หลังออกจากแผนฟื้นฟูฯ บมจ. การบินไทย ไม่นานกลับมามีประเด็นร้อนแรงอีกครั้ง หลังมีกระแสข่าวว่ากระทรวงการคลังในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ มีความพยายามจัดการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี (Annual General Meeting: AGM) เป็นครั้งที่สองของปีนี้เพื่อเปลี่ยนแปลงบอร์ดชุดใหญ่ ซึ่งกำลังถูกตั้งคำถามว่าเป็นแผนการเข้า ‘ยึดอำนาจ’ ในการบินไทย หรือไม่
ประเด็นสำคัญ
แหล่งข่าวระดับสูงในภาคตลาดทุน ให้สัมภาษณ์กับ THE STANDARD WEALTH ได้เปิดเผยถึงสถานการณ์ความพยายามในการเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการบริษัทครั้งใหญ่ โดยมีความพยายามต้องการปลด ดร. ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ กรรมการ และอดีตประธานคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ บมจ. การบินไทย กับชาญศิลป์ ตรีนุชกร กรรมการ และอดีตผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ บมจ. การบินไทย ซึ่งทั้ง 2 คนมีส่วนสำคัญในการทำแผนฟื้นฟูกิจการ จนการบินไทยสามารถออกจากแผน
โดยระบุว่ามีความกังวลอย่างยิ่งว่าการเข้าแทรกแซงของกระทรวงการคลังอาจทำให้การบินไทยต้องกลับไปสู่รูปแบบการบริหารจัดการแบบรัฐวิสาหกิจเดิม และอาจนำไปสู่วิกฤตอีกครั้ง
ดร. ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ กรรมการ และอดีตประธานคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ บมจ. การบินไทย
ชาญศิลป์ ตรีนุชกร กรรมการ และอดีตผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ บมจ. การบินไทย
ทั้งนี้ บมจ.การบินไทย ได้ดำเนินการนำหุ้น THAI กลับเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยอีกครั้งอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 4 สิงหาคม ปีนี้ที่ผ่านมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากประสบความสำเร็จจากการฟื้นฟูกิจการ
สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2568 โดยมีรายได้รวม (ไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว) ทั้งสิ้น 44,828 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีรายได้รวม 43,981 ล้านบาท โดยการบินไทย ได้เพิ่มความถี่เที่ยวบินในเส้นทางที่เป็นที่นิยม เช่น เซี่ยงไฮ้, ฮ่องกง และเดนปาซาร์ เป็นต้น ส่งผลให้มีผู้โดยสารรวมในช่วงไตรมาส 2/2568 เป็นจำนวน 3.97 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 4.2% และมีอัตราการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) เฉลี่ยเท่ากับ 77.0% ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 73.2% จากการปรับเครือข่ายเส้นทางบินที่เหมาะสมเพื่อรองรับปริมาณความต้องการการเดินทางของผู้โดยสารที่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการสร้างพันธมิตรผ่านการทำรหัสเที่ยวบินร่วม (Codeshare)
พบพิรุธมีความพยายามปลดบอร์ดผ่านประชุม AGM รอบที่ 2
