×

4 ปัจจัยที่ทำให้พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ เต็มไปด้วย ‘ประตู’ ทดเจ็บท้ายเกม

09.10.2025
  • LOADING...
พรีเมียร์ลีก

คุณเคยเอะใจไหมว่า ทำไมพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2025/26 ถึงเต็มไปด้วยดราม่าท้ายเกม?

 

ทั้งที่เพิ่งผ่านไปเพียง 7 นัด แต่เรากลับได้เห็น ‘ประตูช่วงทดเจ็บ’ เกิดขึ้นอย่างถล่มทลาย จนแทบทุกนัดกลายเป็นหนังชีวิตที่ต้องลุ้นจนวินาทีสุดท้าย

 

ฤดูกาลนี้ ตัวเลข 90 นาที ที่ปรากฏบนหน้าจอไม่ได้หมายความว่าเกมจะปิดฉากอีกต่อไป ในทางตรงกันข้าม มันคือช่วงเวลาที่อัดแน่นด้วยความระทึกใจ เพราะผลการแข่งขันสามารถพลิกได้ทุกวินาที 

 

สถิติจาก Opta analyst ชี้ชัดว่า ซีซันนี้มีประตูในช่วง 90+ เกิดขึ้นเฉลี่ยทุก 2.9 เกม ซึ่งเป็นความถี่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก 

 

และน่าทึ่งยิ่งกว่านั้นคือ 41.7% ของประตูเหล่านี้เปลี่ยนผลเสมอให้กลายเป็นชัยชนะ โดยมากถึง 14.3% ของเกมทั้งหมดถูกตัดสินด้วยประตูทดเจ็บ ตัวเลขที่สูงกว่าฤดูกาลก่อนถึงสองเท่า

 

เรามาดูกันว่า 4 เหตุผลสำคัญที่อยู่เบื้องหลังปรากฏการณ์ใหม่ของพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลที่ทำให้แฟนบอลไม่มีข้ออ้างจะลุกออกจากสนามก่อนหมดเวลาอีกต่อไป เพราะช่วงทดเจ็บกำลังกลายเป็นหัวใจของเกมการแข่งขัน และอาจกลายเป็นตัวแปรสำคัญในการชี้ชะตาการลุ้นแชมป์ตลอดทั้งซีซัน

 

  1. กฎใหม่ ‘เวลามากขึ้น’ = โอกาสมากขึ้น

 

หนึ่งในเหตุผลสำคัญมาจาก การเพิ่มเวลาทดเจ็บ ที่เข้มงวดขึ้นนับตั้งแต่ฤดูกาล 2023/24 เพื่อลดการถ่วงเวลา เกมพรีเมียร์ลีกจึงยืดออกไปเฉลี่ยเกิน 100 นาทีบ่อยครั้ง และนั่นทำให้พื้นที่สำหรับดราม่าช่วงท้ายเกมมีมากกว่าเดิม

 

แต่ความยาวของเกมไม่ใช่คำตอบทั้งหมด เพราะฤดูกาลนี้ เราเห็นประตูที่เกิดขึ้นในนาที 90+ มากกว่าทุกปีที่ผ่านมา แม้ค่าเฉลี่ยจำนวนประตูต่อเกม (2.6) จะต่ำที่สุดในรอบทศวรรษ แต่สัดส่วนของประตูที่เกิดหลังนาที 90 กลับสูงถึง 13.2% ของทั้งหมด

 

  1. ความฟิตนักเตะและการเปลี่ยนตัวได้ 5 คน

 

อีกหนึ่งเหตุผลที่นักวิเคราะห์ฟันธงคือ มาตรฐานความฟิตของนักเตะที่สูงขึ้น ประกอบกับกฎการเปลี่ยนตัวได้ 5 คน ทำให้ทีมใหญ่สามารถส่งพลังสดลงมาเติมเกมรุกในช่วงท้าย ขณะที่แนวรับหลายคนยังต้องเล่นครบ 90 นาที ส่งผลให้ร่างกายอ่อนล้า และนำไปสู่ความผิดพลาดได้ง่ายขึ้นในช่วงท้ายเกม

 

  1. เซตพีซที่จัดเต็ม

 

หลายทีมในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ยังมีการให้ความสำคัญกับการซ้อมลูกตั้งเตะมากขึ้นด้วย ผลคือมีประตูจากเซ็ตพีซในช่วงทดเวลาเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน จากหนึ่งลูกในทุก 15 เกม (ฤดูกาลก่อน) กลายเป็นหนึ่งลูกในทุก 10 เกม (ฤดูกาลนี้)

 

  1. เกมที่สูสีมากขึ้น

 

แม้จำนวนประตูรวมจะลดลง แต่ในรายละเอียดเกมกลับสูสีมากขึ้น เพราะไม่มีทีมใดที่ ‘แพ้ง่าย’ หรือเป็นหมูให้ใครถล่ม เห็นได้จากค่าเฉลี่ยผลต่างประตูต่อเกมเหลือเพียง 1.34 ซึ่งต่ำที่สุดในรอบ 10 ปี นั่นหมายความว่า เกมส่วนใหญ่ยังเปิดกว้างแม้เข้าสู่ช่วงทดเจ็บ ในบรรดาเกมบิ๊กแมตช์ก็เฉือนกันแทบไม่เกิน 1 ประตู ทำให้ทุกทีมยังเดินหน้าลุ้นผลจนถึงวินาทีสุดท้าย

 

อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงข้อมูลที่กลุ่นจาก 7 เกมแรกของฤดูกาลเท่านั้น แต่ ‘ประตูนาทีบาป’ ก็โผล่มาให้เห็นแบบไม่เว้นสัปดาห์ 

 

หรือนี่อาจเป็นสัญญาณเตือนว่า ฤดูกาลนี้แฟนบอลพรีเมียร์ลีกควรเตรียมใจ (และเตรียมยาดม) ไว้ให้พร้อม 

 

เพราะในเกมที่เข้มข้นดุจอเมริกาโน่แก้วเข้ม คุณไม่มีทางรู้ได้เลยว่าทีมรักจะ ‘เสิร์ฟความหวาน’ ด้วยประตูชัย หรือ ‘ทิ้งรสขม’ ด้วยการถูกยิงช่วงทดเจ็บ …จนกว่านกหวีดยาวสุดท้ายจะดังขึ้นจริงๆ 😱

 

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising