามอีก เนื่องจากสงครามครั้งใหม่จะ ‘ลดทอน’ มรดกของเนทันยาฮูที่ทิ้งไว้ให้กับสังคมอิสราเอล ทั้งยังเสริมว่า เขาจะถูกจดจำในฐานะผู้ที่นำมาซึ่งการสงบศึก มากกว่าผู้ทำสงคราม หากเขายังปล่อยให้สงครามยังคงดำเนินต่อไป
“อิสราเอล ด้วยความช่วยเหลือของพวกเรา ได้ชนะสิ่งที่กองกำลังทหารจะทำได้ทั้งหมดแล้ว พวกคุณชนะแล้ว…ตอนนี้ถึงเวลาที่จะเปลี่ยนชัยชนะเหล่านี้ที่ต่อสู้กับผู้ก่อการร้ายในสนามรบให้กลายเป็นรางวัลสูงสุด นั่นคือสันติภาพและความเจริญรุ่งเรือง สำหรับทั่วทั้งตะวันออกกลาง”
เนทันยาฮูเคยถูกกล่าวหาว่า พยายามผลักดันให้สงครามในกาซาเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อเลื่อนและเบี่ยงเบนการพิจารณาคดีทุจริตของเขาและปัญหาการเมืองภายในประเทศ ซึ่งเนทันยาฮูได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว
โดยทรัมป์แสดงความมั่นใจล่วงหน้าว่า ข้อตกลงหยุดยิงนี้จะดำเนินต่อไปและสงครามในกาซา ‘ได้สิ้นสุดลงแล้ว’ แม้แผนสันติภาพ 20 ประการของทรัมป์ที่ได้รับแรงสนับสนุนจากอียิปต์ กาตาร์ และตุรกี จะยังมีอีกหลายประเด็นสำคัญที่ยังไม่ได้ข้อสรุปก็ตาม
ประชุมสันติภาพกาซาที่อียิปต์
ทรัมป์เดินทางต่อไปยังเมืองชาร์ม เอล-ชีค ประเทศอียิปต์ เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดว่าด้วยสันติภาพกาซา (Gaza Peace Summit) ซึ่งสหรัฐฯ และอียิปต์เป็นเจ้าภาพร่วมในครั้งนี้ โดยมีผู้นำโลกอีกหลายคนเข้าร่วม เช่น ผู้นำของกาตาร์ จอร์แดน องค์การบริหารปาเลสไตน์ ฝรั่งเศส เยอรมนี และสหราชอาณาจักร
โดยผู้นำโลกร่วมเป็นสักขีพยานพิธีลงนามในปฏิญญาว่าด้วยสันติภาพกาซา ซึ่งทรัมป์ ผู้นำของอียิปต์ กาตาร์ และตุรกีได้ร่วมลงนาม พร้อมทั้งหารือขั้นตอนต่อไปของแผนสันติภาพ ขณะที่เนทันยาฮูระบุว่า เขาก็ได้รับเชิญให้เข้าร่วมการประชุมดังกล่าวเช่นเดียวกัน แต่ไม่ได้เข้าร่วม
ทรัมป์กล่าวว่า “ตอนนี้การฟื้นฟูกำลังจะเริ่มต้นขึ้น” และระบุว่า เจรจาในเฟสสองเกี่ยวกับข้อตกลงสันติภาพกำลังดำเนินไป ขณะที่แผนการบริหารกาซาในอนาคตยังอยู่ระหว่างการพัฒนา โดยมีข้อเสนอให้คณะกรรมการเทคนิคที่ดูแลโดย ‘คณะกรรมการสันติภาพ’ (Board of Peace) ซึ่งทรัมป์จะรับหน้าที่เป็นประธาน จะถูกจัดตั้งขึ้นอย่างรวดเร็ว เพื่อบริหารจัดการดินแดนนี้
โดยคณะกรรมการดังกล่าวจะส่งต่ออำนาจการปกครองให้กับฝ่ายปกครองปาเลสไตน์หลังมีการปฏิรูป อย่างไรก็ตาม ฝ่ายปกครองปาเลสไตน์ยังไม่ได้รับบทบาทสำคัญอย่างเป็นทางการในแผนสันติภาพของทรัมป์ แม้จะเห็นพ้องกับแนวทางปฏิรูปและได้รับการสนับสนุนจากบรรดาประเทศอาหรับ-มุสลิมหลายประเทศ
ประเด็นสำคัญที่ยังหาข้อสรุปไม่ได้ เช่น การปลดอาวุธฮามาส อนาคตของฮามาส การบริหารกาซาหลังสงคราม และขั้นตอนการถอนกำลังทหารของอิสราเอลออกจากฉนวนกาซาโดยสมบูรณ์ ที่ยังต้องเจรจาหารือต่อไปอย่างละเอียด
อย่างไรก็ตาม แผนสันติภาพนี้ก็ถือเป็น ‘ความหวัง’ ที่จะช่วยบรรเทาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอล-ปาเลสไตน์ที่ฝังรากลึกอยู่ในสังคมตะวันออกกลางมาอย่างยาวนานหลายทศวรรษ รวมถึงยุติสงครามอิสราเอล-ฮามาสระลอกล่าสุด ที่ปะทุขึ้นมานานกว่า 2 ปี
ภาพ: Reuters / Getty Images
อ้างอิง:
- https://edition.cnn.com/2025/10/13/middleeast/released-israeli-hostages-peace-summit-intl
- https://www.bbc.com/news/articles/c709jxxrrvlo
- https://www.whitehouse.gov/presidential-actions/2025/10/the-trump-declaration-for-enduring-peace-and-prosperity/
- https://www.theguardian.com/world/2025/oct/14/first-edition-gaza-israel-ceasefire-peace-deal