แหล่งข่าวยังระบุต่อว่า ความพยายามในการเปลี่ยนแปลงกรรมการที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องจริง โดยกระทรวงการคลังได้เสนอชื่อกรรมการเข้ามาถึง 10 ชื่อ และมีความตั้งใจที่จะเพิ่มจำนวนกรรมการของ บมจ.การบินไทย จากเดิมที่มีจำนวน 11 คน เป็น 15 คน
ประเด็นที่น่ากังวลคือ กระทรวงการคลังต้องการปลดกรรมการเดิมออกจากตำแหน่ง โดยพยายามเรียกประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี (Annual General Meeting: AGM) เป็นครั้งที่สองภายในปีเดียว คือ ในปีนี้ซึ่งคาดว่าจะจัดขึ้นในช่วงเดือนธันวาคมนี้ แม้ว่าช่วงเดือนเมษายนปีนี้ที่ผ่านมา การบินไทย ได้จัดประชุม AGM ไปแล้ว ซึ่งถือเป็นประเด็นที่มีความผิดปกติ และไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในการจัดประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยทั่วไป ซึ่งปกติการประชุม AGM จะจัดเพียงปีละครั้ง และขั้นตอนการเปลี่ยนกรรมการที่อยู่มายาวนาน ควรทำผ่านการประชุม AGM เท่านั้น
อย่างไรก็ดี หากมีการประชุมผู้ถือหุ้นป็นครั้งที่สองในปีเดียวกัน หากต้องการจัดประชุมผู้ถือหุ้นควรจะต้องจัดในรูปแบบการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น (Extraordinary General Meeting: EGM)
ดังนั้น จึงตั้งข้อสังเกตว่าการที่กระทรวงการคลังพยายามจัดประชุม AGM เป็นครั้งสองของปีนี้ เพื่อเปลี่ยนแปลงกรรมการที่อยู่มานานที่สุดในบอร์ด จำนวน 2 คน คือ ดร. ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ กรรมการ กับชาญศิลป์ ตรีนุชกร ปลดออกจากตำแหน่ง เพราะตามเกณฑ์หากการจัดประชุมผู้ถือหุ้น EGM จะไม่สามารถเสนอวาระปลดหรือแต่งตั้งบอร์ดต่อที่ประชุมได้ หากต้องการดำเนินการเปลี่ยนแปลงบอร์ดและแต่งตั้งบอร์ดใหม่มาแทนที่ตามเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ต้องดำเนินการผ่านการประชุม AGM
ทั้งนี้ การใช้ช่องทาง AGM ครั้งที่สองนี้ อาจมีปัญหาเรื่องการตีความทางกฎหมาย
โดยเฉพาะในประเด็นที่ต้องการเปลี่ยนกรรมการชุดเดิมออกจากตำแหน่งปัจจุบัน ซึ่งอ้างเหตุผลว่าเป็นรายชื่อผู้ที่รับตำแหน่งมานานที่สุดของการบินไทย ปัจจุบัน จำนวน 3 รายชื่อ ได้แก่ พลอากาศเอก อำนาจ จีระมณีมัย, ดร. ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ และ ชาญศิลป์ ตรีนุชกร
อย่างไรก็ดี คาดว่าในการประชุม AGM ที่เตรียมจะจัดในช่วงเดือนธันวาคมนี้ กระทรวงการคลัง จะมีการเปลี่ยนแปลง 2 บอร์ดเดิมออกจากตำแหน่ง ได้แก่ ดร. ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ และ ชาญศิลป์ ตรีนุชกร ส่วน พลอากาศเอก อำนาจ จีระมณีมัย คาดว่าจะถูกเลือกให้กลับเข้ามารับตำแหน่งบอร์ดอีกครั้ง
งบการเงินและข้อมูลทางการเงินที่สำคัญของ บมจ.การบินไทย ในช่วงทำแผนฟื้นฟูฯ และสามารถดำเนินการออกจากแผนฟื้นฟูฯ ได้สำเร็จ
คลังละเลยผู้ถือหุ้นรายอื่น ชี้ถือหุ้น ‘การบินไทย’ เพียง 38%
แหล่งข่าว ยังชี้ให้เห็นถึงความไม่เหมาะสมในการใช้อำนาจของกระทรวงการคลัง โดยเน้นย้ำว่า กระทรวงการคลังถือหุ้นอยู่เพียง 38% เท่านั้น ซึ่งยังไม่นับหน่วยงานอื่นๆ ที่อยู่ภายใต้กระทรวงการคลัง ที่มีการถือหุ้นในการบินไทย แต่กลับพยายามดำเนินการแต่งตั้งกรรมการโดยไม่สนใจผู้ถือหุ้นรายอื่น
“ปัจจุบันการบินไทยไม่ใช่บริษัทเดิมที่เคยเป็นรัฐวิสาหกิจ ไม่ใช่บริษัท เหมือน ปตท หรือรัฐวิสาหกิจอื่นๆ ที่คลังถือหุ้น 70-80% หรือ 100%” แหล่งข่าวกล่าว
หวั่นบอร์ดเก่ากลับมาทำ ‘การบินไทย’ ล้มละลาย
สิ่งที่กังวล คือ รายชื่อกรรมการใหม่บางคนนั้น เป็นบุคคลที่เคยเกี่ยวข้องกับช่วงที่การบินไทยประสบปัญหาล้มละลายมาก่อน
แหล่งข่าว ยังแสดงความกังวลอีกว่า กระทรวงการคลังมีความนำบอร์ดที่เคยนำการบินไทย ออกจากแผนฟื้นฟูฯ ได้สำเร็จออกไปจากตำแหน่งบอร์ดปัจจุบัน แต่กลับมีความพยายามแต่งตั้งบอร์ดเก่าบางรายชื่อที่เคยสร้างปัญหาในอดีตจนการบินไทยต้องเจอวิกฤตในการบริหารจัดการจนมีผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจในอดีต
พร้อมย้ำเตือนว่า วัตถุประสงค์ของการดำเนินการครั้งนี้ของ กระทรวงการคลัง คือ มีความพยายามต้องการกลับมายึดอำนาจคืน เพื่อให้มีอำนาจในการบริหารจัดการได้อย่างเต็มที่ ส่งผลให้การบริหารจัดการอาจจะกลับไปเป็นเหมือนรัฐวิสาหกิจมากขึ้นทุกที และเป็นการคิดบริหารจัดการแบบราชการ
“ถือเป็นสัญญาณเตือนว่านี่เป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าการบินไทยกำลังจะถูกพา กลับไปสู่วิกฤตอีกครั้ง หากยังคงทำงานกันแบบนี้” แหล่งข่าวกล่าว
นอกจากนี้ วิธีการบริหารจัดการของการบินไทย ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา หลังจากออกจากฟื้นฟูฯ และมีตัวแทนจากกระทรวงการคลังส่งมาทยอยนั่งในบอร์ดการบินไทย ส่งผลกระทบให้การทำงานมีความล่าช้า ไม่มีการตัดสินใจ และกระบวนการต่าง ๆ ไม่คล่องตัว
โอกาสของผู้ถือหุ้นรายอื่นในการเสนอชื่อ
แม้กระทรวงการคลังจะเสนอชื่อบอร์ดเข้ามา 10 คน แต่บริษัทการบินไทยมีความแตกต่างจากบริษัทอื่นตรงที่มีผู้ถือหุ้นอื่นที่ถือหุ้นเกิน 5% จำนวนหลายราย และพวกเขามีสิทธิ์ที่จะเสนอชื่อกรรมการเข้ามาได้ด้วย
ขณที่ บมจ.การบินไทย ได้ส่งหนังสือแจ้งให้ผู้ถือหุ้นอื่นเสนอชื่อบุคคลเข้ามาเป็นกรรมการ ภายในวันที่ 19 ตุลาคมนี้ โดยกำหนดจะเสนอรายต่อที่ประชุมบอร์ด ในวันที่ 23 ตุลาคมนี้ ซึ่งวานนี้ (9 ตุลาคม ) ได้มีการประชุมคณะกรรมการสรรหาของการบินไทย เพื่อรวบรวมรายชื่อบุคคลที่เหมาะสมที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งบอร์ดของการบินไทย เพื่อนำรายชื่อเสนอต่อที่ประชุมบอร์ดการบินไทยชุดปัจจุบันให้มีการพิจารณา จะเป็นการนำรายชื่อมาเปรียบเทียบกันระหว่างคนของกระทรวงการคลังกับรายชื่อของบุคคลของผู้ถือหุ้นอื่น
โดยสรุป แหล่งข่าวมองว่า หากการเปลี่ยนแปลงกรรมการเกิดขึ้นตามแผนของกระทรวงการคลัง การบินไทย มีความเสี่ยงอาจจะกลับไปสู่ความล้มเหลวเหมือนเดิมจนต้องเข้าแผนฟื้นกิจการอีกครั้ง
ทั้งนี้ ประเด็นที่เกิดขึ้นส่งผลกดดันราคาหุ้นของ THAI โดยวันนี้ (10 ตุลาคม) ณ เวลา 10.30 น. ราคาหุ้นอยู่ที่ 11.30 บาท ลดลง 0.20 บาท หรือลดลง 1.74%
ภาพ: Golden House Studio / Shutterstock